พี่เสือ นักข่าว หมายเหตุ..คดีนี้ศาลอนุญาตให้นำชื่อคู่ความออกเผยแพร่ได้คับตามข้อเท็จจริง
อดีตผกก.ชนะรวด2คดีเมียใหม่ทอมมี่ยอมขอโทษผ่านสื่อคดีส่งใบปลิวประจานผ่านสื่อ หาว่าเรียกเงิน1แสนผู้ต้องหาคดียาเสพติดและทำเมียผู้ต้องหาท้องบังคับให้ไปทำแท้ง และเป็นชู้กับหญิงอื่น หลังตกทนทุกข์ตกเป็นจำเลยสังคมสาหัสสากรรจ์มา5ปีก่อนความจริงปรากฏ
วันนี้(21ส.ค.67) พ.ต.อ.สุรพงศ์ กิตติธิรางกูร อดีตผู้กำกับการสภ.ควนโดน จ.สตูล ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงผ่านสื่อมวลชนคดีที่มีการส่งใบปลิวบัตรสนเท่ห์ไปยังส่วนราชการหลายแห่งในจ.สงขลาและมีการนำไปเสนอข่าวผ่านสื่อมวลชนหลายสำนัก
ใส่ร้ายว่าตนไปเรียกรับเงินผู้ต้องหาคดียาเสพติด1แสนบาทและพาภรรยาผู้ต้องหาไปหลับนอนจนตั้งท้องและบังคับให้ทำแท้ง และคดีที่ถูกใส่ร้ายในใบปลิวเดียวกันว่ามีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับผู้หญิงอื่น
ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปลายปี61 และตอนนั้นทางผู้บังคับบัญชาในตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงทางวินัยซึ่งผลการสอบสวนปรากฏว่าทั้งสองเรื่องไม่มีมูลความจริง
โดยคดีแรกผลสอบผู้ต้องหาในเรือนจำเป็นผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ไม่ใช่คดียาเสพติดและไม่เคยมีภรรยาและไม่เคยรู้จักตนมาก่อนและไม่เคยร้องเรียนตนและไม่รู้ว่าเนื้อหาใครเขียนขึ้นมา
ส่วนคดีชู้สาวเนื้อหาก็ไม่เป็นความจริงมีการพิจารณาในชั้นศาลแล้วเป็นคนละเรื่องกับในใบปลิวที่เขียนใส่ร้ายทางผู้บังคับบัญชาจึงให้ยุติทางวินัยไม่มีความผิด
หลังจากนั้นตนจึงพยายามสืบหาที่มาของใบปลิวมาตลอดระยะเวลา5ปีจนรู้ว่า น.ส.กันตา หรือธัญรัศม์ สังขวิสิทธิ์ หรือจ๊อย ซึ่งเป็นภรรยาใหม่ของนายทอมมี่ ที่เป็นคู่ความฟ้องร้องกับตนหลายคดีก่อนหน้านี้ เป็นผู้นำใบปลิวไปให้สื่อมวลชนนำเสนอข่าวโจมตีและประจานตน
จึงได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาฯเมื่อช่วงต้นปี 67 แต่ระหว่างพิจารณาชั้นศาลสืบพยานไป2ปาก
ล่าสุดเมื่อวานนี้(20ส.ค.67)น.ส.กันตา หรือธัญรัศม์ หรือจ๊อย ได้ขอเจรจาและขอโทษยอมรับว่า รู้มาก่อนแล้วว่ามีการนำใบปลิวไปเผยแพร่ตามหน่วยงานต่างๆ และเป็นผู้นำไปปลิวไปให้สื่อมวลชนนำเสนอข่าว ที่ทำไปเนื่องจากเข้าใจผิดรู้เท่าไม่ถึงการณ์เชื่อข้อเท็จจริงที่ไม่ถูกต้อง ศาลจึงได้ไกล่เกลี่ย
โดยมี นายวิชิต อุ่นแดง พนักงานอัยการโจทก์ และนายจอมพงศ์ อักษรพันธ์ ทนายโจทก์ร่วม ช่วยเจรจาไกล่เกลี่ยเพื่อจบคดีด้วยดีทั้งสองฝ่าย
โดย น.ส.กันตา หรือธัญรัศม์ หรือจ๊อย ยินดีให้มีการแก้ข่าวและนำเสนอข้อเท็จจริงและยอมขอโทษผ่านสื่อมวลชนเพื่อแสดงความรับผิดชอบกับเรื่องนี้
พ.ต.อ.สุรพงศ์ กล่าวว่า แม้ว่าตลอดระยะ5ปีที่ผ่านมาตนจะต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงและตกเป็นจำเลยสังคมจากเนื้อหาในใบปลิวที่ไม่เป็นความจริง แต่เมื่อ น.ส.กันตา หรือธัญรัศม์ หรือจ๊อย ยอมรับผิดว่าไม่ใช่เรื่องจริง
ตนก็ยอมให้อภัยและไม่ติดใจดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญาทั้งสองคดีอีกต่อไป และถอนคำร้องทุกข์และถอนคำร้องเรียกค่าสินไหมทอดแทนต่อศาลด้วย
