ข่าวพาดหัวอุบัติเหตุ

ระทึกกลางตลาดนัด คนขับรถตู้ขาเทียมหัวร้อนขับรถพุ่งชนคู่กรณีฝ่ากลางตลาดนัดเจ็บระนาว

เมื่อเวลา 16.57 น. วันที่ 8 กรกฎาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถตู้รับส่งนักเรียนพุ่งชนกลางตลาดนัด มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดภายในตลาดนัดทิพเกสร ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ


ที่กลางตลาด พบรถตู้รับส่งนักเรียน ยี่ห้อ โตโยต้า สีเทา ทะเบียน 1 นฆ 487 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ ที่บริเวณด้านหน้ารถตู้ พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีแดง-ดำ ทะเบียน 1 กบ 6345 สุรินทร์ ล้มอยู่ และข้างของร้านค้า ล้มได้รับความเสียหายหลายร้านพังละเนละนาดกระจัดกระจายเกลื่อนพื้น ในที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งเป็นผู้ที่มาเดินตลาด จำนวน 3 ราย เจ้าหน้าที่มูลนิธิให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นนำส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้าแล้ว และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยไม่ไปโรงพยาบาล ท่ามลกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากผู้เห็นเหตุการณ์จำนวนมาก


โดยกล้องวงจรปิดของตลาดสด สามารถจับภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้ เริ่มจากมุมแรก ช่วงเวลา 16.57 น.วันที่ 8 กรกฎาคม 2567 จากภาพวงจรปิดที่ทีมข่าวเราได้มา จะเห็นว่ารถตู้โตโยต้าสีบรอนซ์เงินคันหนึ่ง ซึ่งเป็นรถรับส่งนักเรียนของเอกชน ขับเลี้ยวขวาเข้ามาในตลาด เพื่อจะเข้าลานจอดรถด้านใน แต่ในจังหวะนั้น จะเห็นว่ามีรถจักรยานยนต์คล้ายพ่อลูกคู่หนึ่ง ขับสวนทางมาแล้วทำท่าจะเลี้ยวซ้ายเข้าตลาดแต่ยึดๆยักๆ กล้องอีกมุมจะเห็นว่าจังหวะนั้น คนขับรถตู้หน้าจะบีบแตรเตือนคนขับรถจักรยานยนต์ ซึ่งกล้องอีกมุมจับภาพได้ในขนาดที่ทั้งคู่ขับเข้ามาในตลาด โดยคนขับรถจักรยานยนต์หันไปมองหน้าแล้วขับเข้ามาจนถึงแยกที่จะต้องเลี้ยวซ้ายไปลานจอดสำหรับรถใหญ่ แต่จังหวะนั้นรถจักรยานยนต์ได้หยุดรถขวางหน้ารถตู้คันดังกล่าว จึงทำให้คนขับรถตู้เกิดอาการหัวร้อนขึ้นมาทันที ขับชนชนแปะกับรถจักรยานยนต์จนล้มลง กล้องวงจรปิดอีกมุมจะเห็นได้ไกลๆ ว่าคนขับรถจักรยานยนต์ คือชายเสื้อดำ พอถูกชนจนรถล้มจึงเข้าไปพูดคุยกับคนขับรถตู้ ก่อนจะเปิดฉากชกต่อยคนขับรถตู้ก่อน จึงกลายเป็นเพิ่มอารมณ์ร้อนให้ฝ่ายของคนขับรถตู้มากขึ้น จนคนขับรถตู้เองตัดสินใจที่ไม่มีใครคาดคิดขึ้น คือ ขับรถพุ่งชนคนขับรถจักรยานยนต์ทันที ซึ่งทำให้รถนั้นพุ่งชนเต็นท์ร้านค้าตลาดนั้นที่ตั้งร้านค้าตรงนั้นอยู่เป็นจำนวนมาก จนพ่อค้าแม่ขายและชาวบ้านที่มาเลือกซื้อสินค้าต่างพากันวิ่งหนีตายจากรถตู้คันนี้ อย่างโกลาหน

 

