วันที่ 15 กรกฎาคม 2567 เวลา 10.00 น.
ร้อยตำรวจเอก นราศักดิ์ วงค์โปรทา รอง สว.สอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนกัน บริเวณใต้ ทางด่วนจอมทองบูรณะ ใกล้เคียงสี่แยกไฟแดง ซอยสุขสวัสดิ์ 30 และภายในที่เกิดเหตุ มีผู้เสียชีวิต เป็นชาย 1 ราย จึงรีบลุกจัดกำลังพร้อมประสานแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราชและอาสาสมัครมูลนิธิปอเต็กตึ้งเร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
แล้วเมื่อ เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาสาสมัครมาถึง ที่เกิดเหตุพบจุดเกิดเหตุดังกล่าวอยู่บริเวณใต้ทางด่วน จอมทอง บูรณะ ถนน จอมทอง บูรณะ แขวง บางประกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร ที่เกิดเหตุเป็นลักษณะถนน 4 เลนสวนกัน บริเวณตอหม้อเลขที่ 29+140.751 พบร่างของผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย อายุ 30 ปี ทำงานเป็นเชฟอาหารไทย-จีน โรงแรมหรู ย่านเจริญนคร ในลักษณะนอนหงายหน้าจมกองเลือดอยู่บนพื้น ลักษณะการแต่งกายสวมใส่เสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีแดง กางเกงยีนส์ขายาว สวมใส่รองเท้าแตะสีแดง มีบาดแผล เปิดขนาดใหญ่ที่บริเวณหน้าผากกะโหลกยุบอย่างเห็นได้ชัดเจน มีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก และบริเวณศรีษะด้านหลังมีแผลเปิดขนาดใหญ่และมีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมากเช่นกัน ส่วนลำตัวพบบาดถลอกหบายแห่ง ข้างตัวผู้เสียชีวิตพบพระเครื่องหอยคอเป็นท้าวเวสสุวรรณ หลุดอยู่บริเวณข้างลำตัวผู้ตาย 1 องค์ จึงเก็บเอาไว้เพื่อรอส่งมอบคืนให้กับญาติ แล้วถัดมาอีกประมาณ 50 เมตร พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่น ZR สีเเดง ทะเบียน กตท 218 กรุงเทพมหานคร ในลักษณะล้มตะแคงคว้ำอยู่ข้างขอบทาง ในลักษณะพังเสียหายยับเยินทั้งคัน ซึ่งทราบต่อมาภายหลังว่าเป็นรถจักรยานยนต์ของผูเสียชีวต และหางกันไปประมาณ 200 เมตร พบรถกระบะ โตโยต้า REVO สีขาว ทะเบียน บย 5653 สระแก้ว จอดอยู่บนไหล่ทาง ซึ่งผู้ขับขี่รถกระบะเป็นชาย ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่บริเวณที่เกิดเหตุโดยไม่ได้หลบหนีไปไหน จากการตรวจสอบที่รถกระบะคันดังกล่าว พบร่องรอยของการถูกเฉี่ยวชน บริเวณบริเวณไฟท้ายด้านซ้าย และมีรอยถลอกตรงบริเวณกันชนเช่นกัน
จากการสอบถามคนงานก่อสร้างถนนที่อยู่ตรงบริเวณจุดเกิดเหตุและเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกล่าวว่า ตน เห็นว่ารถกระบะกำลังขับขี่มุ่งหน้าไปทางแยก ใต้ด่วนซอยสุขสวัสดิ์ 30 แล้พอดีมีรถเก๋งสีน้ำเงินขับขี่มาทางเลนซ้ายสุดแล้วทีนี้รถกระบะก็พยายามจะแซงรถเก๋งคันดังกล่าวแต่เป็นจังหวะเดียวกับที่ผู้ตายขี่จักรยานยนต์ขึ้นมาในลักษณะจะแซงหน้ารถกระบะคันดังกล่าวพอดี แต่รถจักรยานยนต์ไม่พ้นตูดของรถกระบะก็เลยเฉี่ยวเข้าท้ายรถแล้วก็เสียหลักข้ามเลนไปชนกับราวเหล็กกั้นขอบทางแล้วก็กระเด็นไปกระแทกกับเสาที่อยู่บริเวณตอหม้อ แล้วก็แน่นิ่งไปเลย ตนเห็นว่าจักรยานยนต์ขี่มาด้วยความเร็ว
เบื้องต้นจากการตรวจสอบจากภาพกล้องวงจรปิดของร้านอาหารใกล้เคียงจุดเกิดเหตุก็พบว่าตรงกับคำบอกเบ่าของคนที่เห็นเหตุการณ์ดังกล่าว และภายในที่เกิดเหตุก็ไม่พบหมวกกันน๊อคจึงคาดว่าผู้เสียชวิตในขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ได้สวมหมวกกันน๊อค แล้วหัวไปกระแทกกับราวเหล็กกั้นขอบทางและก็กระเด็นไปกระแทกกับเสา จึงอาจจะเป็นเหตุทำให้เสียชีวิตทันทีภายในที่เกิดเหตุก็เป็นได้
เเพทย์นิติเวช และเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมอบหมายให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตส่งไป ชันสูตรพลิกศพ อย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้ง ถึงจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
