มารศาสนา ย่องขโมยเงินเหรียญในพระพุทธบาทจำรองและฉกกับข้าวพระเฝ้ามณฑป
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 13 มิถุนายน 2567 ร.ต.ท.วันรัฐธ์ จันทะรมณ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงใต้ จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุลักทรัพย์ภายในวัดบางหญ้าแพรก ซอยเทศบาลเมืองปู่เจ้าสมิงพราย 21 (ซอยวัดบางหญ้าแพรก) หมู่ 16 ถนนปู่เจ้าสมิงพราย ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเดินทางตรวจสอบที่เกิด
ที่เกิดเหตุอยู่ ภายในมณฑป มีพระพุทธรูปหลวงพ่อเผย หลวงพ่อโสธรองค์จำรอง จังหวัดฉะเชิงเทรา หลวงพ่อโตองค์จำลองวัดบางพลีใหญ่ หลวงพ่อวัดบ้านแหลมองค์จำลองสมุทรสงคราม และมีตู้บริจาครวมทั้งมีพระพุทธบาทจำลอง ซึ่งเปิดให้ชาวบ้านได้มากราบไหว้สักการบูชาและร่วมทำบุญ พระอธิการมนัส สุมะโน อายุ 50 ปี เจ้าอาวาสวัดบางหญ้าแพรก และ พระ อาคเณ นาถธัมโม อายุ 55 ปี พระลูกวัดที่ทำหน้าที่ดูแลมณฑป ได้พาไปดูที่จุดเกิดเหตุตรงแท่นพระพุทธบาทจำลอง มี เหรียญบาท เหรียญ 5 และ เหรียญ 10 ที่ชาวบ้านมาทำบุญ ได้หายไปประมาณเกือบ 100 บาท และผู้ก่อเหตุได้พยายามหยิบถุงกับข้าวของพระที่ดูแลมณฑปไปด้วย แต่พระสามารถทวงคืนมาได้
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในวัดพบว่า ผู้ก่อเหตุมาด้วยกัน 3 คน โดยขับรถเก๋งสีขาวมาจอดภายในเต็นท์หน้าโบสถ์เก่า เวลาประมาณ 07.39 น. จากนั้นคนขับรถใส่ชุดซาฟารีสีกรมอายุไม่ต่ำกว่า 60 ปี ได้เดินลงมาจากรถ พร้อมพวกอีก 2 คน ที่นั่งมาข้างใส่เสื้อเชิ้ตลายสก๊อตสีแดง กางเกงขายาวสีดำ อายุไม่ต่ำกว่า 60 ปี และที่นั่งที่เบาะหลัง เป็นชายอายุไม่ต่ำกว่า 60 ปี ใส่เสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีขาว กางเกงขายาวสีดำ ต่างคนต่างแยกย้ายเดินดูภายในวัด จากนั้นผู้ชายที่ใส่ชุดซาฟารีสีกรม ได้เดินขึ้นไปในมณฑปเหมือนจะขึ้นไปไหว้พระ และชายเสื้อแดงก็เดินตามขึ้นไป แต่ไปพบกับ พระอาคเณ ซึ่งเป็นพระดูแลในมณฑป หลังจากนั้นชายเสื้อแดงได้เดินลงมานั่งอยู่บริเวณตรงบันไดเป็นจังหวะเดียวกันที่เด็กวัดได้เข็นกับข้าวผ่านมา พระอาคเณ ได้เดินลงมาจากมณฑปเพื่อไปรับอาหารฉันเพล และเอาขึ้นไปวางไว้ที่โต๊ะทำงานในมณฑป ชายเสื้อแดงก็ได้ขอกับข้าวที่วัดด้วย เวลา 08.14 น. ชายที่ใส่ชุดซาฟารีได้เดินไปที่แท่นตั้งพระพุทธบาทจำลอง ซึ่งในนั้นมีเหรียญที่มีญาติโยมชาวบ้านมาทำบุญไว้ ได้ก่อเหตุเลือกหยิบเฉพาะเหรียญ 5 กับเหรียญ 10 ใส่กระเป๋าตัวเองเนื่องจากพระที่ดูแลมณฑปกำลังเดินเข้ามาพอดี และจากนั้นจึงได้ออกไปบริเวณโต๊ะทำงานของพระที่ดูแลมณฑป