ข่าวพาดหัวช่วยชาวบ้าน

สงขลา – ตำรวจตามสืบจากเงากล้องวงจรปิดจนสามารถจับกุมโจรงัดแงะบ้านนักธุรกิจเจ้าของร้านอาหารชื่อดังในเมืองหาดใหญ่กวาดทองไปเกลี้ยง36บาทและแหวนทองแหวนเพชรแหวนพลอยมากกว่า11 วงมูลค่ากว่า 2 ล้าน4 แสนบาท

ตำรวจตามสืบจากเงากล้องวงจรปิดจนสามารถจับกุมโจรงัดแงะบ้านนักธุรกิจเจ้าของร้านอาหารชื่อดังในเมืองหาดใหญ่กวาดทองไปเกลี้ยง36บาทและแหวนทองแหวนเพชรแหวนพลอยมากกว่า11 วงมูลค่ากว่า 2 ล้าน4 แสนบาท
วันนี้(7ก.ย.69)ตำรวจชุุดสืบสวนกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจ.สงขลารวม5 ชุดทั้งชุดปฏิบัติการ3ชุดปฏิบัติการ4ชุดปฏิบัติการสืบสำคัญและชุดปฏิบัติการการข่าวและตำรวจชุดสืบสวนสภ.หาดใหญ่
นำโดย พ.ต.อ.ดุสิต พรหมสิน ผกก.สส.ภ.จว.สงขลา พ.ต.ท.เอกภพ มุสิกปักษ์ รองผกก.สส.ภ.จว.สงขลา ร.ต.อ.เสน่ห์ โพธิ์ศรี รอง สว.กกสส.ภ.จว.สงขลา
แกะรอยติดตามจับกุมโจรงัดแงะบ้านนักธุรกิจเจ้าของกิจการร้านอาหารชื่อดังในอ.หาดใหญ่ ที่อยู่ภายในซอย5 ควนสันติ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อคืนวันที่1 ก.ย.ที่ผ่านมา
ได้ทองไปถึง 36 บาททั้งสร้อยคอและสร้อยข้อมือ มูลค่ากว่า 1ล้าน4แสนบาท และแหวนเพชรแหวนพลอยแหวนทองไปมากกว่า11 วงมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท รวมทรัพย์สินค้าที่คนร้ายได้ไป กว่า 2 ล้าน 4 แสนบาท


จนรู้ตัวว่าผู้ก่อเหตุ คือ นายสุรเชษฐ์ ภูมี หรือจ้อง อายุ 47 ปี และเข้าจับกุมได้ที่บ้านเช่าที่อยู่ภายในซอย1 ถนนสุวรรณวัฒนา ย่านชุมชนท่าเคียน เขตเทศบาลนครหาดใหญ่
หลังจากที่ตำรวจลงพื้นที่สืบสวนอย่างต่อเนื่องมา6 วัน โดยเริ่มต้นจากเงาภาพผู้ต้องสงสัยจากกล้องวงจรปิดภายในซอยบ้านเกิดเหตุซึ่งเห็นแค่เงารถกับเงาคนที่วิ่งผ่านไปเท่านั้น
และไล่ปะติดปะต่อภาพเส้นทางของคนร้ายมาเรื่อยๆ จนมาได้ภาพคนร้ายขณะขับรถจักรยานยนต์เข้าไปในซอย1 ถ.สุวรรณวัฒนา ซึ่งเป็นปลายทางสุดท้ายของคนร้าย
และก่อนที่จะเข้าจับกุมตำรวจได้แฝงตัวเป็นไรเดอร์ส่งอาหารขับวนเวียนดูความเคลื่อนไหวของคนร้ายและพบว่าอยู่ภายในบ้านจึงได้เข้าจับกุม ทีแรกยังให้การปฏิเสธแต่สุดท้ายเมื่อเจ้าหน้าที่เค้นสอบก็ไปไม่ถูกยอมรับสารภาพ
และจากการตรวจค้นภายในบ้านพบที่เหลือจากการขายอีกบางส่วนเป็นสร้อยข้อมือ 4 เส้น และสร้อยคอ 1 เส้น น้ำหนักประมาณ20 บาท แหวนเพชรแหวนทองแหวนพลอย 11 วง
ส่วนที่เหลือให้การได้พาไปตระเวนขายที่ร้านทองในพื้นที่จ.พัทลุง ประมาณ 14บาท ได้เงินมา 5 แสนกว่าบาท และยึดรถจักรยานยนต์ฮอนด้านสกู๊ปปีสีดำ ไม่ติดป้ายทะเบียนที่ขับไปก่อเหตุอีก 1 คัน


และหนึ่งในหลักฐานสำคัญคือภาพจากกล้องวงจรปิดที่ นายสุรเชษฐ์ พาทองไปขายที่ร้านทองแห่งหนึ่งในจ.พัทลุง
จากการสอบสวน นายสุรเชษฐ์ หรือจ้องให้การว่า เมื่อช่วง3 ทุ่มคืนวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมาได้ไปงัดแงะบ้านหลังเกิดเหตุภายในซอย5 ควนสันติ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพักตนประมาณ1 กิโลเมตร
โดยใช้ไขควงเพียงอันเดียวงัดประตูหลังบ้านเข้าไป และเพียงแค่เปิดตู้เสื้อผ้าตู้แรกก็พบกล่องใส่ทองเก็บไว้จำนวนมากและกวาดมาจนเกลี้ยงและรีบออกจากบ้านทันทีโดยไม่ได้รื้อค้นหาทรัพย์สินอะไรต่อ
ส่วนที่เป้าหมายที่ลงมืองัดแงะบ้านหลังนี้เพราะว่าน่าจะมีทรัพย์สินเก็บไว้ภายในบ้านเพราะเป็นบ้านที่มีฐานะมีรถหลายคันและปกติจะขับผ่านบ้านหลังนี้ประจำ และกลางคืนโดยเฉพาะตอนค่ำเจ้าของบ้านไม่อยู่เพราะจะออกไปดูแลร้านอาหาร
ส่วนมูลเหตุจูงใจอ้างว่าเพราะต้องการหาเงินมาใช้หนี้เพราะมีหนี้สินล้นตัว และต้องเลี้ยงดูลูกอีก4 คน อายุ 6 ขวบ 4 ขวบ 3 ขวบและ1 ขวบ ซึ่งลำพังภรรยาที่ช่วยทำงานเงินไม่พอใช้ โดยเงินที่ได้จากการขายทองกว่า 5 แสนบาท บางส่วนเอาไปใช้หนี้ ใช้จ่ายในครอบครัวและบางส่วนก็นำไปเล่นการพนัน
และอ้างว่าเพิ่งทำเป็นครั้งแรกเพราะว่าหาทางออกให้กับชีวิตไม่ได้โดยเฉพาะเรื่องหนี้สิน จึงตัดสินใจกลายเป็นโจร
เบื้องต้นถูกแจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.หาดใหญ่ ปิดคิดโจรงัดแงะที่ได้ทรัพย์สินเป็นทองคำมากที่สุดอีกครั้งหนึ่งในพื้นที่อ.หาดใหญ่