ข่าวพาดหัว

ผวา !! พบปลาหมอคางดำในทะเลอ่าวไทย ชาวประมงพื้นบ้านจับปลาหมอคางดำได้นอกเขต 3 ไมล์ทะเล จับผ่าพบมีเคยอยู่ในท้องจำนวนมาก แจ้งนายกสมาคมประมง จ.สมุทรปราการ นำเรื่องเข้าที่ประชุมหารือแนวทางแก้ไขด่วน ก่อนสร้างปัญหามากกว่านี้

ผวา !! พบปลาหมอคางดำในทะเลอ่าวไทย
ชาวประมงพื้นบ้านจับปลาหมอคางดำได้นอกเขต 3 ไมล์ทะเล จับผ่าพบมีเคยอยู่ในท้องจำนวนมาก แจ้งนายกสมาคมประมง จ.สมุทรปราการ นำเรื่องเข้าที่ประชุมหารือแนวทางแก้ไขด่วน ก่อนสร้างปัญหามากกว่านี้ ขณะที่ประมงจังหวัดยอมรับสมุทรปราการอยู่ในขั้นวิกฤต เร่งประชุมทุกภาคส่วนร่วมแก้ไข ส่วนเรื่องรับซื้อ 15 บาท รอคำสั่งอย่างเป็นทางการจากกระทรวงฯ พร้อมปฏิบัติทันที
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 17 กรกฎาคม 2567 ที่ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสมุทรปราการ หรือ ศรชล.จังหวัดสมุทรปราการ ศรชล.ภาค 1 น.อ.ทิฆัมพร สมนึก รอง.ผอ.ศรชล.จว.สป.เป็นประธานในการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ เช่น ประมงจังหวัด , อบต.คลองด่าน , เทศบาลตำบลคลองด่าน และ ภาคประชาชน เช่น สมาคมประมง จ.สมุทรปราการ , สมาคมประมงคลองด่าน รวมถึงผู้แทน สส.สมุทรปราการ เขต 8 พรรคก้าวไกล หลังจากที่ช่วงสายของวันนี้ นายสมพร เกื้อสกุล ประมงจังหวัดสมุทรปราการ ได้เดินทางลงพื้นที่ไปดูจุดที่ชาวบ้านพบมีการระบาดของปลาหมอคางดำที่คลองตาเจียน หมู่ที่ 6 ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เพื่อสำรวจพื้นที่จริงและนำกลับมาเป็นข้อมูลในการประชุมหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด ตามสถานการณ์ของแต่ละพื้นที่ ซึ่งอาจไม่เหมือนกัน โดยใช้เวลาประชุมประมาณ 2.30 ชั่วโมง จึงได้ข้อสรุปเบื้องต้น


นางเกศดา แจ่มเมือง เกษตรกรวังกุ้ง หมู่ 9 บ้านขุนสมุทรจีน ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ หลังประชุมได้นำคลิปวีดีโอปลาหมอคางดำ ที่ถ่ายไว้จากบ่อเลี้ยงกุ้งของตนมาให้ดู พร้อมให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว กล่าวว่า ตน ได้รับผลกระทบจากปลาหมอคางดำเมื่อปลายปี 2566 แต่มาหนักสุดเมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา ปลาหมอคางดำ กิน-ทำลายกุ้ง-หอยที่เลี้ยงไว้ หมดทั้งบ่อ จับได้รวมประมาณ 2 ตัน แต่เวลานั้นไม่มีที่ไหนรับซื้อและไม่มีใครให้ข้อมูลใด ๆ ตน จึงจำเป็นต้องนำปลาหมดคางดำทั้งหมดทิ้งลงทะเลไป และต้องหยุดทำธุรกิจบ่อกุ้งก่อนอย่างไม่มีกำหนด ส่วนการมาประชุมวันนี้ เริ่มมีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ เพราะถ้าภาครัฐมีการรับซื้อที่ 15 บาทต่อกิโลกรัม ตนคิดว่าน่าจะทำให้ปลาหมอคางดำมีปริมาณลดลงอย่างรวดเร็ว และ ตนก็จะกลับมาประกอบอาชีพได้อีกครั้ง
นายพิชัย แซ่ซิ้ม นายกสมาคมการประมง จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า ตน ได้รับรายงานว่ามีชาวประมงพื้นบ้านจับปลาหมอคางดำได้นอกเขต 3 ไมล์ทะเล หลังผ่าท้อง พบมีเคยจำนวนมาก กังวลว่าหากปล่อยไว้อาจทำให้เกิดปัญหาหนักกับกลุ่มประมงพื้นบ้านและประมงพาณิชย์ จึงอยากฝากถึงหน่วยงานภาครัฐช่วยเร่งดำเนินการหาวิธีแก้ไขอย่างรวดเร็ว และขอให้ผ่อนผันกฎหมายการทำประมง ขยายขนาดของเรือ จากไม่เกิน 3 ตันกรอส เป็นไม่เกิน 10 ตันกรอส พร้อมให้คณะกรรมการประมงประจำจังหวัด เป็นผู้กำหนดทั้งรูปแบบ เครื่องมือ พื้นที่และขนาดเรือ เพื่อความคล่องตัวและแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด


จากนั้น ได้พาผู้สื่อข่าวได้ดูบริเวณปลายแม่น้ำเจ้าพระยา ปากอ่าวไทย จุดที่ชาวประมง ทอดแหครึ่งชั่วโมง จับปลาหมอคางดำได้ประมาณครึ่งถังพลาสติกเป็นประจำทุกวัน นำมาเลลงพื้นให้ผู้สื่อข่าวดู พร้อมตั้งข้อสังเกตความห่วงใย ว่าปลาหมอคางดำ อาจจะไปทำลายสัตว์น้ำต่าง ๆ ในทะเลอ่าวไทยจนหมด และอาจขยายวงกว้างไปสู่ทะเลของประเทศเพื่อนบ้าน สร้างปัญหาอย่างหนัก อาจทำให้สัตว์น้ำในทะเลลึกสูญพันธุ์ได้
ด้าน นายสมพร เกื้อสกุล ประมงจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า ยอมรับปัญหาเรื่องปลาหมอคางดำ ของจังหวัดสมุทรปราการ ระบาดอยู่ในขั้นวิกฤต มีประชาชนแจ้งเข้ามาว่านอกจากพบที่ อ.พระสมุทรเจดีย์ และ ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ แล้ว ยังพบอยู่ในพื้นที่ของ อ.เมืองสมุทรปราการ และที่ ต.เปร็ง อ.บางบ่อ เพิ่มอีก ดังนั้น จึงต้องการให้ความรู้ข้อมูลที่ถูกต้องกับทุกภาคส่วน จะได้เข้ามาร่วมกันจัดการกับปลาหมอคางดำให้หมดไป ส่วนเรื่องราคาที่รับซื้อตอนนี้มีความหลากหลายในแต่ละพื้นที่ โดยล่าสุดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายธรรมนัส พรหมเผ่า ได้มีนโยบายให้ภาครัฐช่วยรับซื้อในราคาที่เหมาะสม คือ 15 บาทต่อกิโลกรัม ขณะนี้รอคำสั่งอย่างเป็นทางการ และพร้อมดำเนินการในทันที
************************
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