และไปหยิบถุงกับข้าวของพระที่เตรียมไว้ฉันเพลไปด้วย จนพระอาคเณ เห็นว่าถือถุงกับข้าวไปจึงได้เดินไปตามเอาคืนมา แต่ไม่รู้ว่าชายคนดังกล่าวได้ก่อเหตุลักทรัพย์เหรียญในพระพุทธบาทจำลองไปแล้ว จนมาเปิดกล้องวงจรปิดดูถึงได้รู้ว่าชายทั้ง 3 คนที่มารถเก๋งสีขาว ได้มาก่อเหตุลักเงินทำบุญภายในมณฑป จากนั้นทางเจ้าอาวาสจึงให้พระลูกวัดไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.สำโรงใต้ และทางวัดจะประชาสัมพันธ์วัดในพื้นที่ให้ระวังผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คนนี้ เพราะดูแล้วแต่ละคนอายุไม่ต่ำกว่า 60 ปี ทางเจ้าอาวาสเห็นจึงเกิดสงสารเห็นแก่แล้วทั้ง 3 คนก็เลยไม่ได้เอาเรื่องแต่ไปแจ้งความเอาไว้เผื่อทั้ง 3 คนนี้ตระเวนก่อเหตุวัดอื่นซ้ำอีก แต่ทางส่วนตัวเจ้าอาวาสคาดว่าทั้ง 3 คนนี้น่าจะเป็นแก๊ง ขโมยทรัพย์สินของวัดหรือ น่าจะเป็นแก๊งที่หาของเก่าของโบราณเพื่อเอาไปขายในกลุ่มผู้ที่เล่นของโบราณ ถึงอย่างไรก็ตามก็ฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามตัวไปดำเนินคดีเพราะคิดว่าที่วัดไม่ใช่เป็นวัดแรกที่ถูกก่อเหตุ
พระอธิการมนัส สุมโน อายุ 50 ปี เจ้าอาวาสวัดบางหญ้าแพรก ได้เล่าให้ฟังว่า ช่วงเช้าเวลาประมาณ 7 โมงกว่าๆพระลูกวัดมาดูแลมณฑป อาตมาได้ล้างและทำความสะอาดอยู่อีกฝั่งนึง พระลูกวัดเดินมาบอกว่ามีคนมาหยิบเงิน อาตมาจึงเดินขึ้นมาแต่จังหวะที่เดินขึ้นมาเขาเคลียร์กันแล้ว เขาลงไปกันหมดแล้วอาตมาจึงเดินมายังบริเวณหน้ามณฑป และบอกเขาว่าโยมมาทำอะไรกันมาขโมยเงินกันหรือ และเขาปฏิเสธแต่พูดด้วยน้ำเสียงที่เบา อาตมาจึงพูดไปว่าโยมไม่กลัวบาปกันหรือแต่ละคนก็อายุเยอะกันแล้วนะ น่าสงสารเอาความชราภาพ มาที่วัดทำให้เราตายใจ ด้วยพฤติกรรมมันไม่เหมือนชาวบ้าน ถ้าชาวบ้านมาที่วัดก็ต้องมาทำบุญหรือถามพระว่า ทำบุญอย่างไรแต่ พวกนี้มานั่ง และสุดท้ายไปๆมาๆกลายเป็นขบวนการเสียอีก มีรถเก๋งมาด้วยกัน 3 คน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นแต่ยังไม่มีกล้องวงจรปิดไปแล้วยกตู้บริจาคไปเลย อาตมาอยากจะฝากเตือนทุกวัด ว่าให้มันสังเกต จริงๆเรามีประสบการณ์พฤติกรรมของแต่ละคนเรารู้อยู่แล้ว คนมาทำบุญกับคนมาทำบาปพฤติกรรมมันออก ซึ่งแบบนี้เรามองเห็นได้ชัดอยู่แล้วว่าเข้ามาที่วัดไม่ได้มาทำบุญ เพราะว่าคนทำบุญต้องมีอีกลักษณะหนึ่ง เราในฐานะที่เป็นพระเราต้องรู้อยู่แล้ว อีกอย่างหนึ่งบุคคลดังกล่าวชะลาภาพอยู่แล้วก็ไม่น่าจะมาทำบาป ซึ่งตอนแรกพระลูกวัดไม่รู้จริงมาดูภาพกล้องวงจรปิด มากัน 3 คนโดยเอารถเก๋งสีขาวเข้ามา ในฐานะที่อาตมาเป็นพระเงินจำนวนไม่มากเราก็อยากจะมีความเมตตาแต่ความเมตตา