ข่าวพาดหัว

ผู้การปากน้ำประชุมวางแผนเร่งรัดคดีพม่าฆ่าลุงแท็กซี่หมกพงหญ้า ตั้ง 2 ปม ประสงค์ต่อทรัพย์กับยาเสพติด

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 สิงหาคม 2567 ที่ สภ.บางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ทางชุดสืบสวน และพนักงานสอบสวน ได้มีการเชิญตัวนางสาวปลา (นามสมมติ) ลูกสะใภ้ของผู้เสียชีวิตเข้ามาสอบปากคำที่โรงพัก เนื่องจากตามข้อมูลโทรศัพท์ของผู้เสียชีวิต พบว่าได้ติดต่อหาลูกสะใภ้ผ่านทางแชทเฟสบุ๊คเมื่อช่วงเวลาประมาณ 08.00น.วันที่ 27 สิงหาคม 2567 ซึ่งทางลูกสะใภ้ได้ให้ข้อมูลกับทางภรรยาผู้ตายที่อยู่จังหวัดขอนแก่น บอกว่าผู้ตายไปเล่นการพนันในบอลละติดหนี้จำนวน 20,000 บาท นอกจากนี้ยังพบ การโทรพบว่ามีการพูดคุยกันนานกว่า 7 นาที ซึ่งทางตำรวจเองก็ต้องพิสูจน์ทราบว่าข้อเท็จจริงแล้วลูกสะใภ้ของผู้ตายได้คุยบุคคลปลายสายคือกันแน่


ซึ่งระหว่างที่ลูกสะใภ้ของผู้ตายกำลังเดินเข้าไปในห้องสืบสวน ผู้สื่อข่าวก็พยายามสอบถามว่า ตามข้อเท็จจริงแล้วตอนที่โทรไปหาผู้เสียชีวิต ได้เป็นคนโทรไปเองหรือไม่ และตลอด 7 กว่านาทีตามประวัติการโทร บุคคลปลายสายที่พูดคุยด้วยเป็นผู้ตายใช่หรือไม่ ซึ่งลูกสะใภ้ของผู้ตายตอบกลับเพียงแค่ “ไม่ค่ะ” ก่อนจะเดินเข้าไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน
ต่อมา เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ก็ได้เดินทางเข้ามาร่วมประชุมกับคณะทำงาน และตำรวจชุดคลี่คลายคดี ก่อนจะมีการเชิญลูกสะใภ้ของผู้เสียชีวิตเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติมกับทางตำรวจอีกครั้งในห้องประชุม ซึ่งระหว่างที่ตัวของลูกสะใภ้ผู้เสียชีวิตได้เดินออกจากห้องสอบสวนมายังห้องประชุม ผู้สื่อข่าวก็ได้มีการสอบถามข้อเท็จจริงอีกครั้ง ว่าบุคคลที่ได้คุยด้วยกว่า 7 นาที คือใครกันแน่ ซึ่งลูกสะใภ้ของผู้เสียชีวิตก็ตอบแบบเดิมว่า “ไม่รู้ค่ะ” ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องประชุม


หลังจากการประชุมนานกว่า 1 ชั่วโมง ทาง พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ก็ได้มีการแถลงถึงความคืบหน้าทางคดีว่า หลังจากเกิดเหตุจนถึงตอนนี้สามารถควบคุมผู้ต้องสงสัยได้ 1 ราย นั่นก็คือชายชาวเมียนมาที่ตกเป็นข่าวไปแล้ว และได้มีการอายัดของกลางนั่นก็คือรถแท็กซี่ และโทรศัพท์มือถือ ของผู้เสียชีวิตซึ่งยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบจากสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน
ซึ่งจากการสอบปากคำตัวผู้ต้องสงสัยชาวเมียนมารายนี้ เจ้าตัวให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี เพราะการยอมรับว่าอยู่ด้วยทุกช่วงเวลาตั้งแต่รถแท็กซี่ของผู้เสียชีวิตไปรับจนไปถึงจุดที่พบศพ และขับรถออกมาจากจุดเกิดเหตุก่อนจะกลับไปที่ห้องเช่าในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ที่สำคัญยังได้มีการอ้างถึงตัวละครอีก 1 คน โดยคาดว่าเป็นผู้ร่วมขบวนการในการก่อเหตุครั้งนี้ด้วย แต่ทางตำรวจเองก็ยังไม่ปักใจเชื่อเพราะต้องมีการพิสูจน์ทราบตามคำให้การของผู้ต้องสงสัยรายนี้ต่อไป


ในส่วนปมเหตุของคดีในตอนนี้ทางชุดทำงานได้มีการตั้งปมไว้ 2 ประเด็นด้วยกันนั่นก็คือ ฆ่าชิงทรัพย์ และความขัดแย้งส่วนตัวในประเด็นเรื่องของยาเสพติด ซึ่งหลังจากนี้ก็ต้องมีการเรียกพยานแวดล้อมเข้ามาสอบปากคำ และหาพยานหลักฐานโดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางต่างๆ ที่รถแท็กซี่ของผู้เสียชีวิตได้ขับ ขับออกมาตั้งแต่พื้นที่จังหวัดนนทบุรีตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืน จนมาถึงพื้นที่ของจังหวัดสมุทรปราการ ก่อนจะกลับไปพื้นที่จังหวัดนนทบุรี อีกครั้งช่วงเวลาประมาณตีห้า เพื่อมาตรวจสอบดูว่าผู้ก่อเหตุมีทั้งหมดกี่คน และจุดที่ลงมือฆ่าอยู่ที่ไหน แต่เบื้องต้นข้อมูลการสืบสวนคาดว่าน่าจะอยู่ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ
ส่วนลูกสะใภ้ของผู้เสียชีวิตที่ทางตำรวจได้เรียกมาให้ปากคำในวันนี้ เนื่องจากพบข้อมูลประวัติการโทรว่าได้มีการพูดคุยกับเบอร์ผู้เสียชีวิตนานกว่า 7 นาที ซึ่งประเด็นนี้ทางลูกสะใภ้ของผู้เสียชีวิตให้การว่าปลายสายที่ได้คุยด้วยคือตัวของผู้เสียชีวิต พร้อมได้ยินเสียงร้องโหยหวนที่ปลายสายซึ่งเป็นเสียงของผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน อีกทั้งเหมือนกับว่าได้ยินเสียงคนจีนพูดเรียกค่าไถ่ ซึ่งประเด็นคำให้การของลูกสะใภ้ผู้เสียชีวิตทางตำรวจก็ยังไม่เชื่อคำให้การ เพราะความเห็นแพทย์ยืนยันว่าผู้เสียชีวิต เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10-12 ชั่วโมง จึงไม่มีความเป็นไปได้ที่ปลายสายที่ลูกสะใภ้ของผู้เสียชีวิตได้คุยด้วยจะเป็นตัวของผู้เสียชีวิตเอง แต่กลับกันก็มีความเป็นไปได้ว่าลูกสะใภ้ของผู้เสียชีวิตเองจะเกิดความสับสน ซึ่งประเด็นนี้ทางตำรวจชุดสืบสวนก็ต้องไปพิสูจน์ทราบด้วยเช่นกัน

สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