เมื่อเวลา 15.12 น.วันที่ 15 ส.ค.ร.ต.ท.ศรันย์ สงวนสัจพงษ์ รอง สว.(สอบสวน) สน.บางพลัด รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ซอยจรัญสนิทวงศ์ 79 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพฯ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบก่อนไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.กัมปนาท อรุณคีรีโรจน์ ผบก.น.7 พ.ต.อ.อัครพล จั่นเพชร ผกก.สน.บางพลัด นางอารียา เพ็งประเสริฐ ผู้อำนวยการเขตบางพลัด นายสิทธิชัย อรัณยกานนท์ ผู้ช่วยเลขาผู้ว่าฯ กทม. พ.ต.อ.ภิญโญ ป้อมสถิตย์ สก.เขตบางพลัด พร้อมประสานเจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางอ้อ และอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุลึกเข้าไปสุดซอยชื่อชุมชนคลองสวนพริก อยู่ในซอยคับแคบ ลักษณะเป็นบ้านไม้ สูง 2 ชั้น ปลูกติดกันหลายหลัง บ้านต้นเพลิงเลขที่ 1195 พบแสงเพลิงและกลุ่มควันพวยพุ่งจำนวนมาก ก่อนเพลิงลุกลามไปบ้านข้างเคียงอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงระดมวางหัวฉีดน้ำ กว่า 10 หัว โดยใช้เวลากว่า 30 นาที จนสามารถล้อมแสงเพลิงไว้ได้ทุกด้านก่อนเพลิงสงบ นอกจากนี้พบมีผู้บาดเจ็บ 2 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย เป็นอาสาดับเพลิง 1 ราย สำลักควัน เจ้าหน้าที่แพทย์เอราวัณจึงทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นส่วนอีก 1 รายเป็นชาย กระโดดลงจากชั้น 2 ของบ้านหลบหนีไฟ ถูกนำตัวส่งรักษาต่อที่ รพ.วชิระ จากการตรวจสอบความเสียหายพบถูกเพลิงไหม้ทั้งหลัง 12 หลังและอีก 4 หลังเสียหายเพียงบางส่วน รวม 16 หลัง
จากการสอบถาม นางดรุณี ถังรักษ์ อายุ 65 ปี เป็น 1 ในผู้เสียหายบ้านถูกเพลิงไหม้ กล่าวว่า ทุกทีจะมีคนอยู่บ้าน แต่วันนี้ตนไม่รู้ว่ามีคนอยู่บ้านหรือเปล่า ตอนเกิดเหตุตนออกมานั่งเล่นกับหลานอยู่นอกบ้าน กระทั่งมาเห็นอีกทีตอนไฟลุกไหม้แล้ว ตนพยายามเรียกคนมาช่วยดับแต่ก็ไม่เป็นผลแล้ว เนื่องจากไฟโหมแรงมาก ประกอบกับมีลมพัดแรงมากด้วย ตนรู้สึกตกใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนหัวใจเกือบวาย
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ขณะเกิดเหตุบ้านหลังต้นเพลิงมีผู้อาศัยอยู่ 1 คน จู่ๆ เกิดเพลิงลุกไหม้ที่หัวถังแก๊ส หุงต้มขนาดใหญ่ กระทั่งเกิดเพลิงไหม้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ผู้อาศัยในบ้านต้องกระโดดลงจากชั้น 2 เพื่อหนีตายออกจากบ้าน จนได้รับบาดเจ็บ ก่อนเพลิงลุกลามไปบ้านข้างเคียง ส่วนสาเหตุคาดว่าเกิดจากวาล์วแก๊สรั่ว
เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนเตรียมเชิญตัวเจ้าของบ้านต้นเพลิงไปสอบปากคำ และประสานเจ้าหน้าที่ กองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงส่วนผู้ที่ได้รับผลกระทบเหตุเพลิงไหม้ให้มาลงทะเบียนได้ที่บ้านเลขที่ 1096/1 ซึ่งอยู่ภายในชุมชนเพื่อรับการเยียวยาต่อไป