ผู้การปากน้ำแถลงข่าว หลังสอบเค้นผู้ต้องหาชาวพม่าที่ก่อเหตุฆ่าแท็กซี่
พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เผยผลสอบเค้น นายซัน ชายชาวเมียนมาให้การรับสารภาพก่อเหตุเพียงคนเดียว อ้าง จ้างคนตายไปส่งเป็นเงิน 2,000 บาท แต่ไม่มีเงินให้ จึงให้เสพยาด้วยกัน สุดท้ายคนตายกลับกรอกจะเอาเงินด้วย จึงเกิดการสู้กัน ฝ่ายคนก่อเหตุใช้ค้อนทุบแล้วใช้เชือกมัด ก่อนขับรถหลบหนี
เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 28 สิงหาคม 2567 ที่ ห้องประชุม ชั้น 3 สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ / พ.ต.อ.ไพโรจน์ เพ็ชรพลอย ผกก.สภ.บางพลี / พ.ต.ท.ภาวัต รัตนาภรณ์ รอง ผกก.สส.สภ.บางพลี / พ.ต.ต.บุญเสริฐ กิ่งเกษ สารวัตรสอบสวน สภ.บางพลี พร้อมเจ้าหน้าชุดสืบสวน สภ.บางพลี ควบคุมตัว นายหม่อง ซอย มิน หรือ ซัน อายุ 39 ปี ชาวเมียนมา ที่ก่อเหตุ ลงมือฆ่า นายมีชัย พันธ์ไชย อายุ 63 ปี ชาว จ.ขอนแก่น เป็นคนขับแท็กซี่ ยี่ห้อ โตโยต้า สีเขียว-เหลือง ทะเบียน 1 มค 69 กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2567 แล้วขับรถแท็กซี่หลบหนีไป จนกระทั้งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ติดตามไปจับกุมตัวได้ที่ ย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อม รถแท็กซี่ ทะเบียน 1 มค 69 กรุงเทพมหานคร ที่จอดอยู่ห่างจากที่พักของ นายซัน เพียง 200 เมตร และยังพบโทรศัพท์มือถือของผู้ตายอยู่ที่ นายซัน พร้อมกับพบกางกางยีนและเสื้อแขนยาว ที่เปียกเปื้อนโคลน เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน โดย นายซัน ให้การให้การปฏิเสธนั้น หลังจากถูกสอบเค้นหนักเข้าให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เปิดเผยว่า สำหรับคดีดังกล่าวทางตำรวจได้ทำการสืบสวนจนกระทั่งผู้ก่อเหตุคือ นายซัน เป็นชายชาวเมียนมา ให้การรับสารภาพแล้วว่าลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว โยก่อนเกิดเหตุ ช่วงประมาณ 4 ทุ่มกว่า นายซัน ได้เรียกรถแท็กซี่ของนายมีชัย จากนั้นได้ขึ้นมาเพียงคนเดียว พร้อมกับพกพาอุปกรณ์ก่อสร้าง ซึ่งในจำนวนนั้นคือค้อนที่ใช้ก่อเหตุ โดย นายซันได้มีการตกลงกับผู้ตาย ว่าจ้างรถเป็นเงิน 2,000 บาทให้มาส่งที่บ้านของแม่ในพื้นที่คลองด่าน สมุทรปราการ โดยแวะที่ปั๊มแก๊สในพื้นที่จังหวัดนนทบุรีและจ่ายเงินให้คนขับเติมแก๊ส จำนวน 170 บาท ซึ่งตรงจุดนี้มีพยานยืนยันว่าในรถคันดังกล่าวมีเพียงแค่นายมีชัยและผู้โดยสารเพียงหนึ่งคนเท่านั้น ซึ่งก็สอดคล้องกับภาพจากกล้องวงจรปิด
ต่อมาระหว่างทาง นายซัน อ้างว่าเงินไม่มีจ่าย จะขอจ่ายเป็นไอซ์ที่ซื้อมาจำนวน 1,700 บาทแทน จากนั้นจึงได้แบ่งยาและแวะข้างทางเสพยาด้วยกัน และได้เดินทางต่อมาที่คลองด่านแต่เมื่อมาถึงก็ไม่พบแม่ และติดต่อแม่ไม่ได้
ต่อมา นายซัน อ้างว่า ฝ่ายนายมีชัยไม่ยอม จะเรียกเงินค่าโดยสารอีก 2,000 บาท พร้อมกับได้ใช้มีดข่มขู่ นายซัน ตัว นายซัน จึงได้ออกอุบายหลอกล่อผู้ตายไปที่จุดเกิดเหตุที่บริเวณบ่อปลาซึ่งเป็นจุดเดียวกันกับจุดที่พบศพ ซึ่งตัว นายซัน มีความคุ้นเคย เพราะเคยทำงานก่อสร้างที่แคมป์คนงานที่โรงพยาบาลบริเวณใกล้เคียงมาก่อน เมื่อมาถึงได้บังคับให้นายมีชัยลงจากรถ จนกระทั่งเกิดการยื้อแย่งมีดกัน หลังจากนั้น นายซัน จะชิงรถแท็กซี่ของผู้ตายไปหาแม่ แต่ผู้ตายไม่ยอม นายซัน จึงใช้ค้อนทุบอีกฝ่าย เห็นอีกฝ่ายชักดิ้น อยู่ที่พื้น จึงใช้เชือกที่อยู่บริเวณท้ายรถแท็กซี่ มามัดนายมีชัยเอาไว้ ก่อนขับรถหลบหนีออกไป
