กล้องวงจรปิดบันทึกนาทีชีวิต ขณะรถจักรยานยนต์พ่วงข้างขับเข้าสี่แยกไฟแดง จู่ๆมีรถกระบะขับตามหลัง ชนท้ายเข้าอย่างแรง หนุ่มนักเรียน ม.4 อาสากู้ภัยได้ยินวิทยุ รีบไปช่วย CPR ยื้อชีวิต แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา
เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2567 เวลา18.30 น. ร้อยเวรสอบสวน สภ.โพนทอง ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุ รถกระบะเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง บนถนนร้อยเอ็ด-โพนทอง ก่อนถึงสี่แยกไฟแดง ว.อุดร ต.แวง อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงรุดออกตรวจสอบพร้อมกู้ภัยอโสกโพนทอง อาสาสมัครกู้ภัยเจ้าปู่กุดเป่ง
ถึงจุดเกิดเหตุ เป็นบริเวณถนนขาเข้าโพนทอง ก่อนถึง 4 แยกไฟแดง พบรถถกระบะ 4 ประตู โตโยต้ารีโว้ สีดำ ทะเบียน 2 ขภ 262 กทม. จอดคร่อมอยู่เกาะกลางถนน สภาพด้านหน้ารถพบรอยเฉี่ยวชนยุบพังเสียหาย ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน-ดำ พ่วงข้าง สภาพด้านท้ายรถถูกเฉี่ยวชนพังเสียหาย พบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิง อายุ 50-60 ปี หมดสติ ไม่มีชีพจร ซึ่งมีนักเรียนชาย สวมเสื้อสะท้อนแสงกู้ภัยช่วยทำการ CPR เพื่อทำการฟื้นคืนชีพ ก่อนที่หน่วยกู้ชีพ รพ.โพนทอง จะให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาล เร่งนำส่งโรงพยาบาลโพนทอง ผู้บาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า รถซาเล้งขับอยู่ด้านหน้ารถกระบะมุ่งหน้าสี่แยกไฟแดง ว.อุดร มาถึงจุดเกิดเหตุ รถกระบะได้เกิดเฉี่ยวชนด้านท้ายรถจักรยานยนต์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตดังเหตุการณ์ดังกล่าว
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เพื่อสอบสวนพยานแวดล้อมและถ่ายภาพในจุดเกิดเหตุ เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน หลังจากนี้จะได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ 30 ส.ค.67 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังโรงเรียนโพนทองพัฒนาวิทยา ต.สระนกแก้ว อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งได้พบกับ น้องเป๊ก โชคชัย ศรีบัวเทพ อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.4 (พลเมืองดีที่ช่วยCPR) เล่าให้กับผู้สื่อข่าวฟังว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงหลังเลิกเรียน ตนได้ไปเข้าเวรเป็นอาสาสมัครกู้ภัยเจ้าปู่กุดเป่ง ก็ได้ยินวิทยุแจ้งว่ามีอุบัติเหตุที่สี่แยกไฟแดง ว.อุดร จึงได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปกบเพื่อนอาสาสมัครตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บเพศหญิง อายุ 50-60 ปี นอนหมดสติ ไม่มีชีพจร จึงเข้าทำการ CPR เพื่อฟื้นคืนชีพรอรถพยาบาล แต่มาทราบภายหลังว่าเสียชีวิตในเวลาต่อมา ตนก็ขอแสดงความเสียชีใจกับครอบครัวผู้ประสบเหตุด้วย
ซึ่งตนเองก็เป็นอาสากู้ภัยมาประมาณ 2 ปีแล้ว ปกติหลังเลิกเรียนก็จะไปร่วมเข้าเวรที่หน่วยกู้ภัยเป็นประจำทุกวัน เพื่อออกช่วยเหลือผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ซึ่งตนรู้สึกว่ากรได้ช่วยเหลือคนก็ถือว่าเป็นการได้ทำบุญ และอยากต่อยอดในการศึกษาต่อในด้านแพทย์พยาบาล เพื่อนำเอาความรู้ที่ใดมาช่วยเหลือชีวิตคนต่อไป
ภาพ/ข่าว::พงษ์พัฒน์ นามสอน /ร้อยเอ็ด