รอดหวุดหวิด ลุงพิการวัย 58 ปี บ้านเกิดไฟไหม้เพื่อนบ้านเข้าไปช่วยออกมาได้ทัน
เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. วันที่ 28 สิงหาคม 2567 พ.ต.ต.บุญฤทธิ์ เชิญเชื้อ สารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงใต้ จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ภายในซอยวัดบางหัวเสือ ชุมชนหมู่ 9 พัฒนา ต.บางหัวเสือ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสานรถดับเพลิงเทศบาลปู่เจ้าสมิงพราย จำนวน 2 คัน เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ
จุดเกิดเหตุต้องเดินเท้าถนนปูนเข้าไปประมาณ 200 เมตร พบเพลิงกำลังลุกไหม้บ้านไม้ชั้นเดียวอยู่ติดกันประมาณ 4 หลัง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงพร้อมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครระดมฉีดน้ำเพื่อสกัดกั้นไฟที่กำลังลุกไหม้ ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีเพลิงสงบ จากการตรวจสอบพบว่าต้นเพลิงมาจากบ้านเลขที่ 19/12 ได้รับความเสียหายทั้งหลัง และมีบ้านที่อยู่ติดกันเสียหายบางส่วน เหตุการณ์นี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด โดยใกล้ที่เกิดเหตุ พบ นาย ไพรัตน์ สังข์รอด อายุ 58 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านต้นเพลิงที่เกิดเหตุ และมีอาการป่วยโรคประจำตัว โรคเบาหวาน ก่อนหน้านี้ประมาณ 2 ปี ได้ถูกตัดขาข้างซ้ายจากโรคประจำตัว จึงได้เป็นผู้พิการ ซึ่งอยู่ในอาการตกใจ ได้สอบถามเบื้องต้นทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวอยู่ด้วยกัน 3 คน พ่อแม่ลูก ตอนเกิดเหตุอยู่เพียงลำพังคนเดียวและเข้าห้องน้ำอยู่จัดเสร็จสิ้นภารกิจกำลังจะออกจากห้องน้ำ ก็หันไปพบมีเปลวไฟลุกไหม้อยู่ในห้องนอนของตนภายในบ้าน จากนั้นถึงได้ตะโกนขอความช่วยเหลือ และมีเพื่อนบ้านเข้ามาช่วยออกไปได้ทัน จากนั้นก็นั่งดูไฟไหม้บ้านตัวเอง
ทางด้าน ดร.สรรเกียรติ กุลเจริญ นายกเทศบาลเมืองปู่เจ้าสมิงพราย ได้ให้เจ้าหน้าที่กองสาธารณสุข เจ้าหน้าที่กองสวัสดิ์มีการสังคม ลงพื้นที่มาตรวจสอบผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ เพื่อจะได้ช่วยเหลือและเยียวยากับผู้ที่ได้รับความเสียหาย
จากการสอบถาม นาย ไพรัตน์ เจ้าของบ้านไฟไหม้ ได้เล่าให้ฟังว่า ตนเองก็ไม่ทราบว่าเหตุการณ์ไฟไหม้เกิดขึ้นได้อย่างไรเนื่องจาก เปิดประตูเพื่อที่จะเข้าห้องน้ำ แต่เห็นมีไฟแลบจึงรีบปิดประตูและ หนีออกมา ตนเองตกใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยบ้านหลังดังกล่าวอาศัยอยู่ด้วยกัน 3 คน มีตน นาง จีน จันจิรวน อายุ 52 ปี (ชาวกัมพูชาภรรยา) และด.ญวนิดา สังข์รอด อายุ 12 ปี(ลูกสาว)
นาย สุขชัย พรหมสุวัณ อายุ 51 ปี (ขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง) ผู้เห็นเหตุการณ์และเข้าไปช่วยเหลือลุงพิการ ได้เล่าให้ฟังว่า ตนเองขี่จักรยานยนต์กลับมาก็เห็นไฟมันลุกขึ้นอยู่ก็ไม่รู้ว่าบ้านใคร จังหวะเจอเพื่อนเพื่อนกันนั่งอยู่ข้างนอกเพราะมีคนช่วยเอาออกบ้านที่ไฟไหม้แล้ว จากนั้น เปลวไฟได้ลุกโหมจะมา ไหม้อีก 1 หลัง ตนเองมาทราบภายหลังว่าเป็นบ้านของเพื่อนซึ่งพิการทางขา แต่ไม่มีคนกล้าสาดน้ำเพื่อดับไฟ เพราะว่าเปลวไฟกำลังลุกโหมอย่างหนักซึ่งภายในบ้านมีถังแก๊สอยู่ด้วย ตนเองจึงนำสายยางมาฉีด บ้านหลังดังกล่าวอาศัยอยู่เพียงคนเดียวตนเองตกใจมากที่ไฟไหม้บ้านเพื่อน
นาย มานะ รอยรัด อายุ 51 ปี เพื่อนบ้านที่ถูกไฟไหม้บางส่วน ได้เล่าว่า ตนบ้านอยู่ติดกับบ้านลุงที่เกิดเหตุ และก่อนเกิดเหตุตนยังคุยกับลุงอยู่เลยจากนั้นตนจึงได้เดินออกมาหน้าบ้านที่ติดกับถนน แล้วสักพักก็ได้ยินเสียงลุงตะโกนไฟไหม้ จนจึงรีบวิ่งไปดูก็เห็นมีไฟลุกไหม้ภายในบ้านลุง จากนั้นตนจึงรีบวิ่งเข้าไปในบ้านเพื่อช่วยลุงออกมาโดยมีมอเตอร์ไซค์วินที่ผ่านมาเห็นก็เข้ามาช่วยลงด้วยกันเอามาอยู่ที่ปลอดภัย ถึงบ้านลุงอยู่ด้วยกันประมาณ 3-4 คน
ดร.สรรเกียรติ กุลเจริญ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองปู่เจ้าสมิงพราย ให้สัมภาษณ์ว่า ท่านนายกแจ้งว่าเดี๋ยวช่วยเบื้องต้นก่อน ร่วมกับสวัสดิการสังคม เนื่องจากขั้นตอนการช่วยเหลือจะต้อง ประชุมคณะกรรมการ ซึ่งจะใช้เวลาพอสมควรในวันพรุ่งนี้ อาจจะมีเช็คเข้ามาช่วยเหลือส่วนในเรื่องการประชาสัมพันธ์ อุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่แต่ทุกคนก็จะต้องใช้ความระมัดระวัง ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้คาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรเพราะเจ้าของบ้านแจ้งว่าไม่ได้ใช้ไฟหรือจุดอะไรเลย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพ และลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะปิดกั้นที่เกิดเหตุ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเชิญตัวเจ้าของบ้านไปสอบเพิ่มเติมที่โรงพัก เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
*************************
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ
