วันที่ 30 มิถุนายน 2567 เวลา 16.00 น.
พันตำรวจตรี ชิตวรรษ เนื้ออ่อน สว.สอบสวน สน.บางยี่เรือ รับแจ้งมีผู้สูญหายภายในคลองบางกอกใหญ่บริเวณใต้สะพานเนาวจำเนียร จึงรีบรุดจัดกำลัง พร้อมประสานอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูเร่งรัดจัดชุดปฏิบัติการพิเศษกู้ภัยทาน้ำและนักประดาน้ำ ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่พร้อมอาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุพบจุดเกิดเหตุอยู่ภายในคลองบางกอกใหญ่ใต้สะพานเนาวจำเนียร ถนน เพชรเกษม แขวง วัดท่าพระ เขต บางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร ในพื้นที่ของ สน.บางยี่เรือ จากการตรวจสอบแล้วพบว่าผู้สูญหายภายในน้ำเป็นชาย 1 ราย อายุ 46 ปี ซึ่งทราบชื่อต่อมาภายหลังชื่อ นาย อนุสรณ์ ได้ลงไปเล่นน้ำกับเพื่อนแล้วจมหายไปในช่วงเวลาประมาณเกือบบ่ายสามโมง ของวันนี้ โดยมีนาย ชื่อ ธนิต อายุ 37 ปี ซึ่งตอนที่เกิดเหตุนั้นอยู่ด้วยกันเพียง 2 คน เมื่อเห็นว่าเพื่อนจมนำหายไปต่อหน้าต่อตาแล้วจึงแจ้งอาสาสมัครให้มาช่วยกันงมหาร่างของ นาย อนุสรณ์ ทันทีเพราะหวังว่าเพื่อนของตนจะมีชีวิตรอดจากการจมน้ำในครั้งนี้
และเมื่ออาสาสมัครได้รับฟังเรื่องราวดังกล่าวที่เกิดขึ้นแล้วและทราบตำแหน่งที่ผู้สูญหายภายในน้ำได้จมหายไปเป็นพิกัดที่แน่นอนแล้วจึงทำการลงปฏิบัติการค้นหาทันที เมื่ออาสาสมัครชุดประดาน้ำลงค้นหาใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมงจึงพบร่างของ นาย อนุสรณ์ ในสภาพตัวซีดปากเขียวไม่หายใจแล้วไม่สามารถที่จะช่วยเหลือให้กลับมามีชีวิตได้แล้ว จึงแจ้งเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ และประสานแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราชให้มาตรวจสอบสภาพร่างผู้เสียชีวิตภายในที่เกิดเหตุทันที
และจากการสอบถาม นาย ธนิต อายุ 37 ปี เพื่อนที่มาเล่นน้ำด้วยกัน กล่าวว่า ตนเป็นคนเล่นน้ำก่อนแล้วตนก็ว่ายน้ำมาตรงมุมนี้แล้วเพื่อนของตนก็เดินลงไปเล่นน้ำกับตนตรงนี้นั่งเล่นกันมาตนก็เล่นอยู่ตรงนี้แล้วจังหวะไหนไม่รู้ตนเผลอหรือตนเมาก็ไม่รู้ ได้ยินเสียงตูมลงไปอ่าวเพื่อนของตนนี่หว่า ตนก็เลยบอกเฮ้ยว่ายน้ำเป็นหรือเปล่ามันก็มองหน้าตนอ่าวมันว่ายได้นี่หว่า ตนก็เห็นว่าเขาไม่ไหวแล้วตนก็กระโดดลงไปช่วย ก่อนที่จะลงไปเล่นน้ำตนก็นั่งคุยกันมาแล้วก็มีดื่มกันมาบ้างนิดหน่อย แต่ตนเองเป็นคนชอบเล่นน้ำส่วนเพื่อนของตนเขาขึ้นมาแล้วหรือเขาจะลื่นหล่นลงไปอีกหรือเปล่าตนก็ไม่ทราบ แต่ตนก็พยายามลงไปช่วยแล้ว
เบื้องต้นจากการตรวจสอบจากร่างผู้เสียชีวิตไม่พบร่องรอยจากการถูกทำร้ายร่างกาย และไม่พบบาดแผลไดๆภายในร่างกายของผู้ตาย แต่อย่างไรแล้วต้องส่งร่างผู้เสียชีวิตไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช แล้วจะให้ญาตินำเอกสารไปรับร่างผู้เสียชีวิตมาประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวเพื่อนของผู้เสียชีวิตไปสอบถามเรื่องราวของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้งที่ สน.บางยี่เรือ และจะตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ใกล้สถานที่เกิดเหตุเพื่อหาข้อเท็จจริงของการเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ถึงจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป