จับนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสอ้างตัวเป็นผู้นำศาสนาอิสลามคอยชวนนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้าร่วมพิธีศาสนาอยู่เกินตามที่กฎหมายกำหนดแล้วมา3เดือน
วันนี้22 มิถุนายน 2567 พล.ต.ท. ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สั่งการให้ พ.ต.ท.วินิจ บุญชิต สว.ส.ทท.5 กก.2 บก.ทท.3 ได้สั่งการให้ ตำรวจท่องเที่ยวประจำเกาะพะงัน เข้าจับกุม นายอีวาริสต์ โดอาบุ คูดูคูโฮ หรือ Mr.Evariste Douabou Koudoukouho
สัญชาติ ฝรั่งเศส อายุ 39 ปี ที่ มัสยิดบูเลามลายู ต.บ้านใต้ อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียน ว่ามีชาวต่างชาติ มาอาศัยอยู่ใกล้มัสยิด และ อ้างตัวเองว่าเป็นผู้นำศาสนาอิสลามคอย เข้าร่วมพิธีศาสนาอิสลามและยัง ชักชวน นักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่มาท่องเที่ยวในเกาะพะงัน ให้มาร่วมพิธีทางศาสนาอิสลามภายในมัสยิด
วันนี้เจ้าหน้าที่จึงได้เฝ้าสังเกตการณ์ จึงพบเห็นชาวต่างชาติที่ ที่มีลักษณะตรงกับที่ได้รับการร้องเรียน จึงเข้าแสดงตัวตรวจค้น ซึ่ง นายอีวาริสต์ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ก็ ลุกลี้ลุกลนมีพิรุธ และเมื่อเจ้าหน้าที่ขอตรวจค้นหนังสือเดินทาง ก็อ้างว่าอยู่อีกจุดหนึ่งที่ตนกางเต็นท์นอน ซึ่งอยู่ใกล้กับมัสยิด ดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวไปที่เต็นท์และตรวจสอบเดินทางพบว่าถือวีซ่านักท่องเที่ยว แค่ 30 วันแต่ นายอีวาริสต์ อยู่เกินตามที่กฎหมายกำหนดแล้วมา 3 เดือน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา“เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (อยู่เกินกำหนด 78 วัน) และคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.เกาะพะงันเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วันนี้22 มิถุนายน 2567 พล.ต.ท. ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สั่งการให้ พ.ต.ท.วินิจ บุญชิต สว.ส.ทท.5 กก.2 บก.ทท.3 ได้สั่งการให้ ตำรวจท่องเที่ยวประจำเกาะพะงัน เข้าจับกุม นายอีวาริสต์ โดอาบุ คูดูคูโฮ หรือ Mr.Evariste Douabou Koudoukouho
สัญชาติ ฝรั่งเศส อายุ 39 ปี ที่ มัสยิดบูเลามลายู ต.บ้านใต้ อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียน ว่ามีชาวต่างชาติ มาอาศัยอยู่ใกล้มัสยิด และ อ้างตัวเองว่าเป็นผู้นำศาสนาอิสลามคอย เข้าร่วมพิธีศาสนาอิสลามและยัง ชักชวน นักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่มาท่องเที่ยวในเกาะพะงัน ให้มาร่วมพิธีทางศาสนาอิสลามภายในมัสยิด
วันนี้เจ้าหน้าที่จึงได้เฝ้าสังเกตการณ์ จึงพบเห็นชาวต่างชาติที่ ที่มีลักษณะตรงกับที่ได้รับการร้องเรียน จึงเข้าแสดงตัวตรวจค้น ซึ่ง นายอีวาริสต์ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ก็ ลุกลี้ลุกลนมีพิรุธ และเมื่อเจ้าหน้าที่ขอตรวจค้นหนังสือเดินทาง ก็อ้างว่าอยู่อีกจุดหนึ่งที่ตนกางเต็นท์นอน ซึ่งอยู่ใกล้กับมัสยิด ดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวไปที่เต็นท์และตรวจสอบเดินทางพบว่าถือวีซ่านักท่องเที่ยว แค่ 30 วันแต่ นายอีวาริสต์ อยู่เกินตามที่กฎหมายกำหนดแล้วมา 3 เดือน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา“เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (อยู่เกินกำหนด 78 วัน) และคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.เกาะพะงันเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พี่เสือ นักข่าว สงขลา
