ทนายตั้มพานักธุรกิจชาวจีน เดินหน้าแจ้งความอดีตภรรยาชาวไทย ข้อหาลักทรัพย์ หลังอดีตภรรยาพาแฟนใหม่เข้ามาขนทรัพย์สินออกจากบ้าน
จากกรณีที่นายเคน นักธุรกิจชายสัญชาติจีน อายุ 33 ปี เข้าร้องขอความช่วยเหลือนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน หลังถูกอดีตภรรยาชาวไทย ขอหย่าร้างอ้างต้องไปสมัคร สส.พรรคการเมืองชื่อดัง ซ้ำพาชายคนสนิทเข้าขนของหอบทรัพย์สินหนี รวมมูลค่าทรัพย์สินที่สูญทั้งหมดที่คาดการณ์ไว้เกิน 100 ล้านบาท อีกทั้งอดีตภรรยายังข่มขู่ว่าจะไล่นายเคนกลับประเทศ หากไม่กลับจะให้ตำรวจมาจับให้ติดคุก
ความคืบหน้าเมื่อ เวลา 16.00 น. วันที่ 12 กันยายน 2567 ที่สน.เพชรเกษม นาย ษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม พานายเคน (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี นักธุรกิจชาวจีน ผู้เสียหาย เดินทางเข้าพบพ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม และพ.ต.ต.ถิรัชญพงศ์ รัตนาธัมโสภณกุล สว.(สอบสวน) สน.เพชรเกษม เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นางสาวชิสา (สงวนนามสกุล) อดีตภรรยาชาวไทยในข้อหา “ลักทรัพย์” กรณีถูกนางสาวชิสา อดีตภรรยาได้นำเอานาฬิกาข้อมือยี่ห้อ เอพี จำนวน 1 เรือน ราคากว่า 1,000,000 บาท และสุรายี่ห้อ หลุยส์ 13 จำนวน 1 ขวด ราคาประมาณ 108,000 บาท เหตุเกิดภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง แขวงและเขตบางแค กทม.เมื่อวันที่ 4 ก.ย.เวลาประมาณ 13.00 น. จึงเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน โดยมีล่ามแปลภาษามาด้วย
นอกจากนี้ยังพบว่ามีทองคำที่แม่ของนายเคน ได้ซื้อไว้ให้หลานชายหายไป โดยนายเคนสันนิษฐานว่า อดีตภรรยาและสามีใหม่ได้แอบนำออกไปด้วย โดยทรัพย์สินทั้งหมดนายเคนมีหลักฐานการซื้อขายและการครอบครองทั้งหมด ส่วนนาฬิกาข้อมือที่หายไป แม้จะสามารถนำกลับคืนมาได้แล้ว แต่ก็ถือว่าความผิดได้สำเร็จแล้ว ส่วนฝ่ายชายให้โอกาสเข้ามาเจรจา ตกลงชดใช้ค่าเสียหาย ถ้าหากยังไม่มาก็จะแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมในความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์
ส่วนของทรัพย์สิน รวมถึงอสังหาริมทรัพย์ ที่มีมูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาท ด้านทนายตั้มยืนยันว่า นายเคนประกอบอาชีพสุจริต ไม่ได้เป็นทุนจีนสีเทา และมีการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ ส่วนอดีตภรรยาประกอบอาชีพเป็นคนรับจ้างต่อวีซ่าและหนังสือเดินทางให้กับคนจีน โดยจะเป็นคนประสานงานให้กับลูกค้าของบริษัทนายเคนทั้งหมด ซึ่งหลังจากนี้จะให้ทั้งคู่มาเจรจาไกล่เกลี่ยกัน ถ้าหากสามารถไกล่เกลี่ยกันลงตัวก็จะไม่ดำเนินคดี
ทนายตั้ม กล่าวอีกว่า สำหรับคนที่น่าสงสารที่สุดคือ นางสาวขวัญ ที่เป็นอดีตภรรยาของนายมาก ที่เป็นแฟนใหม่ของนางสาวเอวา เนื่องจากนายมากมีประวัติคบหาผู้หญิงหลายคน และยังมีการหลอกเอาทรัพย์สินผู้หญิงหลายคนอาจจะหมดตัว จึงได้มีการนัดหมายนางสาวขวัญมาให้ข้อมูลที่สำนักงานของตนเองในวันจันทร์ที่ 16 กันยายนนี้
ด้าน พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีที่เกิดขึ้นภายในครอบครัว จึงอยากให้มีการเจรจาตกลงกันก่อน แต่ถ้ายืนยันว่าจะดำเนินคดี ตำรวจก็จะมีการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์หาความจริง ซึ่งกรณีนาฬิกาหรูที่ทนายตั้มบอกว่าความผิดสำเร็จไปแล้ว ตำรวจจะต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อพิจารณาว่าความผิดสำเร็จไปแล้วหรือไม่ โดยยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย และยืนยันว่าก่อนหน้านี้ไม่เคยมีนักการเมืองหรือผู้มีอิทธิพลคนใดโทรมากดดันวิ่งเต้นให้เคลียร์คดี
อย่างไรก็ตาม คนที่น่าสงสารที่สุดคือลูกของทั้งสองคน เนื่องจากเรื่องนี้ยังปรากฏอยู่ในโลกออนไลน์ ซึ่งอาจทำให้เป็นปมด้อยของลูกของทั้งสองคนได้
เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนจึงรับเรื่องไว้ และจะรวบรวมพยานหลักฐาน รวมถึงเชิญผู้ถูกกล่าวหา เพื่อมาให้ปากคำดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป