วันนี้ ( 6 ส.ค. 67 ) ที่ศาลากลางจังหวัดจันทบุรี พันตำรวจเอกประทีบ เจริญกัลป์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ประจำเขตตรวจราชการที่ 9 พร้อมด้วย นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ประจำเขตตรวจราชการที่ 9 และนางสาวเพชรรัตน์ สายทอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม และคณะ เข้าพบหารือข้อราชการกับนายธวัชชัย นามสมุทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ก่อนที่จะประชุมตรวจราชการตามแผนการตรวจราชการแบบบูรณาการของคณะผู้ตรวจราชการ เขตตรวจราชการที่ 9 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 รอบที่ 2 และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Video Conference) โดยมีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมให้ข้อมูลในประเด็นการตรวจติดตาม ประเด็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล อาทิ มาตรการพักชำระหนี้ให้กับลูกหนี้รายย่อยตามนโยบายรัฐบาล การแก้ไขปัญหาหนี้ทั้งระบบ การตรวจติดตามประเด็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล ด้านการสร้างรายได้ การส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยว การขยายโอกาส การสร้างคุณภาพชีวิต การแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ การตรวจราชการตามมาตรา 55 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ พ.ศ.2565 โครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย จากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานของศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี และการตรวจติดตามการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จากนั้นภาคบ่ายผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีและคณะ ลงพื้นที่ตรวจติดตามการขยายโอกาสการขับเคลื่อนนโยบาย Soft Power ชุมชนริมน้ำจันทบูร ตำบลวัดใหม่ อำเภอเมืองจันทบุรี ซึ่งมีความโดดเด่นในด้านความหลากหลายวัฒนธรรม อยากให้มีการส่งเสริมในสถานศึกษา และช่วยกันยกระดับคุณภาพเพื่อให้เกิดการสร้างสรร ต่อยอด ก่อให้เกิดพลังและสร้างรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่น
ซึ่งคณะผู้ตรวจราชการ ได้ให้ข้อเสนอแนะ ถึงการบริหารงานที่เป็นประโยชน์อย่างมากมาย การตรวจติดตามเป็นไปตามพระราชบัญญัติ ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน 2534 มีเป้าหมายเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน การปฏิบัติของภาครัฐเกิดผลสัมฤทธิ์ มีประสิทธิภาพ มีความคุ้มค่าเชิงการบริหารธุรกิจภาครัฐ มีการอำนวยความสะดวกต่อภาคประชาชน เหลือเวลาประมาณสัก 2 เดือนจะสิ้นปีงบประมาณ 2567 แล้วโครงการใดยังดำเนินการไม่เสร็จสิ้น ขอให้เร่งรัดเพราะงบบางโครงการผูกพันข้ามปีได้มันขยายเวลาเลื่อนงบได้ แต่บางโครงการก็จะถูกตัดเลยโดยเฉพาะงบประมาณที่ยังใช้จ่ายได้ประมาณ 15% ส่วนในประเด็นการแก้ปัญหาหนี้ฯ แม้โครงการจะสิ้นสุดแล้วแต่การดำเนินการตามโครงการเพื่อแก้ปัญหาเรื่องของหนี้ทั้งระบบตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลยังสามารถดำเนินการต่อได้ ประชาชนยังสามารถร้องเรียนผ่านช่องทางศูนย์ดำรงธรรมที่มีอยู่ทุกจังหวัดทุกอำเภอตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากปัญหาดังกล่าวยังพบเห็นอย่างต่อเนื่อง นอกจากการแก้ไขปัญหาหนี้แล้ว เราควรส่งเสริมวินัยการออม การสร้างรายได้ สร้างองค์ความรู้ให้กับเด็กและเยาวชน และให้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาใช้เป็นภูมิคุ้มกันที่ดีในครอบครัว ส่วนในเรื่องของการท่องเที่ยว จันทบุรีมีความโดดเด่นหลายเรื่องทั้งในเรื่องธรรมชาติ ทะเล ชุมชน อาหารการกิน เราควรกำหนดจุดยืนของจังหวัดให้ได้ว่าจะขายอะไร ต้องขายความยั่งยืน ที่เมื่อประชาสัมพันธ์ออกไปและนักท่องเที่ยวเข้ามา ภาพที่ได้สัมผัส ต้องเหมือนกับที่ประชาสัมพันธ์ออกไป นั่นคือมาตรฐานการท่องเที่ยว ความเชื่อมั่น ที่จะก่อให้เกิดความยั่งยืน เป็นต้น
ภาพ/ข่าว จรัล บรรยงคเสนา จ.จันทบุรี 089-6767346
พสิษฐ์ เขม้นเขตวิทย์ รายงาน ศูนย์รวมข่าวภาคตะวันออก 062-7584334