ข้าราชการไทยข่าวพาดหัวบุกรุกที่ป่า

พะเยา – ส่อคดีพลิก น้องชายกำนันโผล่รับผิดแทนพี่ กรณีชาวบ้านร้องกำนันบุกรุกป่าสงวน ล้อมรั้ว ปลูกยางพารา และเลี้ยงวัวบนยอดเขา

พะเยา – ส่อคดีพลิก น้องชายกำนันโผล่รับผิดแทนพี่ กรณีชาวบ้านร้องกำนันบุกรุกป่าสงวน ล้อมรั้ว ปลูกยางพารา และเลี้ยงวัวบนยอดเขา

ชมคลิป

https://youtu.be/o4P727msNUI

ตามที่ก่อนหน้านี้กลุ่มตัวแทนจากชาวบ้านในเขตตำบลฝายกวาง อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา กว่า 100 คนได้รวมตัวกันเดินขึ้นยอดเขา เพื่อชูป้ายประท้วงบนยอดเขา ในพื้นที่ป่าสงวน ป่าน้ำแวน และ ป่าห้วยไคร้ ต.ฝายกวาง อ.เชียงคำ
โดยชาวบ้านร้องเรียนว่า นายสมจิตร อิ่นคำ กำนันตำบลฝายกวางเป็นผู้เข้ามาบุกรุกนำวัว ขึ้นมาเลี้ยงบนยอดเขา และล้อมรั้วลวดหนาม เพื่อสร้างอาณาเขตในการเลี้ยงวัว รวมถึงปลูกต้นยางพาราจำนวนหลายไร่ ทั้งที่ชาวบ้านกว่า 100 ครอบครัว ได้เคยเข้ามาทำการเกษตร เพื่อเลี้ยงชีพมาหลายสิบปี ในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าเวียงลอ และเขตป่าสงวนแต่กับถูกเจ้าหน้าที่ยึดที่ดินคืน ซึ่งบางรายก็ถูกดำเนินคดีอาญาจนต้องถูกจำคุก และถูกฟ้องคดีเพ่ง เรียกร้องค่าเสียหาย ให้ชาวบ้านเสียค่าปรับ ตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลักล้าน มาแล้วหลายคน ในขณะที่เจ้าหน้าที่ได้สั่งห้ามไม่ให้ชาวบ้านเข้าไปบุกรุก และยึดที่คืน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2553 แต่ต่อมาในปีพ.ศ. 2554 ได้มีนายสมจิตร อิ่นคำ ตำแหน่งกำนันตำบลฝายกวาง กลับเข้าไปยึดครองพื้นที่บนยอดเขาดังกล่าว เพื่อนำวัวไปเลี้ยงและล้อมรั้วลวดหนาม ปลูกต้นยางพารา รวมถึงสร้างโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ ตามที่เคยเป็นข่าวไปแล้วก่อนหน้านี้

ล่าสุดจนเมื่อเวลา 14.00น. วันนี้ ( 12 มกราคม 2564 ) เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้เชียงคำ , เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเวียงลอ , เจ้าหน้าที่สายตรวจป่าไม้ , เจ้ากน้าที่กอ.รมน. , เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียงคำ , ฝ่ายปกครองอำเภอเชียงคำ ตัวแทนจากชาวบ้าน หมู่บ้านสันติสุข ม.11 ต.ฝายกวาง อ.เชียงคำ จ.เชียงราย ได้ร่วมกันเดินทางขึ้นไปร่วมกันตรวจยึด สิ่งปลูกสร้าง ( โรงเลี้ยงวัว ) และ ต้นยางพารา จำนวน ที่มีผู้บุกรุกมาปลูกไว้จำนวนหลายไร่ ซึ่งในการลงพื้นที่ตรวจยึด และ ตรวจพื้นที่บุกรุกนั้นได้มีการปะทะคารมกันระหว่างกลุ่มตัวแทนชาวบ้านผู้ร้องเรียน กับ นายชาญชัย อิ่นคำ น้องชายของกำนันตำบลฝายกวาง โดยมีการโต้เถียงกันไปมาตลอดเวลา

