ชุมพร – จับยาบ้า 261เม็ดที่นายเอกชัยเดินจำหน่ายอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายในพื้นที่ อ.สวี
ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514
วันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2567 เวลาประมาณ 08.00 น. เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมนายเอกชัยเดินจำหน่ายอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายในพื้นที่ อ.สวี บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 1 ตำบลครน อำเภอสวี จังหวัดชุมพร
โดย นายธีรยุท สมศรี กำนันตำบลวิสัยใต้ ได้ประสานและให้ข้อมูลกับฝ่ายความมั่นคงอำเภอสวีว่านายเอก (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) มีพฤติกรรมนำยาเสพติดมาจำหน่ายในพื้นที่หมู่ที่ 2 ตำบลวิสัยใต้ โดยมักวิ่งส่งยาเสพติดช่วงเช้ามืดและกลางคืนอยู่เป็นประจำ นายธีรยุท สมศรี กำนันตำบลวิสัยใต้ ซึ่งเป็นผู้นำท้องที่ทราบพื้นที่ที่เป็นแหล่งมั่วสุมเป็นอย่างดี จากนั้นวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2567 เวลาประมาณ 05.3๐ น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอำเภอสวี นำโดย นายบุญก้อง ศรีสงคราม ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง, จ่าอากาศเอกวิธวินท์ ตุดเกื้อ ปลัดอำเภอฝ่ายความ สมาชิกอส.อ.สวี ที่ 5 และชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองประจำตำบลวิสัยใต้ นำโดย นายธีรยุท สมศรี กำนันตำบลวิสัยใต้ , นายกิตติกร ชาญนคร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 ตำบลวิสัยใต้, นายสุริยัน สุริฉาย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 ตำบลวิสัยใต้, นายมานพ พรหมน้อย สารวัตรกำนันตำบลวิสัยใต้, นายเสนอ จุนยุเสน สารวัตรกำนันตำบลวิสัยใต้, นางสุวรรณา เรืองอำนาจ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ตำบลวิสัยใต้, นายสุรพงษ์ สินวิสัย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 ตำบลวิสัยใต้
ได้ร่วมกันประชุมวางแผนเพื่อเข้าทำการตรวจสอบ และได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและร่วมกันเดินทางเข้าทำการตรวจสอบ จากนั้นเวลาประมาณ 07.00 น.เจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปถึงที่ซึ่งเป็นแหล่งมั่วสุมลักษณะเป็นบ้านร้างไม่มีผู้อยู่อาศัยเมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงบ้านหลังดังกล่าวพบวัยรุ่นชาย 2 คน นอนอยู่ภายในตัวบ้าน โดยที่ประตูบ้านเปิดอยู่เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าควบคุมตัวและทำการสอบถามว่า บุคคลทั้งสองเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือไม่
โดยบุคคลทั้งสองยอมรับสารภาพว่า ตนเองเสพยาเสพติดจริงโดยได้สั่งซื้อยาเสพติดมาจากนายเอก (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ซึ่งนายเอกอาศัยอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 1 ตำบลครน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสืบในทางลับจนทราบที่อยู่ที่แน่ชัดของนายเอก เมื่อทราบข้อมูลที่แน่ชัดแล้ว เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันลงพื้นที่และเดินทางเพื่อเข้าทำการตรวจสอบที่บ้านของนายเอก (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ซึ่งเวลาประมาณ 08.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเดินทางไปถึงบ้านหลังดังกล่าว ลักษณะเป็นบ้านปูนชั้นเดียว พบชายหญิงสูงวัยยืนอยู่บริเวณหน้าบ้าน สอบถามทราบว่าเป็นบิดาเลี้ยงและมารดาของนายเอก จากนั้นนายบุญก้อง ศรีสงคราม หัวหน้าชุดจับกุมได้สอบถามว่า นายเอกฯ อาศัยอยู่ที่นี่หรือไม่ ได้รับคำตอบว่านายเอกฯ อาศัยอยู่บ้านอีกหลังหนึ่งซึ่งอยู่ห่างจากบ้านของตนประมาณ 30 เมตร เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้กระจายกำลังเข้าตรวจสอบบ้านเป้าหมาย พบว่าประตูบ้านปิดอยู่แต่ได้ยินเสียงมีคนอยู่ภายในบ้าน หัวหน้าชุดจับกุมจึงได้เรียกให้บุคคลที่อยู่ภายในบ้านเปิดประตูออกมาเวลาผ่านไปประมาณ 2 นาที ได้มีชายวัยกลางคนเปิดประตูออกมาพบกับเจ้าหน้าที่ สอบถามทราบชื่อว่านายเอกชัย (เอก) อินทเจียด (ทราบชื่อและนามสกุลจริงภายหลัง) ซึ่งตรงกับที่ได้รับแจ้งจากผู้นำท้องที่และที่ได้รับเบาะแสจากวัยรุ่น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แสดงบัตรเจ้าพนักงาน ป.ป.ส.(เลขที่ 6700286) พร้อมอธิบายขอบเขตอำนาจของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ให้นายนายเอกชัย (เอก) อินทเจียด ทราบจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขอทำการตรวจค้นตัว โดยหัวหน้าชุดจับกุมได้มอบหมายให้ ม.ญ.พงษ์ศักดิ์ ชื่นจิตร สมาชิกอส. เป็นผู้ตรวจค้นตัว ก่อนทำการตรวจค้นผู้ทำการตรวจค้นได้แสดงความบริสุทธ์ใจให้นายเอกชัย (เอก) อินทเจียด ดูจนเป็นที่พอใจ
ผลจากการตรวจค้นตัวนายเอกชัย (เอก) อินทเจียด ไม่พบยาเสพติดให้โทษหรือสิ่งผิดกฎหมายใดๆภายในตัว แต่ในขณะทำการตรวจค้นตัวนายเอกชัย (เอก) อินทเจียด แสดงท่าทีมีพิรุธเนื้อตัวสั่น เจ้าหน้าจับกุมจึงได้คาดว่าอาจจะมีการซุกซ่อนยาเสพติดไว้ภายในบ้านหรือบริเวณโดยรอบ จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ขอทำการตรวจค้นภายในบ้านโดยนายเอกชัย (เอก) อินทเจียด ได้อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้นโดยในระหว่างการตรวจค้นนายเอกชัย (เอก) อินทเจียด ได้ดูอยู่ในระหว่างที่ทำการตรวจค้นตลอดเวลา จากการตรวจค้น พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสแบบกดปิด-ดึงเปิด จำนวน 1 ถุง วางอยู่บนโต๊ะภายในบ้าน ,พบโทรศัพท์มือถือ VIVO สีดำ จำนวน 1 เครื่อง วางอยู่บนโต๊ะภายในบ้าน ,พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสแบบกดปิด-ดึงเปิด จำนวน 4 ห่อ ,พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ซึ่งไม่สามารถนับเม็ดได้บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสแบบกดปิด-ดึงเปิด จำนวน 1 ถุง ,พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ซึ่งไม่สามารถนับเม็ดได้บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส จำนวน 1 ถุง โดยนายเอกชัย (เอก) อินทเจียด ยอมรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมว่า ยาเสพติดทั้งหมดที่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ตรวจค้นพบภายในบ้านเป็นของตนเองจริง จากนั้นหัวหน้าชุดจับกุมได้แจ้งแก่ผู้ถูกจับกุมว่าจะต้องถูกจับกุมพร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิต่างๆตามกฎหมาย