หนุ่มวัย 27 ปี แทง หนุ่มวัย 46 ปี ดับสลด ปมเหตุขี่ จยย.ปาดหน้ากัน ย่านประชาอุทิศ
วันที่ 9 ตุลาคม 2567
เวลา 19.21 น.
พันตำรวจโท ทนงศักดิ์ ปลั่งกลาง สว.สอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนกัน แล้วภายในที่เกิดเหตุตกลงกันไม่ได้จึงก่อเหตุทะเลาะวิวาทกัน จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส 1 ราย เนื่องจากถูกคู่กรณีใช้มีดแทงเข้าที่หน้าอกใต้ราวนมข้างซ้าย จุดเกิดเหตุบริเวณ หน้าปากซอยประชาอุทิศ 43 /1 จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่ออาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุพบจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณใกล้เคียงปากซอยประชาอุทิศ 43 /1 ถนน ประชาอุทิศ แขวง บางมด เขต ทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร ภายในที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย นอนหายใจรวยรินอยู่บนพื้นถนน มีบาดแผลถูกของมีคมแทงเข้าที่ใต้ราวนมข้างซ้าย อาการสาหัส หมดสติถามตอบไม่ได้ และมีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก เป็นชาย อายุ 46 ปี อาสาสมัครให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนเร่งนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล IMH ธนบุรี เป็นการเร่งด่วน ส่วนภายในที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า ฟรอซ่า สีดำ ทะเบียน 5 ขธ 4694 กรุงเทพมหานคร จอดนิ่งสนิทอยู่ข้างขอบฟุตบาท ซึ่งรถจัรยานยนต์คันดังกล่าวเป็นของผู้ได้รับบาดเจ็บ และ ถัดมาพบกับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน 7 ขท 2336 กรุงเทพมหานคร ในลักษณะล้มตะแคงคว่ำอยู่บนพื้นถนนได้รับความเสียหาย และ ใกล้กับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย และหญิง 1 ราย ส่วนผู้ชายได้รับบาดเจ็บหลังเดอะ แขนหัก ส่วนฝ่ายหญิงที่ซ้อนท้ายกันมาหัวกระแทกพื้นได้รับบาดเจ็บสาหัส อาสาสมัครให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วรีบนำคนเจ็บซึ่งเป็นผู้หญิง ส่งโรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ เป็นการเร่งด่วน ส่วนฝ่ายชาย อาสาสมัครนำส่งโรงพยาบาลสุขสวัสดิ์ ซึ่งผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย อายุ 27 ปี ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิง อายุ 24 ปี
และจากการสอบถาม น้องแก้ม อายุ 22 ปี
เป็นเจ้าของรถ honda scoopy ที่จอดไว้แล้วโดนชน บอกเล่าว่า ตนจอดรถไว้บนฟุตบาท แต่ตนก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พอตนออกมาก็ไม่เห็นรถของตนที่จอดไว้ พอมองไปก็เห็นรถของตนล้มอยู่แต่ห่างไปพอสมควร แล้วเห็นคนเจ็บ 3 คน เป็นผู้หญิงนอนอยู่บนฟุตบาท ส่วนผู้ชาย นอนหัวเกยบนฟุตบาท และผู้ชายอีกคนนึงนอนอยู่บนถนนและมีเลือดออกมาก ตอนแรกตนนึกว่าเป็นที่หัว อาจจะหัวแตก เพราะเห็นเลือดออกเยอะมาก ส่วนรถคันที่ชนรถของตนนั้น มีคนเห็นว่าเป็นรถเวฟสีฟ้า ถ้ารถของตนพังเสียหายไม่มาก ตนก็จะไม่เอาเรื่อง แต่นี่มันพังเสียหายเยอะ แตกหมดเลย ตนจึงต้องให้รับผิดชอบรถของตน ส่วนคนที่เลือดออกเยอะนั่นขี่รถฟอซ่ามา
