03-07-67 พี่เสือ นักข่าวสงขลา
วันนี้ 3 ก.ค.67 ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.สุรจิต เพชรจอม ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรสะเดา นาย วิเชษฐ์ สายกี้เส้ง นายอำเภอสะเดา ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ชนาวิน รัตนาวิน รอง ผกก.ป.สภ.สะเดา พ.ต.ต.อวยพร อุบลพันธ์ สวป.สภ.สะเดา นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรสะเดาและกำนันผู้ใหญ่บ้าน ม.10 บ้านทุ่งใหญ่ ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา เข้าระงับเหตุบุคคลชายคุ้มคลั่งทำร้ายมารดาได้รับบาดเจ็บ หลังจากได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ ว่ามีชายอายุประมาณ 42 ปีได้คุ้มคลั่งอาละวาดทำร้ายมารดาจนบาดเจ็บ และมารดาต้องวิ่งเอาชีวิตรอดหนีออกมา เมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งวางแผนการเข้าควบคุมตัวบุคคลคุ้มคลั่ง ในขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าไปยังบริเวณบ้าน หลังดังกล่าวในพื้นที่ม.10 บ้านทุ่งใหญ่ ต.สำนักแต้ว ก็ได้พบกับนายโชค อายุ 42 ปี อยู่ในอาการคุ้มคลั่งอาละวาดถือมีดบังตอ ติดตัวตลอดเวลา ทางด้านเจ้าหน้าที่นำโดย รองผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรสะเดา และสารวัตรปราบปรามสถานีตำรวจภูธรสะเดา ได้เข้าพูดคุย เจรจา ให้นายโชคสงบสติและวางมีดลง
แต่ในขณะนั้นนายโชคกลับอาละวาดอย่างหนักว่าตำรวจกำนันผู้ใหญ่บ้านมาทำไมที่นี่คือบ้านของกู เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพยายามพูดคุยเกลี้ยกล่อมให้นายโชคสงบลงและได้วางแผนให้อีกหนึ่งชุดเข้าไปชาร์จทางด้านหลัง
เมื่อเจ้าหน้าที่ได้พูดคุยกับนายโชคเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากชุดที่จะเข้าไปชาร์จแล้ว ในขณะนั้นนายโชคอยู่ภายในห้องนอนล็อคประตูปิดหน้าต่างแน่นหนา เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้วิธีพังประตูเข้าไปเพื่อชาร์จตัว นายโชค เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัวนายโชคได้แล้วนายโชคกลับดิ้นและร้องเสียงดัง และเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวได้สำเร็จ และได้จับนายโชคมัดมือมัดเท้าเพื่อป้องกันการดิ้นรนและอาละวาด และประสานไปยังกู้ภัยสำนักแต้วให้มานำตัวส่งโรงพยาบาล
จากการสอบถามมารดาของนายโชคบอกว่าบุตรชายของตนเองติดยาเสพติดอย่างหนักและได้เข้ารับการบำบัดแต่ก็ไม่เป็นผลออกมาแล้วก็ยังเสพยาและมีอาการหลอนขึ้นทุกวัน และเคยทำร้ายตัวเองหลายครั้งแล้ว และครั้งนี้ถือว่ารุนแรงเพราะนายโชคใช้ไม้ฟาดเข้าที่แขนด้านขวาของมารดา ได้วิ่งหนีเอาชีวิตรอดออกจากบ้านมา มารดาของนายโชคเล่าทั้งน้ำตาว่าอยากให้ เอานายโชคไปบำบัดที่ไหนก็ได้ไม่อยากให้อยู่ที่บ้านแล้วเพราะทั้งทำลายข้าวของและทำร้ายตนเองหลายครั้งแล้ว
และทนกับพฤติกรรมเหล่านี้ไม่ได้อีกแล้วและบไม่เสียใจเลยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับตัวบุตรชายไป
