ข่าวพาดหัวอุบัติเหตุ

ญาติติดใจ เด็กวัย16กับเพื่อน ขับรถชนเสียชีวิต สาเหตุไล่ยิงกัน มีภาพวงจรปิด

วันที่ 10 สิงหาคม 2567 เวลา 15.00 น.

สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเช้ามืดเวลาประมาณตีสอง ถึง ตีสาม ของวันที่ 9 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ไดมีเหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์ไล่ทำร้ายกันโดยทั้งสองฝ่ายต่างมีอาวุธมีด และทางด้านกลุ่มคู่อริอีกฝ่ายหนึ่งมีการพกพาอาวุธปืนมาด้วย แล้วเหตุการณ์ดังกล่าวรุนแรงขึ้นจนกระทั้งเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 รายเป็นเยาวชนอายุเพียง 16 ปีเท่านั้น ส่วนเพื่อนที่มากับเด็กอายุ 16 ปีได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสอีก 2 คน อาสาสมัครกู้ภัยต้องนำส่งโรงพยาบาลสหวิทยาการมะลิอย่างเร่งด่วน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณใกล้เคียงปากซอยจอมทอง 18 ถนน จอมทอง แขวง จอมทอง เขต จอมทอง กรุงเทพมหานคร

และวันนี้ ( วันที่ 10 สิงหาคม 2567 ) ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่เพื่อมาสอบถามเรื่องราวทั้งหมดจากทางญาติของผู้เสียชีวิต เนื่องจากทางญาติได้ร้องมาทางผู้สื่อข่าวให้ช่วยติดตามเรื่องราวความจริงทั้งหมดให้หน่อย และยังมีอีกหลายประเด๋นที่ทางญาติสงสัยในสาเหตุของการเสียชีวิต และการเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวอีกด้วย

เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางมาถึงวัดสิงห์ ซอย เอกชัย 43 ถนน เอกชัย แขวง บางขุนเทียน เขต จอมทอง กรุงเทพมหานคร ณ ศาลาแย้มฉายา และได้พบกับทาง นาง หนูเยื่อน อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นแม่ของผู้เสียชีวิต และ นาย นิกร อายุ 40 ปี เป็นพ่อของผู้เสียชีวิต ซึ่งผู้เสียชีวิตมีนามว่า น้องโอ๊ต อายุ 16 ปี

และจากการสอบถามทางด้าน นาย นิกร และ นาง หนูเยื่อน พ่อและแม่ของน้องโอ๊ต กล่าวว่า ทางพ่อติดใจทำไมกู้ภัยถึงไม่ให้ภาพในที่เกิดเหตุกับตนทั้งๆที่ตนเป็นพ่อและเป็นแม่ของผู้เสียชีวิตแท้ๆ ตนก็เลยคิดว่ากู้ภัยเป็นพวกเดียวกันกับทางฝั่งคู่อริของลูกตนหรือเปล่าแล้วยังมาพูดว่าน้องขับรถไปชนรถใหญ่ตายคาที่ ส่วนทางแม่กล่าวว่าตนติดใจสาเหตุการณ์ตายของลูกตนเพราะที่บริเวณเอวข้างซ้ายของลูกตนนั้นมีรูคล้ายกับเป็นรูกระสุนปืนอยู่แต่ทำไมในใบ ชันสูตรกลับไม่มีระบุตรงนั้น ระบุแค่สาเหตุการเสียชีวิตว่าบาดเจ็บทางสมองเท่านั้น ส่วนรูที่พบที่เอวข้างซ้ายเหมือนรูกระสุนปืนมันคืออะไร ตนไม่ได้เห็นเพียงคนเดียวนะ เห็นกันตั้งหลายคน และทางฝั่งคู่กรณียังมีการมาโพสเหมือนอวดว่า ” กูยิงมันแล้ว บาดเจ็บ2 ตาย 1 เหมือนจะประกาศตนว่าตัวเองได้ฆ่าคนตายแล้วมีความภูมิใจมาก ทีแรกทางพ่อกับแม่ก็ไม่ได้ติดใจอะไรนะแต่มาพูดแบบนี้มาโพสแบบนี้มันหมายความว่าอย่างไรมาเยาะเย้ยกันเหรอหรือเป็นความสะใจที่ได้ฆ่าลูกของตนตาย ก็อยากจะวิงวอนถ้าใครมีภาพกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุที่บันทึกภาพได้ในตอนที่เกิดเหตุช่วยส่งมาให้หน่อย แล้วก็อยากให้ตำรวจช่วยจับคนร้ายที่ฆ่าลูกของตนด้วยเพื่อคืนความยุติธรรมให้ลูกของตน ส่วนเรื่องสาเหตุของเหตุการณ์ทั้งหมดมันคืออะไรตนก็ไม่รู้ แต่ถ้าเกิดมีการทะเลาะกันจริงๆแล้วทำไมต้องมาทำกันถึงขนาดต้องเอาชีวิตกันด้วยเหรอ อยากจะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คืนความยุติธรรมให้ลูกของตนด้วย ตนจะไม่ยอมความไดๆทั้งสิ้นกับอีกฝ่ายนึง และจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

