ข้าราชการไทยข่าวพาดหัวตรวจสอบอาชญากรรม

” บิ๊กเต่า “รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางยันเป็นศัตรูกับเสี่ยโจ้เผยคืบหน้าเรือวิ่งได้5น๊อต หรือ 5 ไมล์ ต่อชั่วโมงและของกลางอาจอยู่ครบ

บิ๊กเต่ารองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางยันเป็นศัตรูกับเสี่ยโจ้เผยคืบหน้าเรือวิ่งได้5น๊อต หรือ 5 ไมล์ ต่อชั่วโมงและของกลางอาจอยู่ครบ
คืบหน้า กรณีตรวจยึดเรือของกลาง 3 ลำที่หลบอยู่ได้แล้ว ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 นพล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
หลังจากได้ประชุมความคืบหน้า ได้ เปิดเผยว่า ตอนนี้ เรือวิ่ง ได้ความเร็วได้ 5 น็อต หรือ 5 ไมล์ ต่อชั่วโมง และยังต้องลากเรือที่เครื่องยนต์เสียอีก 1 ลำ ซึ่งคาดว่าจะมาถึงฝั่งประมาณ 16.30 ซึ่งตอนนี้ยังห่างชายฝั่งอยู่ประมาณ 25 ไมล์ทะเล ซึ่งหลังจากผู้ต้องหาและของการเดินทางมาถึง จะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดซึ่งคาดว่ามีไม่ถึง 8 รายมาสอบสวนก่อนและจะให้สพฐ 9 เข้าตรวจสอบเรืออย่างละเอียด เพื่อ หลักฐาน


พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
เปิดเผยอีกว่าอยากจะได้ข้อ เท็จจริงจากปากของผู้ต้องหาเพื่อมาประกอบกับแนวทางการสอบสวน เนื่องจากมีไทม์ลายเส้นทางการหลบ หนีตั้งแต่ท่าเรือสัตหีบจนถึงปัจจุบัน และเมื่อสอบสวนเรียบร้อยแล้วจะให้สัมภาษณ์แต่ไม่แน่ใจว่าจะเป็นวันนี้หรือพรุ่งนี้ แต่จะพยายามให้จบภายในวันนี้ ส่วนผู้ต้องหาจะเหลือกี่คนหรือมีของกลางเหลืออยู่เท่าไหร่นั้นเมื่อกลับมาถึงชายฝั่งจะตรวจสอบอย่างละเอียด
แต่เบื้องต้นของกลางและผู้ต้องหาอาจจะอยู่ไม่ครบตามจำนวนที่หลบหนีไป
พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และทางตำรวจสอบสวนกลาง ถือเป็น คู่ขัดแย้งกับเสี่ยโจ้ อย่างแน่นอนและไม่มีการอั๊วกันหรืออะไรแน่นอน
ส่วนผู้ต้องหาทั้งหมดหลังจากกลับขึ้นฝั่งแล้วจะฝากขังที่สภ.เมืองก่อนและจะนำตัว ผู้ต้องหาทั้งหมดขึ้นเครื่องไปดำเนินคดีที่ตำรวจกลางต่อไป
ผู้สื่อข่าว ยัง ได้ข้อมูลว่า ทางตำรวจ จะลงเรือไป ยังกลางทะเล เพื่อรับตัวผู้ต้องหาก่อน แล้วจะทำตัวกลับมา เพื่อสอบสวน และจะทิ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจบางส่วนและเก็บข้อมูลหลักฐาน บนเรือก่อนจะกลับเข้ามาพร้อมกัน

พี่เสือ นักข่าว สงขลา