ข่าวพาดหัวฆาตกรรม

ร้อยเอ็ด – รวบน้องเมียใช้ขวานฟันคอพี่เขยหวิดขาด

เมื่อเวลา 10.22 น. ของวันที่ 28 มิ.ย. 2567ร.ต.อ.เกรียงไกร ธงเสนา รอง สว.สอบสวน สภ.ทุ่งเขาหลวง ได้รับแจ้งว่ามีเหตุฆ่ากันตายที่บ้านท่าโพธ์ หมู่ 7 ตำบลทุ่งเขาหลวง อำเภอทุ่งเขาหลวง จังหวัดร้อยเอ็ด จึงรุดออกตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.อวยชัย ภูมิวิเศษ รอง ผกก.หัวหน้า(สอบสวน) พ.ต.ท.นิติภัทร ชุมพล สารวัตรสอบสวน ชุดสืบสวน กู้ภัยศิลานคร แพทย์เวร รพ.ทุ่งเขาหลวง

จุดเกิดเหตุบริเวณกระท่อมกลางทุ่งนาพบศพชาย สวมเสื้อเชิ๊ตสีส้ม กาวเกงขาสั้นสีเทา นอนจมกองเลือด สภาพศพถูกฟันด้วยของมีคมเป็นแผลฏกรรย์บริเวณต้นคอหวิดขาด เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ทราบชื่อต่อมาคือคือ นาย รักชาติ เยาวภา อายุ 58 ปี ที่อยู่ตามบัตรปชช. บ้านเลขที่ 27 ม.7 ต.ทุ่งเขาหลวง อ.ทุ่งเขาหลวง จ.ร้อยเอ็ด แพทย์เวรจึงทำการชันสูตรพลิกศพในเบื้องต้น พบที่ ลำคอ เฉียงบริเวณใต้ใบหูฝั่งซ้ายถูกฟันด้วยของมีคมหวิดขาดออกจากกัน และศีรษะ มีรอยแผลถูกฟัน 1 แผล ก่อนส่งผ่าพิสูจน์หาสาเหตุของการเสียชีวิต ที่นิติเวช รพ.ร้อยเอ็ดต่อไป


ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือนายวัชรินทร์ ฉ่ำมณี อายุ 56 ปี อาศัยอยู่ที่เดียวกัน หลังก่อเหตุเจ้าหน้าที่ไปควบคุมตัวมาสอบสวนพร้อมอาวุธ ที่ใช้ก่อเหตุคือขวาน 1 ด้าม ยาวประมาณ 45 เซ็นติเมตร

ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นญาติพี่น้องกัน ซึ่งตนเองมีศักเป็นน้องเมีย ส่วนผู้เสียชีวิตเป็นพี่เขย ไม่พอใจกันมานานแล้วและเคยมีปากมีเสียงกันระหองระแหงกันมาตลอด จึงเก็บความแค้นไว้ในใจมานานกระทั่งสบโอกาสขณะที่ผู้เสียนอนอุ้มหลานเล่นอนู่บนเปลยวน จังหว่ะนั้นจึงใช้ขวานเข้าไปจามที่ลำคออย่างแรงจนไม่มีโอกาสร้อง และหลานชายอายุ 6 เดือนหลุดมือตกจากเปล

สอบถาม(เสื้อคลุม กลมสีออกเขียว) นางจันทร์เพ็ญ เยาวภา อายุ 64 ปี ภรรยาผู้ตาย ภรรยาผู้ตาย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ก่อเหตุได้มาที่บ้านเพื่อขอเงิน 20 บาทไปซื้อไม้ขีดไฟ และหยอกล้อหลานชายวัย 6 เดือน หลังจากนั้นตนและสามีจึงได้ขี่จักรยานยนต์พร้อมกับหลานชายออกไปที่กระท่อมจุดเกิดเหตุ หลังจากนั้นไม่นานผู้ก่อเหตุเดินเข้าไป มีท่าทีรุกรี้รุกรน ตนจึงถามว่ามาหาหลานชาย แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบจึงเดินไปที่บริเวณข้างกระท่อม ซึ่งมีผู้ตายนอนหันหลังให้กับผู้ก่อเหตุ โดยมีหลานชายวัยหกขวบนั่งอยู่บนหน้าท้อง เป็นลักษณะกำลังหยอกล้อหลาน ผู้ก่อเหตุจึงใช้ขวานจามเข้าที่บริเวณต้นคอและศีรษะสองครั้งตนเห็นต่อหน้าต่อตา แทบจะเป็นลม ได้แต่ร้องขอชีวิตให้กับสามี และไปแย่งเอาหลานชายออกจากอกของผู้ตาย ก่อนจะวิ่งมาขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน

ตนไม่ยกโทษและไม่ต้องมาขอขมา เพราะตนไม่อยากเห็นหน้า ปมการก่อเหตุอะไรแต่ประมาณ 10 ปีที่แล้วก็ เคยมีเรื่องลาวทะเลาะเบาะแว้งชกต่อยกันกับผู้ตาย ซึ่งหลังจากนั้นก็ไปบวชและสึกออกมาก็ให้ไปสร้างบ้านอยู่ห่างจากบ้านของตนประมาณ 100 เมตร ก็ต่างคนต่าง อยู่ซึ่งปกติผู้ก่อเหตุจะชอบมาหยอกล้อหลานชายและถ้าผู้ตายเข้ามาหา ก็จะมีลักษณะหึงหวงหลานชายคนนี้ ตนก็ไม่ทราบปมเหตุที่แน่ชัดเพราะลักษณะของผู้ก่อเหตุเป็นคนที่เดาใจยากเพราะไม่ค่อยพูดจาอะไร แต่เมื่อพูดออกมาก็จะเป็นในแนวทางของเหมือนตนบรรลุโสดาบัน หรือพูดเกี่ยวกับการเป่าคาถาเหมือนกับไปบวชมาแล้วมี ลักษณะเป็นผู้มีวิชาอาคม พกมีดและขวานติดตัวตลอด ตนและชาวบ้านเองก็หวาดกลัว ตนก็อยากให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะเหตุการณ์นี้สะเทือนใจทั้งตนและหลานชายที่เห็นต่อหน้าต่อตาว่าตาของตนถูกฆ่าตาย

ต่อมาได้มีลูกสาวผู้เสียชีวิตเดินทางมาติดต่อขอเอกสารการตาย กับพนักงานสอบสวน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เด็กที่อยู่ในเหตุการณ์คือลูกของตนเอง ผู้เสียชีวิตคือพ่อ เรื่องที่เกิดขึ้นรู้สึกเสียใจมากจนจุกอกพูดไม่ออก และที่แน่ๆคือรู้ว่าทั้งคู่มีปัญหากันมานาน ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฏหมาย เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา”ฆ่าผู้อื่น ”

ภาพ​/ข่าว​::พงษ์พัฒน์​ นาม​สอน​/ร้อยเอ็ด​