และจากการสอบถามทางด้านนาย วิวัฒน์ อายุ 28 ปี เจ้าของโพสต์และเห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า ขณะนั่นตนเองนั่งอยู่หน้าร้าน ได้เห็นกลุ่มดังกล่าวได้ขับรถจักรยานยนต์ไล่กันมาตั้งแต่สะพานบางขุนเทียน มุ่งหน้าแยกจอมทอง โดยมีทั้งหมด4คัน โดยเห็นว่า คันของผู้ตายนั่นออกขวา เพื่อจะไปทำร้ายอีกกลุ่ม ก่อนที่รถจักรยานยนต์จะพุ่งชน รถตู้MPVหรู สีขาว จนทำให้มีคนเจ็บและเสียชีวิต โดยเท่าที่ตนเห็นคือฝั่งคนตายนั่นขับรถจักรยานยนต์พร้อมอาวุธไล่ทำร้ายอีกฝั่ง เท่าที่ตนเองเห็นฝั่งคนตายมีอาวุธมีดและง่าวตกอยู่ ตนเองยืนยันว่าฝั่งคนตายนั่นไล่อีกฝั่งมา

ส่วนทางด้าน น.ส.นุสรา อายุ 16 ปี แฟนของผู้ได้รับบาดเจ็บ กลาวว่า ตนเองและเพื่อนๆรวมทั้งผู้ตายรวมตัวไปงานวันเกิดของเพื่อนกันแถวบางบอนสาม แล้วพอกลับจากงานวันเกิดก็ขับขี่รถจักรยานยนต์กันมาเป็นกลุ่มใหญ่ แล้วก็ทะยอยกันส่งเพื่อนตามบ้านจนจะหมดแล้วส่วนตนก็กลับบ้านก่อนแล้วมารู้อีกทีตอนช่วงตีสองกว่าๆเกือบจะตีสามแล้วมีข้อความจากพี่กู้ภัยส่งมาบอกว่าพี่ยูเสียชีวิตแล้วพอตนได้ยินอย่างนั้นตนก็ตกใจ แต่พอมาดูก็ไม่ใช่เป็นโอ๊ดที่เสียชีวิต ส่วนพี่ยู กับพี่แม็ค ได้รับบาดเจ็บสาหัสกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลมะลิแล้ว โดยมีอาการสาหัสทั้งคู่ ตนเองมาเห็นข้อความที่อีกฝั่งส่งมาจากเพื่อนของตนในข้อความนั้นเหมือนจะสะใจมากกับสิ่งที่พวกเขากระทำลงไป ตนรู้สึกเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็อยากจะใหตำรวจช่วยจับกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายให้ได้โดยไว

และทางด้าน นางสาว กุลณัฐ
อายุ 18 ปี เป็นรุ่นพี่ของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บอีก 2 คน บอกเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุน้องไปงานวันเกิดเพื่อนที่แถวบางบอน 3 กันมา ไปกันหลายคัน แล้วก็พากันขี่กลับบ้าน ก็โดนไล่กดกันมา ก็ยังไม่ได้ยิงกัน แต่ระหว่างทางก็ได้แยกย้ายกันกลับเข้าบ้าน จนถึงที่เกิดเหตุ ก็มีเสียงปืนไล่หลังมา คนขับเลยหันไปมอง พอหันกลับมาก็ชน มีเสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสอีก 2 คน ส่งโรงพยาบาล ตอนนี้ก็ยังรักษาตัวอยู่ น้องคนขับกับคนนั่งกลาง ไม่ได้เรียนแต่คนหลังเรียนอยู่โรงเรียนช่างกลแห่งหนึ่งย่านบางบอน แล้วหลังจากเกิดเหตุก็มีแชทหลุดมาบอกเล่าว่าเนี่ยไปล่ามาแล้วนะ ตาย 1 เจ็บ 2 เล่าเหตุการณ์มาหมด แล้วพอตอนสาย มาบอกว่า แค่ปั่นเอง ไม่ได้เป็นคนทำ ตามในแชทเลย ที่ได้แชทมาก็เพราะมีน้องๆ ที่รู้จักส่งมาให้ แต่ดูๆ แล้ว ไม่รู้จักทางฝั่งนั้นเลย พอทักถามไป ก็บอกว่า ไม่ได้ทำ แค่ปั่นเล่นๆ แต่ไม่เข้าใจว่า ไม่ได้เป็นคนทำ แล้วจะมาพูดมาโชว์ว่าไปล่ามาหรืออะไรแบบนี้ แล้วถ้าทำจริง ทำทำไม น้องไปทำอะไรให้หรอ ถึงกับต้องมาไล่ยิงกันแบบนี้ ไปถึงเห็นผู้หญิงที่เป็นอีกฝ่ายนึงยืนถ่ายคลิปอยู่ ส่วนคนที่ไลฟ์สด เค้ามาช่วยน้อง เค้าก็พอเห็นเหตุการณ์อยู่ว่าไล่ยิงกันมา แล้วทำไมตำรวจถึงตัดประเด็นนี้ออก เป็นแค่อุบัติเหตุรถชนเสียชีวิตและบาดเจ็บเท่านั้น ตนก็ติดใจตรงนี้เหมือนกัน

พร้อมกับได้นำภาพที่บันทึกจ้อความทางแชตMessenger ของคู่กรณีที่มีการพูดอวดพฤติกรรมการก่อเหตุดังกล่าวเอาไว้ด้วย และได้เปิดคลิปเสียการพูดอวดความเก่งกาจของตนอีกต่างหากให้กับผู้สื่อข่าวได้ดู

เบื้องต้นทางญาติของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจะเข้าแจ้งความเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในข้อหาพยายามฆ่า และ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซึ่งจะเป็นการแจ้งความเพิ่มเติม ส่วนร่างของนายโอ๊ตจะมีการ ฌาปนกิจศพในวันพรุ้งนี้ ( วันที่ 11 สิงหาคม 2567 ) เวลา 17.00 น.

ต่อมามือแชตชื่อนาย เบนซ์ อายุ 21 ปี ได้เดินทางมาที่ สน.บางขุนเทียน เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเองต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลยจริงๆ ตอนช่วงเวลาตี 2 ตนหรับอยู่ในบ้านไม่รู้เรื่องอะไรเลยส่วนคลิปตอนช่วง 5 ทุ่มที่อยู่ในแชตนี้นตนถ่ายก่อนที่จะเข้าบ้าน ส่วนแชตที่พูดอวดตัวนั้นตนเองปั่นน้อเล่นเฉยๆ ก็ไม่คิดว่าเรื่องราวจะใหญ่โตถึงขนาดนี้ส่วนตนเองก็ต้องขอโทษทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วยตนไม่ได้ตั้งใจที่จะให้มันเป็นเรื่องราวใหญ่โตถึงขนาดนี้ ส่วนวันนี้ตนมามอยตัวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับตนจริงๆเป็นแค่การปั่นการล้อเล้นเฉยๆเท่านั้น

หลังจากนั้นก็ได้เข้าไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน เพื่อให้ปากคำใช้เวลาไม่นานพอเสร็จสิ้นแล้วจึงเดินทางกลับที่พักทันที