เขาเอาไปใช้เป็นกระบวนการ ต่อไปก็จะมีเยอะ อันนี้ก็ยังถือว่าโชคดีที่ว่า ตู้บริจาคเรายังไม่โดนยกแค่มีการหยิบเหรียญ แต่ถ้าวัดอื่นก็ไม่แน่ฉะนั้นแล้วพฤติกรรมแบบพวกนี้ โดยเฉพาะ 3 คนชรานี้ระวังให้ดี เกรงว่าจะไปก่อเหตุที่วัดอื่น เงินก็ไม่ใช่เงินเราแต่เป็นเงินของญาติโยม แต่มันก็ไม่เหมาะสมที่จะมาขโมยเงินในวัด มันบาปกรรม หรือว่าพระสอนไม่ดีก็ไม่รู้คำว่าบาปและคำว่ากรรมมันก็เลยไม่ซึมซับ
พระอาคเณ นาถธัมโม พระลูกวัดที่โดนขโมยเเกง และเฝ้ามณฑป หลวงพ่อเผย ได้เล่าให้ฟังว่า อาตมาคอยดูตามกุฏิแบบที่เคยทำมาทุกวัน พอดีนั่งอยู่เห็นกลุ่มชายชราขึ้นมาก็เลย เลยถามว่าโยม มาปิดทองไหว้พระหรอ แต่เขาไม่คุยกับผมขึ้นมาแล้ว ไม่ได้ไหว้พระ และนั่งชันเข่าจากนั้นเพื่อนเขาก็ตามขึ้นมา ผมก็นั่งอยู่บริเวณตรงประตูจากนั้นลูกศิษย์เรียก ให้ไปเอาพระอาหารผมจึงลงไป จากนั้นเพื่อนอีกคนหนึ่งเขาได้ยืนบังไว้ แต่ผมก็เอะใจตั้งแต่ทีแรกแล้วว่าเขาขึ้นมาแล้วมองบาตร ซึ่งผมเอะใจจึงไปนั่งมองที่ตรงประตู ดูพฤติกรรมเขาเริ่มไม่ดี ผมขึ้นมาเห็นหอบสตางค์ ขึ้นมาจึงบอกไปว่า โยมวางลง ขโมยทำไมของวัด เขาบอกว่าไม่ได้ขโมยและเขาก็วางลง ซึ่งอาตมาก็เห็นว่าเขาหยิบตังค์แต่ก็ได้พูดเตือนออกไป และเขาก็วางไว้ที่เดินตามปกติ อาตมาจึงโทรแจ้งเจ้าอาวาส แต่ส่วนที่เขาเอาไปก่อนตนเองไม่เห็นอันนี้ไม่ทราบ ซึ่งเขามาด้วยกัน 3 คนแต่ขึ้นมาด้านบน 2 คน ซึ่งมารู้ภายหลังว่าเขามีรถเก๋งมาจอดรอหลังจากดูภาพกล้องวงจรปิด ซึ่งแต่ละคนก็ดูแล้วอายุ 60 ขึ้นหมดเลย โดยแต่งตัวดูดี 1 คนและแต่งตัวแบบชาวบ้านอีก 2 คน ซึ่ง ก่อนกลับ คนร้าย 3 คนก็ได้หยิบถุงแกงซึ่งเป็นกับข้าวของอาตมาไปอีก อาตมาจึงไปเอาคืนเพราะยังไม่ได้ฉัน คนร้ายวัยชราก็ส่งคืนมาให้ ซึ่งกลุ่มคนร้ายดังกล่าวอาตมาคุ้นๆเหมือนจะเคยเห็นหน้า พฤติกรรม ดังกล่าว เป็นคนร้ายตั้งใจมาขโมยเงินแน่นอน เพราะเขาเข้ามาเขาไม่ได้นั่งไหว้พระแต่นั่งมองและชันเข่า โดยทำกันเป็นทีม เพราะเขาขึ้นมานั่งชันเขาและมองที่บาตพระ ที่ไว้สำหรับใส่เหรียญ 100 องค์ โดยก้มลงไปมอง ซึ่ง กลุ่มคนร้ายนี้มากันตั้งแต่เช้าแล้ว ซึ่งอ้างว่าจะมาหาท่านเจ้าอาวาสแต่มานั่งรอ ด้านบนของมณฑป
ทางด้าน พ.ต.อ.รักศักดิ์ เมฆจินดา ผกก.สภ.สำโรงใต้ ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวและติดตามตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 3 รายมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว เพราะเกรงว่าจะไปก่อเหตุกับวัดในพื้นที่หรือใกล้เคียงอีก
************************
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