ข่าวพาดหัว

นายกฯ-ผบช.น.แถลงคดี 6 ศพ พบ 2 ขวดน้ำปริศนาในที่เกิดเหตุ มีเศษตกค้างที่ก้นกาแฟทั้ง 6 แก้ว จ่อเรียกพนักงานเสิร์ฟ ไกด์ทัวร์สอบเข้ม

กรณีพบนักท่องเที่ยวชาวเวียดนาม เสียชีวิตใน ชั้น 5 โรงแรมหรู ใจกลางกรุงเทพมหานคร ย่านราชประสงค์ 6 ศพ ในสภาพน้ำลายฟูมปาก

จากการตรวจสอบ ทั้งหมดเป็นคนเวียดนาม ชาย 3 ราย หญิง 3 ราย ในจำนวนนี้ 2 ราย ถือสัญชาติอเมริกา โดยทั้งหมดเสียชีวิตบริเวณห้องพักชั้น 5 ของโรงแรม ลักษณะเหมือนสั่งอาหารมาทานที่ห้องพัก แต่ยังไม่ได้กิน พบมีการดื่มเครื่องดื่มไปแล้ว ซึ่งจากการตรวจสอบภายในห้องพักไม่พบร่องรอยการต่อสู้

โดยห้องพักห้องนี้เปิดเอาไว้ และต้องเช็คเอาท์ออกวันนี้ (16 ก.ค.) มีการแพ็คกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกำลังชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียด และตรวจหลักฐานทุกอย่างที่เกี่ยวข้อง

ล่าสุดหลังจากลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตัวเอง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้ร่วมกันแถลงข่าว

โดยนายเศรษฐา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เมื่อเวลาประมาณ 4 โมงครึ่ง วันนี้ เราพบศพของชาวเวียดนาม 6 คน สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้ว 24 ชั่วโมง เบื้องต้นจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ ไม่มีการชิงทรัพย์ ไม่มีการประทุษร้าย กองพิสูจน์หลักฐานสันนิษฐานว่าอาจเกิดจากการทานอะไรไปหรือไม่ ไม่เกี่ยวกับการปล้น ทำร้าย ปัจจุบันเข้าใจว่ากำลังสันนิษฐานว่าอาจจะมีบุคคลที่ 7 ซึ่งเป็นชาวเวียดนาม ก่อเหตุ ซึ่งยังหารูปพรรณสันฐานไม่ได้ อยู่ระหว่างตรวจสอบ

ตอนนี้อยู่ระหว่างการนำศพผู้เสียชีวิตทั้ง 6 ศพไปผ่าชันสูตรว่าการเสียชีวิตเกิดจากอะไรกันแน่ และในเบื้องต้นได้อธิบายกับท่านทูตเวียดนามแล้ว เหตุการณ์ดังกล่าวไม่กระทบกับการท่องเที่ยว

ด้าน พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า เจ้าหน้าที่โรงแรมได้เข้าไปทำความสะอาดห้องหนึ่งที่บริเวณชั้นห้า เนื่องจากห้องนี้จะต้องทำการเช็คเอาท์ในช่วงบ่าย แต่ไม่ได้เช็คเอาท์ จึงมีการเข้าไปตรวจดู เมื่อเปิดเข้าไปพบว่ามีผู้เสียชีวิต ก็รีบมาแจ้งทางผู้บริหารโรงแรม ทางผู้บริหารจึงแจ้งไปทางตำรวจในพื้นที่ จากนั้นเวลาประมาณ 5 โมงเย็น ชุดสืบสวนก็มาถึง

ข้อมูลเบื้องต้นที่เราได้ตอนนี้ ณ เวลานี้คือ มีผู้เสียชีวิตอยู่ในห้องทั้งหมด 6 คน อยู่ในบริเวณโซนรับแขกด้านหน้า 4 คน อยู่ในห้องนอน 2 คน เป็นชาย 3 คนหญิง 3 คน

โดยทั้งหมดเดินทางเข้ามาเช็คอินที่โรงแรมไม่พร้อมกัน มีมาวันที่ 13 ก.ค.หนึ่งชุด และเดินทางมาวันที่ 14 ก.ค.อีก 1 ชุด โดยพักที่ชั้น 7 จำนวน 4 ห้อง พักที่ชั้น 5 จำนวน 1 ห้อง แจ้งบุ๊คกิ้ง 7 คน แต่แจ้งเช็คอิน 5 คน แต่พบศพ 6 คน

