ข่าวประชาสัมพันธ์ตรวจสอบทุกข์ชาวบ้านลักทรัพย์

โจรวัยดึกย่องงัดร้านเฟอร์นิเจอร์เข้าไปขโมยพระพุทธรูปกับเทวรูป ไป 4 องค์

โจรวัยดึกย่องงัดร้านเฟอร์นิเจอร์เข้าไปขโมยพระพุทธรูปกับเทวรูป ไป 4 องค์
เสียร้านเฟอร์นิเจอร์เซ็งโดยโจรย่องงัดร้านไปแล้ว 2 รอบ แต่ยังจับตัวหัวขโมยไม่ได้ ครั้งแรกโดนโน้ตบุ๊กกับไอแพด ส่วนครั้งนี้ไม่มีของมีค่าให้เอา เลยหยิบพระพุทธรูปกับเทวรูป ไปแทน วอนโจรช่วยเอามาคืนเพราะมีคุณค่าทางจิตใจ
เมื่อช่วงเย็น วันที่ 28 มิถุนายน 2567 ทีมข่าวเราได้รับเรื่องร้องทุกข์จาก นายโชควันชัย ตั้งสกุลธนาวัฒน์ อายุ 48 ปี เสียเจ้าของร้านเฟอร์นิเจอร์แห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ภายในซอยมังกร-ขันดี หรือ ซอยเทพารักษ์ 116 ตำบลเทพารักษ์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ถูกขโมยขึ้นร้านสองครั้ง แต่ยังจับตัวหัวขโมยไม่ได้


หลังรับเรื่องทีมข่าวเราจึงได้เดินทางไปพบกับ นายโชควันชัย เสียเจ้าของร้าน ได้พาทีมข่าวเราไปดูเส้นทางของ หัวขโมย ที่เข้ามางัดร้านเฟอร์นิเจอร์ของตัวเอง ซึ่งเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 19 มิถุนายน 2567 เวลาประมาณ 03.33 น เวลาตามกล้องวงจรปิด ซึ่งจากภาพกล้องวงจรปิดจะพบว่า หัวขโมย นั้น เป็นชาย 1 คน ซึ่งจากภาพคาดว่าเป็นชายวัยสูงอายุ ขี่รถจักรยานมาจอดไว้ข้างร้านดังกล่าว ก่อนที่จะเดินเลาะข้างร้านเข้าไปที่หลังร้านก่อนจะงัดหน้าต่างด้านหลังเข้าไปรื้อค้นทรัพย์สินภายในร้านดังกล่าว แต่ไม่พบทรัพย์สินที่มีค่า หัวขโมย จึงหันไปหยิบ พระพุทธกับเทวรูป ไป 4 องค์ พร้อมกับเศษเหรียญจำนวนหนึ่ง ก่อนที่จะออกมาจากร้านขี่รถจักรยานหลบหนีไป หลังจากเกิดเหตุทาง นายโชควันชัย ได้เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ พร้อมกับภาพวงจรปิดที่สามารถบันทึกช่วงเวลาเกิดเหตุไว้ได้


นายโชควันชัย เผยว่า วันนั้นเป็นเช้าวันพุธที่ 19 มิถุนายน 67 ประมาณตี 3 เขา( หัวขโมย ) ปีนเข้ามาจากหน้าต่างด้านหลัง ใช้ถังรองแล้วก็ปีนขึ้นมาอีกที ทั้ง ๆ ที่ตนก็ปิดหน้าต่างเอาไว้เป็นอย่างดี เขาได้เอาพระไปทั้งหมด 4 รูป รวมมูลค่ากว่าหมื่นบาท และ พระก็มีมูลค่าทางใจกับตนด้วย หลังจากนั้นตนได้มีการไปถามกับคนที่อยู่แถวนั้นว่าพอจะเคยรู้จักหรือเคยเห็นหน้าเขาไหม ก็ได้รับคำตอบว่าเคยเห็น เป็นคนเก็บขยะเก็บของเก่าขายและมักจะออกมาช่วงเวลา 2 ทุ่มกว่า แต่จนถึงวันนี้ตนก็ยังไม่เคยเห็นเขาเลย และ ตนก็ได้แจ้งความเอาไว้แล้วที่ สภ.สำโรงเหนือ เหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดกับที่ร้านของตนมาก่อนแล้ว ครั้งนั้นถูกขโมยโน้ตบุ๊กกับไอแพดไป แต่ก็ยังจับไม่ได้ และ ตนก็ไปแจ้งความเอาไว้เหมือนกับครั้งนี้ ส่งหลักฐานทุกอย่างให้ทั้งหมดเหมือนกัน และ ครั้งก่อนกล้องวงจรปิดก็ชัดกว่าครั้งนี้ด้วย แต่ก็ยังตามจับไม่ได้
ตนอยากจะฝากบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า ถ้าเกิดตำรวจไม่ทำงานคนประเภทนี้ก็จะยังมีเยอะ แต่ถ้าตำรวจทำงานคนประเภทนี้จะน้อยลง เพราะเขาไม่กลัว เพราะพอขโมยได้แล้ว เขาก็จะขโมยอีก มันเลยมีขโมยในประเทศไทยเยอะ เพราะตำรวจไม่ทำงานเรื่องขโมยเล็กขโมยน้อยแบบนี้ อยากให้ตำรวจทำงานเยอะกว่านี้ และ อยากจะฝากบอกกับคนที่ขโมยไปว่าให้เขาเอามาคืน แค่เอามาวางเอาไว้ที่หน้าร้านก็ได้
**********************
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