ปทุมธานี – ชาวบ้านนับ100น้ำตาตกหลังกรมทางเรียกพบอ้างมีคนร้องเรียนทางเชื่อมเข้าออกบ้าน
วันที่ 6 สิงหาคม 2567แขวงทางหลวงนครนายก สนง.ทางหลวงที่ 13 กรมทางหลวง ทำหนังสือเชิญชาวบ้านและผู้ประกอบการในพื้นที่จำนวน 98 รายในพื้นที่ตั้งแต่ คลอง 7 ธัญบุรี ถึง บริเวณคลอง 8 ธัญบุรี ถนนรังสิต-นครนายก(ฝั่งขาออก) เข้าร่วมหาประชุมหาทางออกร่วมกันที่หอประชุมวัด พร้อมด้วยหน่วยงาน กรมชลประทาน , กรมธนารักษ์ และฝ่ายปกครอง อ.ธัญบุรี จากนั้นแขวงทางหลวงนครนายก สนง.ทางหลวงที่ 13 กรมทางหลวง ได้เปิดเผยข้อมูลว่ามีประชาชนรายหนึ่งได้ถ่ายภาพทางเชื่อมเข้าออกบ้านเรือนประชาชนและส่งภาพร้องเรียนเข้ามายังกรมทางหลวงให้มีการตรวจสอบทางเชื่อมเข้าของบ้านประชาชนรวมไปถึงสถานที่ผู้ประกอบการในพื้นที่ว่าได้มีการขออนุญาติทำทางเชื่อมเข้าออกอย่างถูกต้องเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับหรือไม่
จากการสอบถาม น.ส.เกษรินทร์ เกตุราม อายุ 53 ปี กล่าวว่า ตนได้รับหนังสือให้เข้าร่วมประชุมจากกรมทางหลวง พอรู้ว่าตนต้องขอทางเชื่อมเข้าออกให้ถูกต้องนั้นตนเข้าใจ ตนนั้นอยู่มาตั้งแต่บรรพบุรุษสมัยเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ทางหลวงก็น่ารักและเปิดทางเข้าออกให้ชาวบ้านมาโดยตลอด แต่มาวันนี้ตนก็สงสัยว่าเหตุใดมีคนๆหนึ่งมาร้องเรียนว่ากรมทางหลวงทำผิดระเบียบข้อบังคับและจะเอาผิดกับกรมทางหลวง ตนอยากถามว่ากรมทางต้องมาเอาความผิดกับชาวบ้านแบบนั้นใช่ไหม พวกเราเป็นชาวบ้านที่ทำสวนทำไร่ทำนารายได้เราก็มีไม่เยอะ มีหลายคนที่พ่อแม่ให้ที่ดินมาเขาจะเอาเงินที่ไหนมาเสียภาษีทำถนนเชื่อมเข้าบ้านเพราะเก็บภาษีทีต้องเก็บครั้งเดียวตั้ง 30 ปีจะเอาเงินทองที่ไหนมาจ่าย การที่หน่วยงานรัฐทำแบบนี้มันเดินร้อนประชาชนเพราะเป็นเงินจำนวนมาก ตนอยากฝากบอกรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าทุกวันนี้ทำมาหากินในแต่ละเดือนก็แย่อยู่แล้ว ภาษีมรดกก็ต้องเสียหรือต้องขายทิ้งเพื่อเอาเงินมาเสียภาษีดีไหม ตนไม่เข้าใจว่าภาษีจะเก็บอะไรกันเยอะมากมายตนเห็นว่าภาระของประชาชนตอนนี้มันหนักเกินไปสำหรับเรา