ขณะนี้เราพิสูจน์แล้วว่า 6 ศพเป็นใคร อย่างไร ซึ่งตรงกับที่เช็คอินที่โรงแรมทั้ง 5 คน ส่วนคนที่ 6 มาได้อย่างไรนั้น เรากำลังไล่ตรวจสอบดู แต่ที่สงสัยคือมีบุ๊คกิ้ง 7 คน กำลังตรวจสอบว่ามีคนที่ 7 จริงหรือไม่

เราพบว่า 4 ห้องที่พักชั้น 7 จะต้องเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมเมื่อวาน (15 ก.ค.67) ตอนบ่าย ได้มีการเก็บกระเป๋าและลงไปรวมอยู่ที่ห้องชั้น 5 ซึ่งเชื่อว่ามีการรู้จักกัน แต่ว่าไม่ได้มีการเดินทางออกไป เพราะบุคคลที่นัดหมายให้มารับนั้นไม่พบตัว และโรงแรมก็ให้ข้อมูลว่าทั้งหมดไม่ได้ลงมาชำระค่าใช้จ่าย แสดงว่าทั้งหมดลงจากห้องชั้น 7 ไปรวมกันที่ชั้น 5

การเสียชีวิตเชื่อว่า เสียชีวิตหลังจากหลังจากเวลา 13:53 น.ของเมื่อวานนี้ (15ก.ค.) เพราะเมนูอาหารที่สั่ง เป็นอาหารจานเดี่ยว 6 จาน วางในห้องรับแขก และมีถ้วยเครื่องดื่ม คล้ายการผสมเครื่องดื่มอีก 6 ถ้วย วางอยู่ที่จัดเตรียมห้าถ้วย และอยู่บนโต๊ะอาหาร 1 ถ้วย และมีเศษตกค้างอยู่ที่ก้นถ้วย ลักษณะคล้ายผง ซึ่งพฐ.เก็บไปตรวจสอบหมดแล้ว

อาหารที่สั่งเป็นอาหารไทย แต่ว่ายังไม่ได้มีการทานอาหารเลย ตอนนี้กำลังเรียกตัวพนักงานเสิร์ฟอาหารมาสอบสวนด้วย ซึ่งภาชนะทุกอย่าง เครื่องใช้ ผ้าเช็ดตัว สิ่งของที่อยู่ในห้องทุกชิ้น ทางพฐ.จะเก็บไปตรวจทั้งหมด ส่วนเครื่องดื่มมีถ้วยชากาแฟสีขาววางไว้ ดื่มจนหมดทุกแก้ว

นอกจากนี้ยังพบว่าจากการตรวจห้องน้ำ พบกระปุกชาเพิ่งถูกซื้อมา พร้อมน้ำเกลือแร่ 1 ขวด และน้ำผึ้ง 1 ขวด วางอยู่บริเวณใกล้เคียงกัน แต่ทั้ง 3 ชิ้นถูกแกะเอามาใช้แล้ว

ในเบื้องต้นฝ่ายสืบสวนได้ตรวจดูทั้งหมด ไม่พบร่องรอยบาดแผลการต่อสู้ ไม่มีถ้วยชามแตก ในส่วนของประตู แม่บ้าน ระบุว่าประตูถูกล็อกจากด้านใน แม่บ้านจึงเข้าไปทางประตูด้านหลัง จึงพบศพ

ขณะนี้ทางฝ่ายสืบสวนสรุปแนวทางสอดคล้องกันว่า 1.พิสูจน์บุคคลที่ 7 ว่าเดินทางเข้ามาจริงไหม อันดับ2.ต้องเก็บรายละเอียดทั้งหมดของทั้ง 6 คน รวมถึงโซเชียลของทั้ง 6 คนด้วยว่าเกี่ยวข้องกันยังไง และ 3.หากบุคคลที่ 7ไม่มีต้องตรวจสอบว่าอะไรคือเหตุจูงใจในการเสียชีวิตครั้งนี้

ตอนนี้จะตรวจสอบกระเป๋าของทุกคนว่ามีอะไรที่จะเป็นวัตถุพยานที่จะนำไปสู่การคลี่คลายคดีได้ ยืนยันทั้งหมดไม่ได้ทำร้ายตัวเอง แต่มีบุคคลอื่นทำให้เสียชีวิต สันนิษฐานว่าไม่ได้มีการประสงค์ต่อทรัพย์

นอกจากนี้ยังพบว่ามีวัตถุต้องสงสัย 2 ขวดอยู่ในห้องเกิดเหตุ ซึ่งไม่ใช่ของโรงแรม อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเครื่องดื่มภายในคืออะไร

รวมถึงพบว่าไกด์ที่แจ้งไว้กับที่มาที่เกิดเหตุคนละคนกัน ตำรวจอยู่ระหว่างเรียกมาสอบสวน.