ข่าวพาดหัว

พบศพชายวัย 64 ปี นอนตายปริศนาริมเขื่อนข้างตึกร้าง ย่านราษฎร์บูรณะ

วันที่ 25 กรกฎาคม 2567 เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา

ร้อยตำรวจเอก ภูดิศ วงศ์จักร์ รอง สว.สอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย บริเวณริมเขื่อน ข้างอาคารร้างใกล้เคียง สน.ราษฎร์บูรณะ จึงรีบรุดจัดกำลัง พร้อมประสานแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช , เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุพบจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณริมเขื่อนข้างอาคารร้าง ห่างจาก สน.ราษฎร์บูรณะเพียง 100 เมตร ถนน ราษฎร์บูรณะ เเขวง บางประกอก เขต ราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร จากการตรวจสอบบริเวณดังกล่าวพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ในลักษณะศพนอนคว่ำหน้าอยู่บริเวณโขดหินริมเขื่อนข้างอาคารร้างดังกล่าว ในสภาพสวมใส่เสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีส้ม แต่ว่าสวมใส่กลับด้าน กางเกงขาสั้นสีดำ ไม่สวมรองเท้า ซึ่งทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมาชื่อ นาย วิเชษฐ์ ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 64 ปี และจากการตรวจสอบสภาพศพพบว่า ใบหนาของผู้ตายมีร่องรอยจากการถูกทำร้ายอย่างเห็นได้ชัดเจน บริเวณเบ้าตาทั้งสองข้างมีรอยเขียวช้ำบวมปูด ปากบวมเขียว ที่ลำคอเป็นจ้ำสีเขียว และมีเลือดออกบริเวณปาก แก้มข้างขวามีบาดแผลเป็นบาดแผลเหมือนรอยโดนของมีคมกรีดยาวประมาณ 10 เซนติเมตร ที่ร่างกายมีรอยถลอกหลายแห่ง

จากการสอบถาม นางสาว ฐานา ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 75 ปี เป็นพี่สาวของผู้เสียชีวิตกล่าวว่า ตนบ้านอยู่ย่านบางบอน ส่วนผู้ตายพักอาศัยอยู่ซอยราษฎร์บูรณะ 19 เมื่อก่อนเคยพักอาศัยอยู่ด้วยกันแต่ว่าเขาอยากออกมาอยู่คนเดียวก็เลยแยกบ้านกันอยู่ ผู้ตายไม่ได้ทำงานอะไรมานานแล้ว เป็นคนสติไม่ค่อยดี แต่เมื่อก่อนก็ไม่ถึงขนาดนี้ พอมาพักหลังเริ่มไปสูบกัญชาก็เลยมีอาการเพี้ยนๆ ส่วนเงินที่ใช้จ่ายของผู้ตายตนเป็นคนส่งให้กินให้ใช้ตลอด จริงๆแล้วตนก็ไม่รู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา แล้วเขามานอนตายอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร และไปมีเรื่องกับใคร แต่ตนคิดว่าถือว่าหมดทุกข์แล้ว ก็ไม่ติดใจเอาความกับใคร

ส่วนทางด้าน นาย ขวัญชาติ อายุ 20 ปี คนงานที่อยู่บริเวณแถวนี้กล่าวว่า ตนปีนขึ้นไปดูสายน้ำ แล้วบังเอิญเห็นแขนของผู้ตายโผล่ออกมา ก็เลยไปตามเพื่อนๆมาช่วยกันดูแล้วก็พยายามเรียกแล้วแต่เขาก็ไม่ฟื้นตนก็เลยตัดสินใจไปแจ้งตำรวจ

ส่วนทางด้านคนเฝ้าอาคาร กล่าวว่า มีคนฝั่งตรงข้ามเขามาแจ้งตำรวจว่าพบศพก็เลยเข้ามาดูก็เลยพบว่าเป็นศพจริงๆ ตนไม่เคยเห็นผู้ตายมาก่อนเลย แต่เมื่อคืนเห็นว่าเดินไปเดินมาอยู่บริเวณด้านหน้าทางเข้าอยู่ เมื่อตอนช่วงตีห้าก็ยังมีคนเห็นอยู่เลย แต่ก็ไม่รู้ว่าผู้ตายเข้าไปตอนไหนหรือเข้าไปได้อย่างไร

เบื้องต้นแพทย์นิติเวชตรวจสอบจากสภาพศพแล้วคาดว่าผู้ตายเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง ส่วนสาเหตุของการเสียชีวิตนั้นยังไม่แน่ชัดต้องส่งร่างผู้ตายไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่นิติเวชศิริราช และเมื่อผลตรวจพิสูจน์ออกมาแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป