ข่าวพาดหัวจับกุมลักทรัพย์

รวบแป๊ะ ลาย จอมโจรย่องเบา ติดคุกตั้งแต่อายุ13 ประวัติเพียบ

รวบแป๊ะ ลาย จอมโจรย่องเบา ติดคุกตั้งแต่อายุ13 ประวัติเพียบ

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 26 กันยายน 2567

พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม พร้อม จ.ส.ต.เอกยุทธ ปล้องคง ผบ.หมู่(ป) จ.ส.ต.ธวัชชัย ละอองชัย ผบ.หมู่(สส.)และส.ต.อ.ณัฐพงศ์ พรหมสุข ผบ.หมู่(สส.)สน.เพชรเกษม ร่วมกันจับกุมตัวนายธนกฤต หรือ แป๊ะ ลาย ตั้งกฤตเจริญ อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่850/2567 ลงวันที่24 กันยายน 2567 ฐานความผิด ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือผ่านสิ่งเช่นว่านั้นโดยประการใดๆ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม พร้อมด้วยของกลาง เสื้อผ้าที่ใส่ในวันก่อเหตุ โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณหอพักพรทวีอพาร์ทเมนท์ ซอย เพชรเกษม 58 แยก 17 แขวง บางด้วน เขต ภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร

คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 ก.ค. 67 ที่ผ่านมา น.ส.กรวรรณ ลาภวัตนันท์ อายุ 38 ปี เจ้าของร้านซีพีโมบายโฟน ซอย บางแค 14 แขวงและเขต บางแค กรุงเทพมหานคร เข้าแจ้งความกับร.ต.ท.ชัยวัฒน์ ใจงาม รอง สว.(สอบสวน)สน.เพชรเกษม ว่า ช่วงกลางดึกได้ถูกคนร้ายเป็นชาย สักยันต์เต็มตัว ใช้ไขควงงัดประตูกระจกของร้าน เข้าไปขโมยเอาเซิฟเวอร์กล้องวงจรปิด อุปกรณ์มือถือ เครื่องโทรศัพท์มือของลูกค้าที่นำมาซ่อม จำนวน 8 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค 1 เครื่อง แท็ปเล็ต ipad gen9 wifi 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ iphone11 / 1เครื่อง โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ realme 9 proplus 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ redmi note 10 /1 เครื่อง โมเดลสินค้าตัวโชว์อีก 30 ตัว แล้วหลบหนีไป จึงมาแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดีกับคนร้ายรายนี้

หลังรับแจ้ง พ.ต.อ.ปราโมทย์ จึงสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบภาพคนร้ายจากกล้องวงจรปิดภายในร้านทำให้เห็นลายสักเต็มตัว ซึ่งตรงกับ นายธนกฤต ที่เคยมีประวัติถูกจับที่ สน.เพชรเกษม ในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนฯ จึงไล่กล้องตลอดเส้นทางหลบหนี จนกระทั่งตามไปรวบตัวได้ดังกล่าว

และจากการสอบสวน นาย ธนกฤต ให้การว่า เพิ่งออกจากคุกในข้อหาลักทรัพย์มาได้ 1 ปี เริ่มคบหากับแฟน ซึ่งเป็นลูกของเพื่อนพ่อ ซึ่งทำงานอยู่ที่โรงงานพลาสติก เคยไปสมัครงานที่บริษัทแฟน แต่ก็ถูกไล่ออก เพราะขาดงานบ่อย ช่วงนี้จึงตกงาน ช่วงทำงานได้รู้จักกับ นาย ไท เป็นคนลาว สนิทกัน จึงชวนกันมาก่อเหตุลักทรัพย์ตามร้านค้า ร้านกาแฟ ร้านโทรศัพท์ ซึ่งร้านค้าต่างๆมักไม่มีรั้วรอบขอบชิด และ ไม่มีคนนอนเฝ้า โดยตนกับ นายไท จะขี่รถจยย. ตระเวนดูเป้าหมายที่แน่ใจได้ว่า ไม่มีคนอยู่แน่นอน จะตัดกุญแจบ้าง ปีนเข้าด้านหลังบ้าง เข้าไปลักทรัพย์ หากได้สิ่งของมีค่าก็จะเอาไปขายในตลาดมืด นำเงินมาแบ่งกัน ส่วนตนนำไปซื้อยาไอซ์เสพ ส่วน นาย ไท เดินทางกลับประเทศลาวไปแล้ว ชีวิตตนเกิดมาอาภัพก่อเหตุลักทรัพย์ ตั้งแต่เด็ก ติดคุกครั้งแรกอายุ 13 ปี และ ติดต่อมาเรื่อยๆอีกหลายคดี เข้าออกคุกเป็นว่าเล่น มีครอบครัวก็แตกแยก ตนมีลูกสาว 1 คน แม่ของตนเป็นคนส่งเรียนจนจบปริญญาตรี แล้วกำลังจะรับปริญาอยู่อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และครั้งนี้ก็ต้องเข้าคุกก้มหน้าใช้กรรมต่อไป ก็เลยไม่ทันได้เห็นลูกสาวได้รับปริญญา

จากการตรวจสอบประวัติเบื้องต้นพบปี 60 ต้องคดีลักทรัพย์ สน.เพชรเกษม ปี63 คดีลักทรัพย์ สน.บางขุนเทียน 2 คดี ปี66 คดียาเสพติด สภ.คต ปี66 คดีลักทรัพย์ สภ.คูคต ปี67 คดีลักทรัพย์ สน.หนองแขม และคดีลักทรัพย์ที่ สน.ภาษีเจริญ หากโรงพักใดสงสัยว่า นาย ธนกฤต ลงมือก่อเหตุในพื้นที่ ก็สามารถนำภาพจากกล้องวงจรปิดที่คนร้ายมีรอยสักเต็มตัวชัดเจน และใบแจ้งมาขออายัดตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปได้เลย