ส่วน น.ส.เบนซ์ อายุ 26 ปี คนเห็นเหตุการณ์ บอกเล่าว่า ตนกำลังจะเดินข้ามถนน แล้วเห็นรถมอไซค์ขี่เหมือนกับว่า มีเรื่องกันมา ขี่ปาดกันไปมา แล้วมาล้มกัน ผู้หญิงที่ซ้อนมานอนนิ่งไป ส่วนผู้ชายคนขับยังมีสติ โทรศัพท์ได้อยู่ ส่วนอีกคันนึง พอลงจากรถแล้วก็ฟุบไปเลย เสียเลือดมาก เพราะเลือดออกเยอะ
และ แฟนผู้เสียชีวิตบอกเล่าว่า ตนซ้อนมากับแฟนขี่รถฟอซ่า ขี่มาตามทาง เข้าถนนประชาอุทิศ แล้วมาประมาณหน้า พต. ก็มีรถมอไซค์ เวฟ มาปาดหน้า แล้วได้ขอโทษกันแล้ว ก็คิดว่าไม่มีอะไร แต่ก็ยังขี่ตามตนมาอีก ปาดกันอีก แล้วก็มาใกล้รถตนเหมือนเอาอะไรมาแทง แฟนตน แล้วก็ขี่หนีไป แฟนตนก็ขี่ตามแล้วพอตามทัน แฟนตนก็ถีบรถ แล้วก็จอดรถถามว่า มึงเอาไรแทงกู แล้วก็ล้มลงเลย ตอนแรกตนก็ไม่รู้ว่าแฟนถูกแทง ช่วงประมาณก่อนถึง หน้ามหาลัย ตนก็เห็นเลือดไหลออกมาเต็มเลย
ส่วนเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเกิดจากรถจักรยานยนต์ ทั้งสองคันเกิดการปาดหน้ากันไปมาแล้ว ผู้ขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ ได้ใช้มีดแทงชายที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าฟรอซ่า เข้าที่หน้าอกด้านซ้ายใต้ราวนม ในขณะที่กำลังขับขี่ปาดกันไปมาอยู่ แต่ว่าคนที่โดนแทงยังมีสติอยู่พอขี่ไล่กันมาถึงซอยประชาอุทิศ 43/1 ซึ่งตอนนั้น คู่กรณีกำลังจะขับรถหลบหนีเข้าไปภายใซอยดังกล่าวซึ่งคาดว่าบ้านของผู้ลงมือแทง อยู่ภายในซอยนั้น ผู้ได้รับบาดเจ็บก็ตัดสินใจถีบรถของคู่กรณี แล้วพูดว่า ” มึงเอาอะไรแทงกู ” พอสิ้นสุดคำพูดผู้ได้รับบาดเจ็บ ก็ล้มลงกับพื้นทันทีแล้วก็มีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก อาสาสมัครพยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่แล้วนำส่งโรงพยาบาล IMH ธนบุรี แต่พอไปถึงโรงพยาบาล หมอ พยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่เต็มกำลังแล้วแต่ไม่เป็นผลจึงยืนยันการเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช มาตรวจสอบสภาพร่างผู้เสียชีวิตที่โรงพยาบาล IMH ธนบุรี
และต่อมายังทราบว่ามีผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ชื่อ นางสาว แก้ม อายุ 22 ปี เจ้าของรถ honda scoopy สีขาว ทะเบียน 1ขล 5869 กรุงเทพมหานคร ซึ่งถูกรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟไถลไปโดน แล้วก็ถึงกับทำให้รถล้มลงกับพื้นถนนได้รับความเสียหายยับเยินทั้งคัน ซึ่งเธอคนนี้เป็นผู้ใช้รถใช้ถนนปรกติไม่มีส่วนรู้เรื่องอะไรด้วยเลยแต่ก็ต้องพลอยได้รับผลกระทบกับเหตุการณ์ที่ไม่ควรจะเกิดแบบนี้ด้วย แต่เคราะห์ยังดีที่เจ้าของรถไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร แต่ทรัพย์สินก็ได้รับความเสียหายแล้วแบบนี้ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวแฟนสาวของผู้เสียชีวิตไปสอบถามถึงเหตุการณ์ดังกล่าวเพิ่มเติมอย่างละเอียดที่ สน.ราษฎร์บูรณะ และสั่งอายัดตัวผู้ก่อเหตุเอาไว้ก่อนแล้วถ้าอาการดีขึ้นหรือพอจะให้การได้จะเชิญตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้ง ส่วนทางด้านแพทย์นิติเวช ต้องส่งร่างของผู้เสียชีวิตไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และเมื่อตรวจสอบเสร็จแล้วจะมอบให้ญาตินำร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป