คนขี่รถจักรยานยนต์คู่กรณีลุงขับรถตู้หัวร้อนเข้าพบพนักงานสอบสวนแล้ว
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 9 กรกฎาคม 2567 ที่ สภ.บางพลี พ.ต.ต.ศักดิ์สิทธิ์ บุตรวงศ์ สารวัตรสอบสวน สภ.บางพลี ได้เชิญตัว นาย พันธุ์เทพ ถิระประพาฬพงศ์ อายุ 59 ปี คนขับรถจักรยานยนต์คันที่ถูก นาย สุชาย เหลืองกัมพูสิน อายุ 62 ปี คนขับรถตู้ ขับชนและเกิดชกต่อยกัน กลางตลาดนัดทิพเกสร ซอยศรีวารีน้อย ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และคนขับรถตู้ขับรถชนร้านค้าในตลาดนัด จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย เดินทางเข้าพบ พนักงานสอบสวน และตกลงกัน ออมความเรื่องชกต่อยกัน โดยยอมความไม่เอาเรื่องซึ่งกันละกัน
จาการสอบถาม นาย พันธุ์เทพ ถิระประพาฬพงศ์ อายุ 59 ปี คนขับรถจักรยานยนต์ กล่าวว่าทิ้งตนเองขี่จากจักรยานยนต์พร้อมบุตรชายมาเลนซ้ายสุดฝั่งตลาดและกำลังเลี้ยวเข้าตลาดผมไม่เห็นรถตามหลังมาผมมั่นใจแล้วว่าเลี้ยวซ้ายไม่มีรถสาเหตุที่ผมชะงักเพราะลานจอดรถที่จอดรถจักรยานยนต์มันเปลี่ยนไป ทางลานจอดรถเพิ่งปรับปรุงใหม่ผมเลยงงว่าจะเอารถไปจอดตรงไหนผมจึงชะงักรถนิดหนึ่งและเลี้ยวซ้ายเข้ามาในเลนตรงหน้าเซเว่น มีเสียงรถบีบแตร แต่เมื่อกี้เนี่ยตอนผมเลี้ยวมามันไม่มีรถแล้วใครบีบแตรผมจึงหันหลังไปดูเห็นรถตู้ขับมากระชั้นชิดตามหลังเข้ามาอย่างเร็ว และเขาก็บีบแตรอีกแต่ข้างหน้ามันมีรถจอดอยู่ผมก็จะหลบให้แต่ไปไม่ได้ติดรถกระบะอยู่ดีผมก็เลยห้ามเขาอย่าพึ่งไปไม่ต้องรีบเค้าก็ขับรถไล่ผมส่งผมจึงบอกเขาว่าไปไม่ได้ ไปยังไงก็ติดเค้าก็เลยชนผมพอชนผม ล้มโดนรถทับขาซึ่งมีบาดแผลอยู่หลายที่หลังจากนั้นผมลุกขึ้นมา แล้วเดินไปหาเขาบอกว่าชนแล้วทำไมไม่ลงมาช่วย ไม่ลงให้ความช่วยเหลือ เขานิ่งพอเขานิ่งผมก็เลยพยายามกระตุ้นให้เขาพูด ขอโทษหรือจะ รับผิดชอบ หรือจะเรียกประกัน ตอนนั้นคนขับรถตู้เอากระจกลงแล้วครึ่งนึงแต่คนขับรถตู้ไม่ได้พูดอะไรกับตนเลย จนกระทั่งผมจึงต้องไปกระตุ้นเขาอีกโดยไปตบสะกิดเขาที่หัวไหล่และลำคอตกลงจะทำยังไง แล้วนี่ทำไม ไม่ลงมาให้ความช่วยเหลือ มันเป็นอย่างไร จะเอายังไงเค้าก็นิ่งอีกแล้วเขาก็พูดอะไรผมก็ไม่ค่อยได้ยินผมได้ยินไม่ถนัดเค้ายิ่งนิ่งเหมือนกับเค้าไม่รับผิดชอบอะไรเลย ผมถึงเริ่มที่จะโกรธแล้วและเริ่มเจ็บแผลเจ็บตัวอยู่ หลังจากนั้นผมก็กระตุ้นเขาอีก โดยตีที่หัวไหล่และลำคอ แล้วถามว่าจะเอายังไง โดยตบไปเบาเบา แล้วคนขับรถรถตู้ไม่ขอโทษไม่เอาอะไรทั้งนั้นนิ่งเฉย ไม่เรียกประกันไม่แสดงความรับผิดชอบ หลังจากนั้นแล้วเขาก็หักพวงมาลัยรถลักษณะเข้าหาผม ผมก็เลยจับกระจกมองข้าง และดันไม่เขาขยับรถโดยตอนยืนอยู่ตรงด้านขวาข้างกระจกแล้วถามเค้าอีกว่าจะเอายังไงจะเรียกประกันหรือว่ายังไงรับผิดชอบยังไงหรือจะรับผิดชอบยังไงหรือจะขอโทษเค้าก็เหมือนพูด ไม่ลงมาแสดงความรับผิดชอบอะไร ระหว่างนั้นผมก็ยังจับกระจกอยู่เค้าก็ขยับรถไปเพื่อจะไปจอดผมก็ไม่ให้เค้าขยับรถไป จึงดันกระจกไว้และดันไว้ไม่ให้ขยับรถออกไปพอครั้งที่สองผมเร่งเร่งแล้วเขาว่าจะรับผิดชอบอย่างไร เค้าขยับรถมาหาผม ผมก็จับกระจกไว้พยายามดันเอาไว้พอเห็นท่าไม่ไหวแล้วผมจึงดันตัวหนีออกมาจึงเกิดเหตุการณ์ตามคลิป กระโดดหลบ ไม่งั้นรถจะทับเท้า ตนขอยืนยันว่าวันเกิดเหตุตนไม่ได้ต่อยหน้าเขา ทำเพื่อเรียกสติเท่านั้น คือใช้มือ ตบไปที่บ่าแล้วที่คอประมาณสามครั้งซึ่งตอนนั้นผมไม่ทราบเลยว่าคนพิการไม่ได้พูดอะไรเลยไม่ได้สื่อสารไม่แสดงหรือแสดงผมเป็นคนพิการไม่ได้บอกไม่พูดอะไรเลย โดยวันนี้ที่มาพบพนักงานสอบสวนและได้พูดคุยกับคู่กรณีคนขับรถตู้โดยตกลงกันว่าจะไม่เอาเรื่องการทำร้ายร่างกายกันส่วนเรื่องอื่นปล่อยไปตามกฎหมาย
ด้าน นายสุชาย คนขับรถรถตู้ กล่าวว่าวันนี้เดินทางมาที่ สภ.บางพลี เพื่อตกลงออมชอมกับผู้ก่อเหตุแค่เรื่องชกต่อย กันโดยฝ่ายทางโน้นก็ไม่เอาความเหมือนกัน โดยต่างคนต่างเลิกรากันไป ไม่ติดใจเอาฟาร์มใดใดทั้งสิ้น และมาติดต่อเพื่อนำรถออกไป
ด้าน พ.ต.ต.ศักดิ์สิทธิ์ บุตรวงศ์ สารวัตรสอบสวน สภ.บางพลี วันนี้ได้เรียกคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายมาพูดคุย เรื่องชกต่อยกันโดยทั้ง 2 ฝ่ายไม่ติดใจเอาความ กัน ส่วนเรื่องที่ นาย สุชาย เหลืองกัมพูสิน อายุ 62 ปี คนขับรถตู้ ที่ขับรถชนร้านค้าจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ อาการสาหัส 3 รายที่ยังนอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.จุฬารัตน์ นั้นกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
*********************
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