อุบัติเหตุ

จยย.ชนรถหรู ดับสลด ย่านเจริญกรุง

จยย.ชนรถหรู ดับสลด ย่านเจริญกรุง

วันที่ 8 กันยายน 2567 เวลา 22.00 น.

ร้อยตำรวจโท ฐาปกรณ์ ทิพย์สอน รอง สว.สอบสวน สน.วัดพระยาไกร รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนกันบริเวณปากซอย เจริญกรุง 103/2 และภายในที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถจัรยานยนต์ จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลจุฬา และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมอาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุ พบจุดเกิดเหตุอยู่ตรงบริเวณกลางถนน หน้าปากซอยเจริญกรุง 103/2 ถนน เจริญกรุง แขวง วัดพระยาไกร เขต บางคอแหลม กรุงเทพมหานคร พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย อยู่บริเวณกลางถนน ทิศทางมุ่งหน้าสีแยกถนนตก ในสภาพนอนคว่ำหน้าอยู่บนพื้นถนนทับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ S100 สีเหลือง บรอนซ์เทา ทะเบียน 3 กม 3356 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตเอง สภาพรถพังเสียหายยับเยินทั้งคัน ทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมาภายหลังชื่อ นาย มานะ ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 33 ปี จากการตรวจสอบร่างกายของผู้เสียชีวิตพบบาดแผลบริเวณใบหน้าด้านขวา และ มีบาดแผลที่ศรีษะ มีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก ที่ขาข้างซ้ายหักผิดรูป แล้วที่ข้อมือข้างซ้ายหักผิดรูปอย่างเห็นได้ชัดเจนเช่นเดียวกัน การแต่งกายของผู้เสียชีวิตสวมใส่เสื้อเชิตแขนยาวสีขาว แล้ว สวมทับด้วยเสื้อคลุมแขนยาวสีครีม กางเกงขายาว สีดำ รองเท้าหนังสีดำ ในลักษณะเป็นคนที่แต่ตัวดีภูมิฐาน ใกล้กันยังพบกับหมวกกันน็อคเเบบเต็มใบสีดำตกอยู่ 1 ใบ ห่างจากร่างผู้เสียชีวิตพบรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ เมอร์เซเดส เบนซ์ รุ่น C180 สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 3 ขจ 806 กรุงเทพมหานคร จอดนิ่งสนิทอยู่ ในสภาพรถกันชนหน้าพังเสียหายป้ายทะเบียนหน้ารถหลุดออก โดยมีคนขับรถยนต์คันดังกล่าวเป็นผู้หญิงนั่งรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ภายในที่เกิดเหตุ แต่อยู่ในอาการตื่นตระหนกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และ ถัดมาภายในซอยเจริญกรุง 78 พบกับรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ ยี่ห้อ เมอร์เซเดส เบนซ์ รุ่น V 250 d สีดำ ทะเบียน ญ 0488 กรุงเทพมหานคร ( ป้ายแดง ) ในสภาพ ไฟเลี้ยวท้ายด้านซ้ายแตก จอดนิ่งสนิทอยู่ภายในซอยโดยมีเจ้าของรถเป็นชาย ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่เช่นกัน

จากการสอบถามเจ้าของรถเบนซ์ อเนกประสงค์ กล่าวว่า ตนจะเลี้ยวเข้าซอยเจริญกรุง 78 และตนก็เลี้ยวเข้ามาแล้วแต่ จยย.มาจากทางถนนตกแล้วก็มาเฉี่ยวรถของตนบริเวณด้านซ้ายจนไฟเลี้ยวแตก แล้วเขาก็เสียหลักพุ่งไปชนรถเบนซ์อีกคันแล้วเขาก็แน่นิ่งไป พอเขาชนตนก็ลงไปดูเขาแล้วนะแต่ทำอะไรไม่ได้รถเยอะมากในช่วงเวลานั้น

ส่วนทางด้านผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด กล่าวว่า มันมีรถตู้เขาซอยไปก่อนแต่ว่ารถตู้เขาจอดรอให้รถมันโล่งจากทางด้านอีกฝั่งนึงมันโล่งแล้วเขาก็เข้าไปตามระเบียบแหละเขาก็เปิดไฟเลี้ยวตามปรกติทุกคนก็ต่อแถวกันหมดแล้วทีนี้ตนก็เห็นว่ารถตู้เลี้ยวเข้าซอยไปแล้วนะกำลังจะพ้นอยู่แล้วอีกนิดเดียวเอง มอเตอร์ไซค์ เขาก็เบี่ยงขวาออกมาแต่เขาเบี่ยงไม่พ้นเขาชนท้ายรถตู้บริเวณที่มันเป็นไฟแล้วเขาก็ถลามาชนคันนี้ มอเตอร์ไซค์วิ่งมาจากทางโรงพยาบาลเจริญกรุงตอนที่เขาวิ่งมาเขาก็วิ่งมาตามเลนเขาแต่ตอนที่เขาเบี่ยงออกเขามาอยู่เลนนี้แค่เบี่ยงหลบท้ายรถแค่นิดเดียวเองเพราะว่าจริงๆแล้วรถตู้อ่ะเขาเข้าไปหมดแล้วมันเหลือแค่ส่วนช่วงท้ายนิดเดียวเอง ก็คือช่วงนั้นแหละที่เขาชนแล้วเขาก็เสียหลักพุ่งไปชนรถเบนซ์ซึ่งรถเบนซ์คันดังกล่าวเขาก็อยู่ในเลนของเขาปรกติเขามาจากทางเอเชียทีค มุ่งหน้าไปทางโรงพยาบาลเจริญกรุง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังไม่สรุปสาเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดต้องรอผลการตรวจสอบจากภาพกล้องวงจรปิดในบริเวณพื้นจุดเกิดเหตและใกล้เคียง แล้วต้องตรวจสอบจากพยานพร้อมทั้งสภาพแวดล้อมภายในที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งถึงจะสรุปได้ว่าสาเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นข้อเท็จจริงเป็นเช่นไรกันเเน่ และทางด้านแพทย์นิติเวช ได้ตรวจสอบร่างผู้เสียชีวิตแล้วภายในที่เกิดเหตุ จึงมอบหมายให้อาสาสมัครนำร่างผู้เสียชีวิตไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่นิติเวชโรงพยาบาล จุฬา เสร็จแล้วจะให้ญาตินำเอกสารมารับร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป