ข่าวทั่วไปข่าวพาดหัว

จันทบุรี – ประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ 3 แห่ง เพื่อนำไปจัดทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

วันที่ 4 กรกฎาคม 2567 เวลา 14.00 น. นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เป็นประธานประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ วัดพลับ ตำบลบางกะจะ อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการทุกหมู่เหล่า ผู้นำท้องถิ่น/ท้องถิ่น และประชาชน ร่วมพิธีจำนวนมาก
ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ทำพิธีเปิดกรวยกระทงดอกไม้ ถวายความเคารพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นจุดธูปเทียนบูชาลงในเครื่องบวงสรวง และผู้บริหารระดับสูงพร้อมหัวหน้าส่วนราชการร่วมปักธูปลงในเครื่องบวงสรวง พราหมณ์อ่านโองการบวงสรวงเพื่อบูชาเทพยาดา เทพารักษ์ ผู้ดูแลรักษาสถานที่น้ำศักดิ์สิทธิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีอ่านคาถาพลีกรรมตักน้ำ และประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ “วัดพลับ” ใส่ขันสาคร จากนั้นเชิญขันสาครเคลื่อนขบวนไปเก็บที่พระอุโบสถวัดพลับ เพื่อรอประกอบพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ในวันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม 2567 ฤกษ์เวลา 17.09 น. และประกอบพิธีเวียนเทียนสมโภชน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ในวันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม 2567 ฤกษ์เวลา 12.00 น.


จังหวัดจันทบุรีดำเนินการนำน้ำจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำไปจัดทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร จำนวน 3 แห่ง ประกอบด้วย 1.แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ สระแก้ว ต.พลอยแหวน อ.ท่าใหม่ 2.แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ธารนารายณ์ ต.คลองนารายณ์ อ.เมืองจันทบุรี และ 3.แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ วัดพลับ ต.บางกะจะ อ.เมืองจันทบุรี โดยที่แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ สระแก้ว ต.พลอยแหวน อ.ท่าใหม่ นายวิสุทธิ์ ประกอบความดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เป็นประธาน นำข้าราชการ ผู้นำท้องถิ่น ประชาชน ร่วมประกอบพิธี และที่แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ธารนารายณ์ นายธวัชชัย นามสมุทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เป็นประธาน นำข้าราชการ ผู้นำท้องถิ่น ประชาชน ร่วมประกอบพิธี

แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ “วัดพลับ” นับตั้งแต่โบราณกาลผู้คนในชุมชนบางกะจะและใกล้เคียงผู้ใดต้องการน้ำไปทำน้ำพระพุทธมนต์ในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บหรือประกอบพิธีกรรมต่างๆ ก็จะนำน้ำในบ่อน้ำนี้ไปใช้ในพิธีนั้น เมื่อครั้งสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช นำทัพจัดเตรียมกองทัพอยู่ที่วัดพลับ พระองค์ก็ทรงใช้น้ำในบ่อน้ำทำน้ำพระพุทธมนต์ประพรมกองทัพก่อนออกศึก ต่อมาราชวงศ์จักรีขึ้นครองราชย์ ก็ทรงใช้น้ำในบ่อนี้ทำน้ำพระพุทธมนต์ราชาภิเษกในการเสด็จขึ้นครองราชย์เช่นกัน

แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ สระแก้ว ในอดีตน้ำจาก สระแก้ว ถูกนำไปใช้ในการประกอบพิธีกรรมสำคัญในสำนักพระราชวังมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ตั้งแต่ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่าในสมัยรัชกาลที่ 6 มีการเพิ่มแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่มาจากมณฑลต่างๆ อีก 10 มณฑล ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ มณฑลจันทบุรี ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 7 พุทธศักราช 2468 และรัชกาลที่ 9 พุทธศักราช 2493 ได้พลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์จากจันทบุรี จำนวน 2 แหล่ง คือ ที่ธารนารายณ์ (น้ำตกคลองนารายณ์) และที่ สระเก้ว (ตำบลพลอยแหวน) โดยทำพิธีเสกน้ำที่ วัดพลับบางกะจะ ตามตำนานของแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ สระแก้ว ในเอกสารจดหมายเหตุที่กรมการจังหวัดจันทบุรีรายงานแจ้งถึงหัวหน้าแผนกราชกิจจานุเบกษา ในพุทธศักราช 2493 มีความว่า “น้ำที่สระแก้ว อยู่ใกล้กับเขาสระแก้ว เมื่อกาลนานหลายอายุคนมาแล้ว มีผู้ไปพบสระน้ำแห่งหนึ่ง กว้าง 6 เมตร ยาว 7 เมตร อยู่ในป่าทึบปราศจากบ้านคน น้ำในสระเต็มเปี่ยมและใสบริสุทธิ์จนมองเห็นเป็นสีมรกต มีปลานานาชนิดอาศัยอยู่ สามารถมองเห็นถนัด ปลาที่อยู่ในสระปราศจากคนรบกวน ข้างสระมีตาลต้นใหญ่งดงามเขียวชอุ่มอยู่เป็นนิจ ในสระปรากฏมีแสงสว่างเป็นวงเขียวคล้ายแก้ว เป็นวงรอบสระ อีกประการหนึ่งมีผู้เห็นแสงสว่างจากต้นตาลแล้วแสงสว่างนั้นสะท้อนลงไปในสระด้วยความสะอาดของสระนั้น ต่อมาได้มีผู้มาปลูกสร้างบ้านเรือนและประกอบอาชีพในป่าใกล้สระนี้ ทำให้เกิดความมั่งคั่งรุ่งเรืองตามลำดับ ยิ่งไปกว่านั้นผู้มาประกอบอาชีพเมื่อเหน็ดเหนื่อยได้มาอาบน้ำหรือลูบไร้ น้ำในสระแก้วแล้วรู้สึกสบายใจหายหอบเหนื่อย ปลาที่อยู่ในสระเป็นปลาเชื่องแหวกว่ายอยู่ด้วยความร่าเริง ได้มีผู้ทำการจับปลาในสระนี้แต่ไม่เคยปรากฎว่ามีผู้ใดจับปลาได้เลย จึงยังความมหรรศจรรย์ให้แก่ราษฎรในแถบนั้นว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ต่อมาในสมัยหนึ่งเกิดการแห้งแล้งผิดปกติ น้ำในสระเหือดแห้งลง ได้มีราษฎรหมู่หนึ่งพากันไปวิดน้ำในสระเพื่อจับปลา แต่วิดเท่าใดน้ำในสระหาแห้งไม่ ในทันใดก็เกิดการสำแดงที่น่าเกรงขาม คือมีพายุพัดอย่างรุนแรงและฝนตกหนักจนน้ำเต็มสระตามเดิม พวกจับปลาได้รับความตระหนกตกใจอย่างมากมาย จึงต้องล้มเลิกความคิด และแต่นั้นต่อมาไม่มีผู้ใดอาจไปรบกวนหรือจับปลาสระนั้นอีกเลย สิ่งที่เป็นปัญหาและลึกลับนี้จึงเล่าลือกันไปอีกเป็นการเพิ่มความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น อนึ่ง การที่มีผู้แลเห็นน้ำในสระคล้ายมีแก้วอยู่ก้นสระและประกอบกันเกิดมหรรศจรรย์ดังกล่าว ได้เลื่องลือแพร่สพัดไปในที่ต่าง ๆ ชาวบ้านที่ได้ทราบเรื่องต่างก็ลำลือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ จึงเป็นที่เคารพนับถือของราษฎรในครั้งนั้น และได้ให้ชื่อสระนี้ว่า สระแก้ว จากเหตุที่กล่าวมานี้ จึงได้นำเอาน้ำที่สระที่ถือกันว่าศักดิ์สิทธิ์ มาประกอบพิธีทำเป็นน้ำอภิเษก เรื่อยมา” เมื่อ พ.ศ. 2554 จังหวัดจันทบุรี ได้ใช้ประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเป็นน้ำสรงอภิเษกทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในการพระราชพิธีเสด็จออกมหาสมาคม เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ต่อมาในปีพุทธศักราช 2562 เป็น 1 ใน 108 แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศ ที่ได้นำเข้าพิธีจัดทำน้ำอภิเษกในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในรัชกาลปัจจุบัน

แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์จั “ธารนารายณ์” เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติใส สะอาด ที่ไหลออกมาจากถ้ำพระนารายณ์ มีกำเนิดจากต้นน้ำ คือน้ำตกคลองนารายณ์ ยอดเขาสระบาป จากหลักฐานประวัติศาสตร์แสดงถึงความสำคัญของน้ำตกแห่งนี้ คือในปี พ.ศ.2403 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เสด็จประพาสเมืองจันทบุรี ได้ทรงเยี่ยมชม พร้อมทรงสร้างพระเจดีย์ขึ้นองค์หนึ่งด้วยศิลาแลง กลางลำธาร สูง 3 วา ต่อมาในปี พ.ศ.2419 สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่ รัชกาลที่ 5 ก็ได้เสด็จพระราชดำเนินยังน้ำตกแห่งนี้เช่นกัน พร้อมทั้งได้พระราชนิพนธ์โคลง ดังนี้

“สระ บาปบาปก่อนสร้าง ปางใด
สระ บ่อสระทรวงใน สร่างสร้อย
สระ สนานยิ่งอาไลย นุชนาฎ
สระ ช่วยสระบาปน้อย หนึ่งให้สบนาง”

ต่อมาในปี พ.ศ.2517 เกิดน้ำป่าไหลหลากพัดเจดีย์พังทลายไป แหล่งน้ำธารนารายณ์ จากน้ำตกคลองนารายณ์แห่งนี้ เป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ 1 ใน 18 แห่งของประเทศที่ใช้ในพิธีมุรธาภิเษก พระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9

ภาพ/ข่าว จรัล บรรยงคเสนา จ.จันทบุรี 089-6767346
พสิษฐ์ เขม้นเขตวิทย์ รายงาน ศูนย์รวมข่าวภาคตะวันออก 062-7584334