ข่าวทั่วไปข่าวพาดหัว

แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่นราธิวาส มอบนโยบายขับเคลื่อนงานเชิงรุก สร้างความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินพี่น้องประชาชน

ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าว นราธิวาสรายงาน Tel.0824154474

แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่นราธิวาส มอบนโยบายขับเคลื่อนงานเชิงรุก สร้างความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินพี่น้องประชาชน

วันที่ 12 ตุลาคม 2567 เวลา 10.30 น. พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมด้วยคณะฯ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมติดตามการปฏิบัติงาน พบปะให้กำลังใจกำลังพล ณ หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส และกองบังคับการควบคุมสุริโยทัย ค่ายกัลยาณิวัฒนา ตำบลกะลุวอ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส โดยมี พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ตลอดจนผู้บังคับหน่วยในพื้นที่ ร่วมให้การต้อนรับ ก่อนรับฟังสรุปผลการปฏิบัติงาน หารือปัญหาข้อขัดข้องในห้วงที่ผ่านมา

โอกาสนี้ พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้กล่าวมอบนโยบายการปฏิบัติงานว่า “การปฏิบัติภารกิจต้องมีความเข้มงวดมากขึ้น เน้นย้ำการขับเคลื่อนด้วยกลุ่มมวลชนและภาคประชาสังคมที่ต้องร่วมกันแก้ไขปัญหา ในเรื่องของแผนรักษาความปลอดภัยเมืองเศรษฐกิจ ต้องมีการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุอย่างต่อเนื่อง งานป้องกันชายแดนที่ได้ดำเนินการไว้ ขอให้ปฏิบัติต่อจนบรรลุวัตถุประสงค์ มองหาช่วงว่างของการปฏิบัติงานเพื่อใช้มาตรการเติมเต็มให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด คู่กับการเฝ้าระวังป้องกันตามแนวทางของผู้บัญชาการทหารบกให้มีการปฏิบัติที่เข้มข้นมากยิ่งขึ้น ในส่วนของฮูกุมปากัต (ธรรมนูญหมู่บ้าน 9 ดี) ต้องมีการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติของหมู่บ้านในการร่วมคิด ร่วมทำ เพราะถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างพื้นที่ให้เกิดความสันติสุขมั่นคงและยั่งยืน สิ่งที่สำคัญคือขอให้หน่วยในพื้นที่ทำการขับเคลื่อนกองร้อยต่าง ๆ เพื่อการเรียนรู้ ปรับตัว และวางแผนการปฏิบัติอย่างเข้มแข็ง จัดสรรกำลังพลให้เพียงพอต่อการปฏิบัติงาน นำนโยบาย 5 งานสำคัญ มาใช้ขับเคลื่อนงานในระดับพื้นที่ โดยบูรณาการกำลังทุกภาคส่วน ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง กองกำลังประจำถิ่น และภาคประชาชน ในการช่วยกันดูแลรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยในพื้นที่บ้านของตนเอง

นอกจากนั้นแล้ว แม่ทัพภาคที่ 4 สั่งการให้หน่วยได้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์อุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นในห้วงนี้ โดยจะต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ด้วยการบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง สร้างการรับรู้แจ้งแผนเตือนภัยให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบ ให้เกิดการตื่นตัวและเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์อยู่เสมอ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ทหาร จะต้องเป็นที่พึ่งให้กับพี่น้องประชาชนในทุกโอกาส