ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ นำส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมทางไกลการชี้แจงข้อราชการสำคัญจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กำชับมาตรากรป้องกันการพนันต้องไม่มีโดยเด็ดขาด รณรงค์ให้ประชาชนมีมาตรการในการป้องกันตนเองอย่างสูงสุด
วันนี้ (30 ธ.ค.63) เวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุมสวางคบุรี ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์ นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมด้วย นายพิภัช ประจันเขตต์, นายสหวิช อภิชัยวิสรุตกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ตลอดจนหัวหน้าสำนักงานจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย นายอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล (VCS)
ซึ่ง พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมชี้แจงข้อราชการสำคัญของกระทรวงมหาดไทย สื่อสารไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ สืบเนื่องจากในปัจจุบันได้เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในหลายจังหวัด ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด (ผอ.รมน.จังหวัด) ต้องบูรณาการและกำชับหน่วยงานด้านความมั่นคงทั้งตามแนวชายแดนและพื้นที่ตอนใน ดำเนินมาตรการสกัดกั้นไม่ให้มีบุคคลที่เดินทางเข้ามาในประเทศอย่างผิดกฎหมายตามแนวชายแดนอย่างเด็ดขาด พร้อมทั้งให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประธานชุมชน ประสานความร่วมมือจากประชาชนในหมู่บ้าน/ชุมชนช่วยกันสอดส่องดูแลบุคคลที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่
สำหรับการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในกลุ่มแรงงานต่างด้าวโดยเฉพาะกลุ่มที่ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองและไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงาน ซึ่ง ครม. ได้มีมติเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 63 เห็นชอบแนวทางบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ให้มาดำเนินการตามแนวทางฯ เพื่อให้สามารถอยู่และทำงานได้อย่างถูกต้อง และทำให้ภาครัฐมีข้อมูลของคนต่างด้าวกลุ่มนี้ ให้ทุกจังหวัดทำความเข้าใจผู้ประกอบการ พร้อมทั้งกำกับดูแลและประสานการปฏิบัติของหน่วยงานและผู้ที่รับผิดชอบในพื้นที่ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และระยะเวลาที่กำหนดไว้ และไม่ให้มีแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้ามาในประเทศอีก
นอกจากนี้ได้เน้นกำชับเรื่องการลักลอบเล่นการพนันในพื้นที่ที่ส่งผลให้เกิดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องใช้อำนาจและสั่งการกลไกฝ่ายปกครองพร้อมบูรณาการทุกภาคส่วนในพื้นที่เข้มงวดกวดขันอย่างเข้มข้น รวมไปถึงการพิจารณาปิดสถานที่ งดกิจกรรม หรือการดำเนินการอื่น ๆ ต้องหารือร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด กำหนดมาตรการในแต่ละพื้นที่ตามที่ ศบค. กำหนดกรณีพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ให้ดำเนินการติดตามสอบสวนโรคและค้นหาบุคคลที่ใกล้ชิดเกี่ยวข้องตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเข้มงวด รวมทั้งการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องบูรณาการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของยาเสพติด ควบคู่กับการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 และร่วมกันรณรงค์ให้ประชาชนอยู่บ้านอยู่กับครอบครัว เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางใช้ชีวิตให้ปลอดภัยไร้อุบัติเหตุและไม่ติดเชื้อโควิด-19 เน้นย้ำมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเต็มขีดความสามารถ คือ DMHTT การเว้นระยะระหว่างกัน (Distancing) สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยเมื่อพบปะผู้อื่น (Mask Wearing) ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำสบู่หรือเจลล้างมือ (Hand Washing) ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายและสังเกตอาการ (Testing) และใช้แอปพลิเคชั่นไทยชนะ (Thai Cha na) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยยังได้ขอขอบคุณข้าราชการทั้งส่วนภูมิภาคและส่วนกลางประจำภูมิภาคทุกคนที่เป็นด่านหน้าในการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เป็นอย่างดี
ปวินท์ อินกล่ำ รายงาน