ข่าวทั่วไปข่าวพาดหัว

ศรีสะเกษ – นายกฯท่องเที่ยวศรีสะเกษ นำผู้ประกอบการท่องเที่ยวจังหวัดยโสธรไหว้พระเมืองศรี ท่องเที่ยววัดบ้านด่าน ชุมชนบ้านละทาย วัดบ้านโนนแกด และวัดไตรสามัคคี

ศรีสะเกษ – นายกฯท่องเที่ยวศรีสะเกษ นำผู้ประกอบการท่องเที่ยวจังหวัดยโสธรไหว้พระเมืองศรี ท่องเที่ยววัดบ้านด่าน ชุมชนบ้านละทาย วัดบ้านโนนแกด และวัดไตรสามัคคี

เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2567 ที่วัดบ้านด่าน ตำบลสร้างปี่ อำเภอราศีไศล จังหวัดศรีสะเกษ นางวาสิตา น้อยพรหม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษ ได้ให้การต้อนรับคณะผู้ประกอบการท่องเที่ยวจากจังหวัดยโสธร โดยมีนางวรรณา บุตรดีสิงห์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดยโสธร และนายทอง คำเยี่ยม มรรคทายกวัดบ้านด่าน นำพุทธศาสนิกชนในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษและจังหวัดยโสธรจำนวนกว่า 200 คน เข้าร่วมกิจกรรม ร่วมท่องเที่ยววัดบ้านด่าน ชุมชนบ้านละทาย วัดบ้านโนนแกด และวัดไตรสามัคคี จังหวัดศรีสะเกษ ทั้งนี้เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อเสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชุมชนต่อไป


นางวาสิตา น้อยพรหม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ได้จัดทำโครงการถนนสายวัฒนธรรม ไหว้พระเมืองศรี และได้รับการตอบรับจากพุทธศาสนิกชนในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษและจังหวัดยโสธรเป็นอย่างดี ซึ่งในวันนี้ได้นำคณะผู้ประกอบการท่องเที่ยวจากจังหวัดยโสธรประมาณ 200 คน ไหว้พระเมืองศรี ที่วัดบ้านด่าน ชุมชนบ้านละทาย วัดบ้านโนนแกด และวัดไตรสามัคคี จังหวัดศรีสะเกษ
นายทอง คำเยี่ยม มรรคทายกวัดบ้านด่าน กล่าวว่า หลวงพ่อทองเป็นพระพุทธรูปปางห้ามสมุทร หรือปางห้ามญาติ อัญเชิญมาจากกรุงเทพมหานคร มาประดิษฐานที่วัดบ้านด่าน ตั้งแต่ ปี พ.ศ.2495 พุทธศาสนิกชนทั่วไปให้ความเคารพศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง เคยถูกโจรกรรมไปถึง 2 ครั้ง แต่ก็ไม่สามารถนำท่านไปได้ ชาวบ้านด่านตามหาจนพบและนำกลับมาประดิษฐานที่วัดบ้านด่านเช่นเดิมทุกครั้ง ทำให้กิตติศัพท์และเมตตาบารมีของหลวงพ่อทองขจรขจายเป็นที่กล่าวถึงในวงกว้าง และเพื่อป้องกันการโจรกรรม ชาวบ้านด่านจึงได้ทำกรงเหล็ก นำหลวงพ่อทองไปประดิษฐานไว้ตั้งแต่นั้นมา ต่อมา นายขจรศักดิ์ ศรีบุญเรือง ลูกหลานชาวบ้านด่านที่ไปประกอบสัมมาชีพที่กรุงเทพมหานคร ได้กลับมาอธิษฐานขอเมตตาบารมีจากหลวงพ่อทองว่า ถ้าทำมาค้าขาย ธุรกิจเจริญรุ่งเรือง จะกลับมาสร้างวิหาร เพื่อนำหลวงพ่อทองออกจากกรง คำอธิษฐานเป็นจริงดังตั้งใจ ดังนั้นในปี พ.ศ.2553 นายขจรศักดิ์ ศรีบุญเรือง จึงได้รวบรวมปัจจัยมาตั้งต้นก่อสร้างวิหาร พร้อมทั้งได้รับแรงศรัทธาจากญาติมิตรและพุทธศาสนิกชน ร่วมสมทบทุนก่อสร้างวิหารหลวงพ่อทองอย่างต่อเนื่อง และเสร็จสมบูรณ์เมื่อปี พ.ศ.2566 จึงได้อัญเชิญหลวงพ่อทองขึ้นประดิษฐานไว้บนวิหารหลวงพ่อทองต่อไป

– ภาพ : ข่าว บุญทัน ธุศรีวรรณ ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดศรีสะเกษ รายงาน