อุบัติเหตุ

ไฟส่องทางไม่มี รถกระบะมองไม่เห็นคนเดินข้ามดับสลดคาที่เซ่นถนนไร้ไฟส่องทาง

ไฟส่องทางไม่มี รถกระบะมองไม่เห็นคนเดินข้ามดับสลดคาที่เซ่นถนนไร้ไฟส่องทาง

วันที่ 19 มิถุนายน 2567
เวลา 22.30 น.

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าพระ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถชนคนเดินเท้า บริเวณใกล้เคียงปากซอย เพชรเกษมซอยที่ 4 และภายในที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต เป็นชาย 1 ราย จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และ อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุจุดเกิดเหตุดังกล่าวอยู่บริเวณกลางถนน เพชรเกษม ใกล้เคียงปากซอยเพชรเกษมซอยที่ 4 แขวง วัดท่าพระ เขต บางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร จุดเกิดเหตุเป็นลักษณะถนน 4 เลน ทิศทางมุ่งหน้าวงเวียนใหญ่ พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย บริเวณกลางถนนเลนที่ 3 อายุประมาณ 40-45 ปี ในสภาพนอนตะแคงข้าง มีบาดแผลเปิดขนาดใหญ่บริเวณศรีษะ มีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก และมีชิ้นส่วนของกระโหลกศรีษะ และมันสมองกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณพื้นถนน มีบาดแผลถลอกบริเวณร่างกายหลายแห่ง สวมใส่กางเกงขาสั้นสีน้ำตาล ไม่สวมเสื้อและรองเท้า ไม่พบเอกสารระบุตัวตน แล้วก็ไม่พบทรัพย์สินใดๆภายในตัวผู้เสียชีวิต ถัดมาไม่ไกลกันมากพบรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีดำ ในสภาพกันชนด้านหน้า และฝากระโปรงด้านหน้ายุบตัวอย่างเห็นได้ชัดเจน จอดอยู่บริเวณขอบฟุตบาธ โดยมีผู้ขับขี่รถกระบะคันดังกล่าวยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ภายในที่เกิดเหต และใกล้กันยังมีรถยนต์นั่งส่วนบุคคลอีก 1 คัน ยี่ห้อ MG สีบลอนด์เทา จอดอยู่ด้วยซึ่งผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวก็ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเหมือนกัน

จากการสอบถามผู้ขับขี่รถกระบะ เป็นชาย อายุ 29 ปี กล่าวว่า ตนขับรถลงสะพานมาตนเห็นว่าขวามือมีด่านแล้วถนนใต้สะพานมันมืดตนก็ขับรถมาแบบตรงๆแล้วรถของตนมันสูงและพอตนรู้ตัวอีกทีตอนที่แฟนของตนบอกชนคน ตนก็จอดเลยแล้วตนก็ลงมาแค่นั้นจริงๆตนไม่เห็นเลยว่าอะไรตัดหน้าหรือไม่ตัดหน้าเพราะว่ามันมืดมากแล้วน้องผู้หญิงที่มาสองคนที่ตามหลังตนมาก็เห็นเหมือนกันว่ามันมืดมากแต่ตนแค่ซวยตรงที่มาก่อนแล้วตนก็ไม่รู้ว่าเขามาจากไหนเพราะสิ่งที่ได้ยินมันคือเสียงมันมืดมากแล้วมันก็มืดจริงๆแล้วตรงนี้มันไม่มีไฟเลยตรงใต้สะพานลอย พอตนรู้ตัวว่าชนก็จอดรถแล้วก็เดินลงไปดูแต่ตนไปไม่ถึงเขาพอตนจอดรถตำรวจก็ข้ามมาหมดแล้ว และตนก็มีอาการเหมือนจะเป็นลมแล้วพี่ตำรวจก็มาบอกว่าให้ยืนรออยู่ตรงนี้ไม่ต้องเข้าไปตนก็เลยยืนรออยู่ตรงที่ตำรวจบอกให้รอ

ส่วนทางด้านผู้ขับขี่รถยนต์นั่งส่วนบุคคล บอกว่าตนไม่ขอพูดอะไรตรงนี้ตนขอไปเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจฟังเท่านั้นจะดีกว่า

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวผู้ขับขี่รถกระบะ และผู้ขับขี่รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไปที่สถานีตำรวจเพื่อสอบถามเรื่องราวของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดอีกครั้งก่อนที่จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ส่วนร่างผู้เสียชีวิตได้มอบหมายให้อาสาสมัครนำร่างผู้เสียชีวิตไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่นิติเวชโรงพยาบาลศิริราชและจะเร่งติดตามหาญาติให้มารับร่างผู้เสียชีวิตนำไปประกอบพิธีทางศาสนา