ซึ่งจากการเดินสำรวจเพื่อตรวจยึดพื้นที่บนเขา พบร่องรอยการตัดโค่นต้นไม้บนยอดเขา และ เชิงเขา จำนวนมาก เพื่อปลูกต้นยางพารา แทนต้นไม้ที่ขึ้นตามธรรมชาติ และพบต้นยางพารา ที่ปลูกไว้หลายไร่ โดยมีร่องรอยการกรีดยางชนิดที่ยังไม่ได้มาเก็บขี้ยาง เพราะเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจยึดซะก่อน แต่ชาวบ้านที่ขึ้นมาร่วมตรวจก็ให้ข้อมูลว่า มีชาวบ้านในหมู่บ้าน ที่เป็นลูกจ้างของผู้มีอิทธิพลคนนึงในหมู่บ้าน เป็นคนจ้างมากรีดยาง ซึ่งชาวบ้านกว่า 100คน ก็ทราบดีว่าต้นยางพารา และ โรงเลี้ยงวัวนั้น มีเจ้าของเป็นคนเดียวกัน ซึ่งก็จ้างคนงานมากรีดยางพารา ได้อย่างสบายใจ แต่ในทางกลับกัน ชาวบ้านไม่สามารถที่จะเข้ามาบุกรุกในที่ป่าสงวนได้เลย ซึ่งเรื่องการบุกรุกที่ป่าสงวน ในพื้นที่นี้ ก็เคยเป็นข่าวที่ชาวบ้านร้องเรียนมาก่อนหน้านี้แล้วหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาดำเนินการตรวจยึดหรือจับกุมผู้บุกรุกป่าได้เลย ทั้งที่เคยร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเชียงคำ ไปแล้ว 2 ครั้งแต่เรื่องก็เงียบ จนกระทั่งชาวบ้านทนพฤติกรรมของ กำนันตำบลฝายกวาง ไม่ไหวจึงมาร้องเรียนผ่านผู้สื่อข่าว และมีการนำเสนอข่าวออกไป จึงทำให้วันนี้ มีเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานเข้ามาตรวจสอบและตรวจยึด พร้อมทั้งส่งสำนวนเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บุกรุก ซึ่งก็มีชาวบ้านก็ว่า 100 คนยืนยันว่า กำนันตำบลฝายกวาง เป็นผู้บุกรุก และจ้างคนงานนำวัวขึ้นมาเลี้ยง และยังจ้างชาวบ้านขึ้นมาล้อมรั้วบนยอดเขา โดยมี ชาวบ้านผู้เคยรับจ้างขึ้นมาล้อมรั้วลวดหนาม ก็ได้มาให้การเป็นพยานพร้อมทั้งระบุว่า กำนันตำบลฝายกวาง เป็นผู้ว่าจ้างให้ขึ้นมาล้อมรั้วกันพื้นที่บุกรุกในที่ป่าสงวนและพื้นที่เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าเวียงลอ
แต่ต่อมานายชาญชัย อิ่นคำ น้องชายของกำนันตำบลฝายกวางได้ออกมายอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ล้อมรั้วลวดหนามบนยอดเขาในเขตป่าสงวนและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเวียงลอ จริง แต่ ณ วันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ ก็ยังไม่ได้ดำเนินคดีกับ นายชาญชัย อิ่นคำ แต่อย่างใดซึ่งสร้างความสงสัยให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก


และในเวลา 18.00น. เจ้าหน้าที่จาก หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้เชียงคำ ได้เดินทางไปยัง สภ.เชียงคำ เพื่อยื่นเอกสารส่งสำนวนเอกสารหลักฐานต่างๆ ให้กับพนักงานสอบสวน เพื่อสืบหาผู้ที่บุกรุกป่ามาดำเนินคดี ในพื้นที่ป่าสงวน ในเขตพื้นที่บริเวณ ป่าน้ำแวน และ ป่าห้วยไคร้ UTM 1984 พิกัด ที่ 47 Q 0633333 UTM 2143534

โดยมี นายจตุรภัทร ศรีอาคะ นักวิชาการป่าไม้ปฎิบัติการ หัวหน้าหน่วยปัองกันและพัฒนาป่าไม้เชียงคำ ( สังกัด สำนักจัดการทรัพย์ยากรป่าไม้ที่2 เชียงราย )
เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ในเบื้องต้นทางชาวบ้าน ได้ลงชื่อเป็นพยานในคดี เพื่อให้ข้อมูลผู้บุกรุกในครั้งนี้

นายบุญวาส ไกลถิ่น 60 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านสันติสุข หมู่ที่ 11 ต.ฝายกวาง อ.เชียงคำ ตัวแทนของชาวบ้านผู้ร้องเรียนได้กล่าวว่า วันนี้นายชาญชัย อิ่นคำ ( น้องชายของ นายสมจิตร อิ่นคำ กำนันตำบลฝายกวาง ) ได้ออกมารับผิดแทนพี่ชาย ในเรื่องบุกรุกที่ป่าสงวน ทั้งที่ชาวบ้านจากหลายหมู่บ้าน ในตำบลฝายกวาง ทราบดีว่า พื้นที่ๆมีการบุกรุกมาสร้างโรงเลี้ยงวัว ล้อมรั้วลวดหนาม และ ปลูกยางพารา เป็นของ นายสมจิตร อิ่นคำ แต่เมื่อนายชาญชัย อิ่นคำ ออกมารับผิดแทนแบบนี้ทั้งที่มีพยานบุคคลกว่าร้อยคนกล้ายืนยัน
ตนจึงอยากจะวอนให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา และ ส.ส. ในจังหวัดพะเยา ช่วยมาดูเรื่องนี้เพื่อให้ชาวบ้านสันติสุขได้รับความเป็นธรรมในเรื่องนี้ เพราะชาวบ้านไม่มีที่พึ่งแล้ว

ปัญธิพงศ์ ศิริโชคธนากูล / พะเยา โทร.0990505989