จากนั้นได้ขับรถไปหาเพื่อนแต่ปรากฏว่าไม่เจอจึงได้ขับรถย้อนกลับมาตรงจุดเกิดเหตุอีกครั้ง ปรากฏว่าเมื่อไปถึงพบว่าผู้ตายเสียชีวิตแล้ว ประกอบกับหิวข้าว หิวน้ำ จึงได้ไปขอข้าวขอน้ำที่ขนำใกล้เคียงซึ่งมีพยานเห็นและเข้ามาให้การไปแล้ว ต่อมา นายซัน จึงได้ใช้โทรศัพท์มือถือของผู้ตาย เสิร์ชกูเกิ้ลแมพ ขับรถกลับไปในย่านบางบัวทอง พื้นที่จังหวัดนนทบุรี จนกระทั่งตำรวจตามไปจับตัวไว้ได้
เบื้องต้นตำรวจตรวจสอบที่เกิดเหตุพบของกลางทั้งรถกุญแจรถโทรศัพท์ของผู้ตายและค้อนเปื้อนเลือดที่ใช้ก่อเหตุ ส่วนกรณีที่มีการโทรศัพท์หากันระหว่างลูกสะใภ้ของผู้ตายกับ นายซัน ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุนั้น โดยพบว่ามีช่วงหนึ่งที่ตัวลูกสะใภ้ได้โทรไปหา นายซัน และคุยกันเป็นเวลา 7 นาที จากการสอบสวนนายซันยอมรับว่ามีการโทรคุยจริง โดยได้พูดถึงเรื่องการพนันและการติดยา จนทำให้ฝ่ายครอบครัวของผู้ตายเข้าใจว่าเป็นการเรียกค่าไถ่
จากการสอบถาม นายซัน ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือก่อเหตุ โดยลงมือเพียงแค่คนเดียว โดยอ้างว่าจำเป็นต้องทำเพราะไม่มีทางเลือกเนื่องจากคุยกันไม่ลงตัว โดยผู้ตายเป็นฝ่ายนำมีดมาข่มขู่ก่อน บอกให้ตนไปหาเงิน 2,000 บาทซึ่งเป็นค่าโดยสารรถแท็กซี่มาให้ได้ ตนก็รับปากว่าจะไปถามหากับเพื่อนให้เนื่องจากตนติดต่อแม่ไม่ได้ ต่อมาตนจึงได้แย่งมีดมาก่อนแล้วจะเอารถไปหาแม่ แต่คนตายได้ยื้อแย่ง ตนจึงใช้ค้อนทุบเข้าไปหนึ่งครั้ง โดยไม่รู้ว่าโดนตรงไหนเพราะมันมืด
หลังจากที่ก่อเหตุแล้วก็ได้ขับรถออกมาจากจุดเกิดเหตุ แล้วมาจอดอยู่ที่จุดจุดหนึ่งในพื้นที่จังหวัดนนทบุรีอยู่นานประมาณ 4 ถึง 5 ชั่วโมง และใช้โทรศัพท์มือถือของผู้ตายพยายามติดต่อหาญาติของผู้ตายหลายช่องทาง เพราะอยากจะคืนรถให้กับญาติ จนกระทั่งได้พูดคุยกับหญิงคนหนึ่ง ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นลูกสะใภ้คนตาย บอกให้มาเอารถแต่อีกฝ่ายพูดในทำนองไม่สนใจ ตนจึงได้สร้างเรื่องหรอกว่าผู้ตายเป็นหนี้เยอะเพราะเล่นการพนัน เพราะเจตนาอยากให้อีกฝ่ายรีบมาเอารถ โดยไม่ได้ต้องการเงินหรือเรียกค่าไถ่ ปรากฏว่าครอบครัวผู้ตายไม่สนใจจึงได้ขับรถกลับมาไว้ที่บ้านเช่าของตนเอง ส่วนมือถือของผู้ตายแบตหมดก็เลยชาร์ตมือถือทิ้งเอาไว้ สำหรับค้อนที่ใช้ก่อเหตุก็เป็นอุปกรณ์การก่อสร้างที่ตนพกพาไปทำงานเป็นประจำอยู่แล้ว สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนก็ สำนึกผิดและอยากจะขอโทษครอบครัวของผู้ตาย
ด้าน พ.ต.ต.บุญเสริฐ กิ่งเกษ สารวัตรสอบสวน สภ.บางพลี หลังการสอบสวน ได้แจ้งข้อกล่าวหา โดยกล่าวหาว่า ชิงทรัพย์ ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และปิดบังซ่อนเร้น อำพรางศพ หรือเหตุในการตาย นำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
********************
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