วันที่ 5 ส.ค.67 จากกรณีนายสมยศ หลาบนอก อายุ 36 ปีพ่อน้อยใจเมียและนำยาฆ่าแมลงใส่น้ำอัดลมสีแดงให้ลูก2 กินเหตุเกิดที่หอแห่งหนึ่งซอย6/5 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และมีญาติของผู้เป็นแม่เข้ามาช่วยเหลือไว้ได้ทันตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ต่อมานางสาวปิยวรรณ สะตะ อายุ26ปี ซึ่งเป็นภรรยาของผู้ก่อเหตุได้เข้ามาพบกับร.ต.อ.อดิศักดิ์ คชศักดิ์ ร้อยเวรสอบสวนเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม นางสาวปิยวรรณ สะตะ อายุ26ปี ได้ให้สัมภาษณ์ว่าตนเองคบกับผู้ชายคนนี้มานานประมาณ8-9 ปี ก่อนหน้านั้นเราสองคนทำงานอยู่ที่ประเทศเกาหลีประมาณ5 ปี สามีก็ได้ทำร้ายตนเองอาการปางตายเลยเช่นกัน ส่วนตนเองก็มีลูกด้วยกัน 1 คนเป็นผู้ชายชื่อน้องฟีโน่ อายุ 7 ขวบ และตนก็พยายามบอกเลิกกับเขา แต่เขาก็ไม่ยอมเลิกและข่มขู่หนูมาโดยตลอดระยะเวลา 2 ปีแล้วที่บอกเลิกซึ่งเขาอารมณ์รุนแรงขึ้นๆลงๆ เหมือนคนเป็นโรคประสาทตนเองไปทำงานที่ชายแดนไทย อ.สุไหโกลก ซึ่งเมื่อวานนี้ตนเองยังไม่รู้ข่าวเพราะเขาบล็อกเฟสและบล็อกการติดต่อเขาทุกช่องทางหนูจึงติดต่อเขาไม่ได้ เมื่อวานนี้พี่สาวตนเองมีศักดิ์เป็นป้าของลูกตนเห็นแมสเซส ตนก็ติดต่อสามีที่อยู่กรุงเทพเข้าไปช่วยเหลือหลานให้เร็วที่สุด พอตนเองรู้แต่กลับมาไม่ทันจึงเกิดเหตุก่อนและเขาพาลูกหนีไปหลายๆที่ซึ่งเด็กทั้ง2 คนไม่ได้เรียนหนังสือเป็นเดือนแล้วเพราะว่ากลัวผู้เป็นแม่จะไปเอาลูก และตอนนี้อาการของลูกเป็นยังไงก็ยังไม่รู้ ส่วนเรื่องการติดต่อลูกจะผ่านพี่สาวตลอดเพราะพี่สาวอยู่ด้วยกันตลอด
ส่วนนางสาว กชมน อบเชย อายุ 28 ปี ผู้เป็นป้า กล่าวว่า ฝ่ายชายติดต่อมาหาตนเองประมาณ 12.15 น. ของเมื่อวาน โดยซื้อยามาแล้ว กำลังจะเอายาให้ลูกกิน โดยจะให้กินจากคนเล็กก่อนแล้วจะให้คนโตกินแล้วเค้าก็จะกินตาม พอป้าเปิดดูข้อความ ก็เลยให้ญาติที่อยู่กรุงเทพรีบไปแจ้งความที่ สภ.คลองหลวง แล้วเดินทางไปช่วยหลาน โดยเดินทางไปที่ห้อง ซึ่งตอนนั้นตนเองอยู่ที่สุไหงโกลก หลังจากที่ตนเองดูคลิปแล้วไม่มีการตอบกลับ ได้ส่งคลิปเพิ่มเติมมาว่าเอายาให้ลูกกินแล้วนะคนเล็ก ซึ่งป้าก็ได้เปิดดูแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรเพราะจะรีบประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้เข้าไปช่วยเหลือหลานก่อน โดยคลิปที่ส่งมาเป็นคลิปที่หลังจากกินยาแล้วซึ่งน้องผู้ชายกำลังอ้วก แล้วก็เหมือนจะหมดสติ โดยคลิปที่เค้าส่งมามีทั้งหมดสามคลิปกับอีกหนึ่งรูป แล้วก็ได้มีการวิดีโอคอลไปหาพ่อที่จังหวัดโคราช โดยเอาผ้า ปูที่นอนห่อตัวแล้วก็เอายากรอก กับน้ำแดง ตอนที่เห็นคลิปตอนแรกตอนนี้รู้สึกตกใจแล้วก็ทำอะไรไม่ถูกแต่ก็พยายามที่จะหาช่วยหาให้ได้เร็วที่สุด ก็จะมีแฟนกับพี่สาวแฟนที่ช่วยกัน แล้วก็มาแจ้งตำรวจแล้วก็พาเค้าไปช่วยในระยะเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็สามารถช่วยออกมาได้ สาเหตุที่ทำแบบนี้คือน้องสาวตนเองนั้นขอเลิกกับผู้ชายเพราะว่าฝ่ายชายไม่ทำงานแล้วก็งี่เง่าไม่ยอมโตเป็นผู้ใหญ่พอน้องสาวไปทำงานก็หาเรื่องทะเลาะอยู่ตลอดเวลาแล้วก็จะให้กลับมาอยู่ด้วยกัน ซึ่งน้องสาวก็บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอดว่าถ้ากลับมาอยู่ด้วยกันแล้วจะกินอะไร ฝ่ายชายไปทำงานที่ประเทศเกาหลี หลังจากฝ่ายชายกลับมาจากเกาหลีก็มาค้าขายของ ได้พักเดียวก็บอกว่าปวดหลังไม่สามารถขายได้ น้องสาวก็ต้องทำคนเดียว แล้วก็ส่งเงินให้ตลอด ส่วนที่เค้าบอกว่าน้องสาวไม่เคย ส่งเงินให้เลย มันเป็นไปไม่ได้เพราะว่าน้องสาวทำงานคนเดียวถ้าเค้าไม่มีเงินแล้วเค้าจะดำรงชีวิตได้อย่างไร ไหนจะค่าเช่าห้องค่าใช้จ่ายต่างๆแล้วก็ค่างวดรถอีก 2,000 บาท ซึ่งสาเหตุที่น้องสาวอยากเลิกเพราะทนพฤติกรรมของฝ่ายชายไม่ไหว เป็นคนชอบเอาแต่ใจตัวเอง และไม่ค่อยเป็นผู้นำเท่าไหร่ ถ้าเข้าไปที่ห้อง ก็จะเห็นว่าบ้านรกไม่ได้มีการทำความสะอาดและฝ่ายชายมักชอบเล่นแต่เกม โดยก่อนหน้านี้ฝ่ายชายมีพฤติกรรมที่จะพาหลานไปฆ่าตัวตายมาแล้วถึงสองครั้ง โดยครั้งแรกพาไปที่สะพาน พระราม 9 ได้มีการไลฟ์สดอยู่บนสะพานพร้อมกับหลานทั้งสองคนแต่ก็ไม่ได้กระโดด และอีกอีกครั้งไปที่เขาใหญ่แต่เจ้าที่ทางอุทยานไม่ได้ให้ขึ้นไป ก่อนจะมาก่อเหตุในครั้งนี้ได้สำเร็จ
ทางด้าน พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง กล่าวว่า ในเบื้องต้นตอนนี้เด็กทั้งสองคนมี การสอบสวนเบื้องต้นไว้ก่อนแล้ว โดยเมื่อวานนี้ทางคุณพ่อก็ให้การปฏิเสธ ซึ่งเค้าบอกว่าเค้าไม่ได้วางยา เค้าได้เอายาวางไว้ในตู้เย็นและลูกหยิบมาดื่มเอง แต่ทางเจ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีพยานหลักฐาน และการสอบปากคำพยานและข้อมูลหลายหลายอย่างก็เชื่อว่าผู้ต้องหาได้เจตนาที่จะกระทำความผิดจริง เบื้องต้นแจ้งข้อหาในเรื่องของพยามฆ่าไว้ก่อน เพราะว่ายาฆ่าแมลงถ้ากินเข้าไปก็จะทำให้เสียชีวิตได้ ในส่วนเรื่องของที่ทางผู้ต้องหาอ้างว่านำยาฆ่าแมลงไปไว้ในตู้เย็น ตรงนี้มันก็เป็นข้อต่อสู้ของทางตัวผู้ต้องหา เพราะเป็นข้อต่อสู้ได้ แต่เราก็มีพยานและหลักฐานที่สามารถเชื่อได้ว่าเค้าได้ก่อเหตุจริง โดยเบื้องต้นที่คุยกันเมื่อคืนเค้าก็ให้การทำนองว่าเค้าเอายาฆ่าแมลงใส่อาหารไว้และเอาไว้ในตู้เย็นแล้วลูกก็มาหยิบทาน ในส่วนของเรื่องที่ว่าไม่ถามอาการหรือเป็นห่วงลูกไหม ซึ่งตอนนี้ผู้ต้องหาก็รับประทานยาเข้าไปเช่นกันก็จะมีปัญหาเรื่องสุขภาพและพอก็ที่จะให้การบ้างแต่ว่าอาการก็ยังไม่ดีขึ้นเท่าไหร่โดยเจ้าที่ตำรวจยังไม่ได้คุยรายละเอียดตรงนี้ โดยเบื้องต้นก็จะมีการดำเนินการตรวจสอบสุขภาพจิตและ ตรวจหาสารเสพติดในร่างกายตามขั้นตอนของกฎหมายอยู่แล้ว เพราะในตอนนั้นเขาก็มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีอยู่หรือทำด้วยอารมณ์ก็ตาม ตอนนั้นเค้าก็รู้ตัวดีอยู่ ในส่วนของเรื่องประวัติ อาชญากรรม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะร่วงตรวจสอบอยู่ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจมีพยานที่สอบปากคำไปแล้วจำนวนหนึ่งและพยานสำคัญที่มาให้ปากคำเพิ่มเติมเมื่อเช้าและเจ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีพยานหลักฐานสำคัญ ที่คาดว่าผู้ก่อเหตุได้กระทำความผิดจริง
ส่วนนางกิ่งแก้ว ปักเคทา อายุ45ปี ยายของเด็ก บอกว่า เมื่อวานนี้ลูกเขยคนที่ก่อเหตุวีดีโอคลอไปหาตาของเด็ก และบอกว่าตอนนี้ได้ฆ่าหลานแล้วจากนั้นเขาก็ให้ตาดูภาพและก็ยังบอกอีกว่าเขาจะฆ่าตัวตายตามจากนั้นก็เงียบไป ซึ่งทางตนเองก็โทรแจ้งตำรวจ191 และทาง191ก็ให้เบอร์สภ.คลองหลวงมาแล้วตนโทรศัพท์หาลูกเขยอีกคนหนึ่งให้มาดู ซึ่งลูกสาวตนเองที่ไปทำงานก็ไปๆมาๆ และวันที่ 25 สิงหาคม เป็นวันเกิดลูกสาวเขาก็จะกลับมาซึ่งทางฝ่ายชายข่มขู่ลูกสาวตนเองมาตลอด และเมื่อไม่นานมานี้ฝ่ายชายจะพาลูกไปโดดหน้าผาแต่ทางอุทยานเขาไม่ให้เข้าก่อน