ซึ่งหลังจากที่รถตู้จอดสงบนิ่งพบว่ามีประชาชนที่มาเดินเลือกซื้อสินค้านั้นถูกรถตู้ชนได้รับบาดเจ็บหลายราย
จากการสอบถาม น้องนักเรียนสองคนที่เห็นเหตุการณ์ บอกว่า ตนเองเห็นรถตู้กับจักรยานยนต์เขามีเรื่องชกต่อยกัน จากนั้นก็เห็นรถตู้เลี้ยวขวาไล่ชนเข้ากลางตลาดทันที แต่ไม่ทราบว่าเขามีเรื่องอะไรกันมาก่อนหรือไม่ ขณะที่ นายสมบูรณ์ วงษ์พิพันธุ์ ผู้ดูแลตลาดแห่งนี้ บอกว่าตอนเกิดเหตุ ตอนนั้นตนเองไม่เห็นตอนชน หันมาอีกทีคือชนกันแล้ว ซึ่งตอนแรกก็คิดว่าเป็นอุบัติเหตุทั่วไป ยังแปลกใจว่าทำไมมาชนกันข้างใน ทั้งที่มีการวางกรวยบังคับเลี้ยวซ้ายไว้แล้ว จังหวะที่จะเดินเจข้ามาเคลียร์พบว่าคนขับรถจักรยานยนต์เข้าไปชกต่อยคนขับรถตู้แล้ว ตนเองจึงเข้าห้ามและบอกว่าให้ทั้งสองฝ่ายใจเย็น แต่ยังไม่ทันขาดคำ ฝ่ายของคนขับรถตู้กลับเลี้ยวและเร่งเครื่องจนต้องโดดหลบหนีตาย ตามภาพวงจรปิดที่เห็น

ซึ่งหลังเกิดเหตุจึงรีบเข้าไปดูที่เกิดเหตุทันทีโดยเฉพาะฝั่งคนขับรถตู้เพราเกรงว่าจะหลบหนี
ด้าน นาย สุชาย เหลืองกัมพูสิน อายุ 62 ปี คนขับรถตู้คันดังกล่าว เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้กับนักข่าวเราฟังว่า ตนเองมาจากซอยโรงพิมพ์ เพื่อจะมาตลาดแห่งนี้ พอเลี้ยวขวา เข้ามาพบว่ารถจักรยานยนต์คู่กรณีขับในลักษณะปาดซ้ายไปขวา ตนเองจึงบีบแตรเตือนไปหนึ่งครั้ง ทำให้คนขับไม่พอใจ หันมามองหน้าคล้ายจะเอาเรื่อง ตอนนั้นตนเองก็เปิดกระจกกวักมือบอกกเขาไปเถอะ จนมาถึงหน้าร้านสะดวกซื้อเขาจอดรถขวางหน้าจังหวะนั้น รถไหลไปชนเขาจนล้มลง เขาจึงโมโหและมาถามว่าทำไมตนไม่ลงไปดูเขา แต่ด้วยตนลงลำบากเพราะขาพิการใส่ขาเทียมอยู่ จึงไม่ได้เปิดประตูลง และเปิดกระจกคุยกับเขา จังหวะนั้นเขาชกเข้าที่ใบหน้าของตนเองอย่างแรง 2-3 ครั้ง ตอนแรกเหมือนจะเลิกรากันแล้ว แต่อีกฝ่ายไม่จบและพยามชกตนเองอีกครั้ง ก่อนจะทุบที่กระจบข้างจนแตก จึง ทำให้ตนเองเกิดอารมณ์ชั่ววูบโมโหจึงตัดสินใจขับรถเพื่อจะชนเขาจนรถพุ่งชนร้านค้าดังกล่าว ยอมรับว่าตอนนั้นไม่เห็นอะไรแล้ว เพราะหน้ามืดจากอารมณ์โมโหคู่กรณี ส่วนคู่กรณีหลังเกิดเหตุขับรถหลบหนีไป


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพ และลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะเชิญตัวคนขับรถตู้ไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ. จากนั้นจะพิจารณาหลักฐานต่างๆโดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดว่าเข้าข่ายเจตนาหรือไม่ เพื่อแจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะที่ประกันรถตู้คันดังกล่าวจากรายงานของคนขับพบว่าเป็นเพียงประกันชั้นสามซึ่งอาจไม่คุ้มครองกรณีอุบัติเหตุดังกล่าว


************************
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