ข่าวทั่วไปข่าวประชาสัมพันธ์

แพร่ – รมว.สาธารณสุข มอบนโยบายให้ ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่สังกัด สสจ.แพร่ และ อสม.ในพื้นที่ จ.แพร่ พร้อมปล่อยขบวน อสม. ผู้พิทักษ์ปราบหวาน-ลดเค็ม มอบเงิน เครื่องชุดดูแลสุขภาพประชาชนเบื้องต้น เผยอยู่ระหว่างเร่งรัดจัดตั้งกองทุน.อสม.และ พรบ.อสม.

แพร่ – รมว.สาธารณสุข มอบนโยบายให้ ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่สังกัด สสจ.แพร่ และ อสม.ในพื้นที่ จ.แพร่ พร้อมปล่อยขบวน อสม. ผู้พิทักษ์ปราบหวาน-ลดเค็ม มอบเงิน เครื่องชุดดูแลสุขภาพประชาชนเบื้องต้น เผยอยู่ระหว่างเร่งรัดจัดตั้งกองทุน.อสม.และ พรบ.อสม.

เมื่อวันที่ 18 ตุลาค2567 เวลา 17.30 น. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ. สุรัตนวนิชย์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ นายชุติเดช มีจันทร์ ผุ้ว่ารากชารจังหวัดแพร่ นายอนุวัธ วงศ์วรรณ นายก อบจ.แพร่ นพ.วีรศักดิ์ ดำรงพงษ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแพร่ นพ.วิชิน โชติปฎิเวชกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแพร่ นพ.แสงชัย พงศ์พิชญ์พิทักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสูงเม่น บุคลากรในสังกัด สสจ.แพร่ และ อสม.ในพื้นที่ จ.แพร่ ได้มาร่วมรับฟังนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ณ บริเวณหน้าสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแพร่
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าในสองเรื่องที่ได้ผลักดันคือ การจัดตั้งกองทุน อสม. และ พรบ.อสม. ยังอยู่ในระหว่างการเร่งรัดในเรื่องของกฎหมาย คือกรอบของกฎหมายเราเร่งไม่ได้ เพราะขั้นตอนของร่างกฎหมายของกระทรวง เราต้องส่งให้คณะรัฐมนตรี แล้ว รัฐมนตรีเขาก็ออกความคิดเห็น ความคิดเห็นตอนนี้ในการที่เราจะจัดตั้งกองทุน อสม. มันต้องผ่านคณะกรรมการของกรมบัญชีกลางที่จะประชุมแล้วก็ผ่านไปที่คณะรัฐมนตรี เพื่อให้กฤษฎีกาตรวจเมื่อตรวจแล้วต้องเข้าสภาผู้แทนราษฎรพิจารณากัน เมื่อผ่านก็เข้าวุฒิสภา กฎหมายฉบับหนึ่งใช้เวลาประมาณสองปี แต่ผมใช้เวลาเบื้องต้นไปแล้วหกเดือนคิดว่าถ้าโชคไม่ร้ายจนเกินไปปีหน้านี้น่าจะเสร็จ
แต่ว่าในส่วนของ พรบ.อสม.ผมจะทำงานควบคู่กับการลดคนป่วยจากโรค NCD หรือโรคไม่เรื้อรัง คือจะเริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณนี้ เราเริ่มทำแล้วงานกฎหมายก็เดินควบคู่กันไป ก็ทำได้ขนาดนี้เพราะว่าการเร่งการประชุมของสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา ไม่ได้ง่าย มันเกี่ยวข้องกฎหมายหลายอย่าง เคยได้ยินที่เขาจะแก้กฎหมายไหมบางฉบับเถียงกันไปกันมาก็ทำไม่ได้ ถ้าถามว่ามันจะเสร็จได้ไหม คิดว่าความเป็นผู้แทนราษฎรทุกท่าน ก็อยากให้ อสม.ทำงานได้คล่องและมีรายได้เพิ่มเติมก็คงไม่มีใครปฏิเสธเรื่องนี้


รมว.สาธารณสุข กล่าวอีกว่า ในส่วนการณรงค์การกินหวานเค็มมันก็จะต้องคิกออฟใหญ่ในเดือนพฤศจิกายน ปีนี้ เพื่อให้คำนวณได้ว่าพวกเรากินคาโบไฮเดรต จะกินไม่เกินความสามารถของตัวเองแต่ไม่ใช่กินแล้วทำให้เกิดโรค มันคำนวณได้เมื่อรู้เรื่องของน้ำหนัก ส่วนสูง อายุและการทำงาน การออกกำลังกายในแต่ละวัน เขาจะมีสูตรคำนวณง่ายๆ เราใส่ลงไปเครื่องคิดเลขก็คำนวณออกมาได้ว่าจะเพิ่มอาหารที่เขากินอันไหน จะเพิ่มคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน และมันจะต้องมีการออกกำลังกายควบคู่กันไป แต่ผมจะไม่แตะเรื่องอื่นถ้าแตะเรื่องอื่นปุ๊บมันจะไม่สำเร็จ เหมือนที่ผ่านมา ทุกคนรู้แต่ทำทุกอย่างทีเดียวกันทั้งหมดมันจะไม่สำเร็จ มันจะพันกันไปหมด
โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง โรคไตมาเป็นอันดับหนึ่ง มะเร็งก็เกือบจะเป็นโรคอันดับหนึ่ง แต่เมื่อเอาหลายโรคมารวมกันมันต้องใช้เงินเป็นค่ายา ปี 139,000 ล้านบาท จากสามกองทุนคือ กองทุนข้าราชการ กองทุนแรงงาน และกองทุนหลักประกันสุขภาพ ต่อไปประชาชนเขาจะรู้ เขาตรวจสอบได้ว่าอาหารขณะที่กำลังจะกินมันเค็มเกินหรือไม่ แต่เพราะว่าผู้ผลิตอาหารเขาได้ขออนุญาตที่บางคนกินไม่เป็นไร อย่างคนทำงานเยอะๆ แต่คนที่อ้วนอยู่แล้วกินมากไปก็อันตราย แต่เราจะไปบังคับว่าอย่ากินหวานมันไม่ได้เพราะความต้องการของคนไม่เท่ากัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมอบนโยบายแล้ว รมว.สาธารณสุข ได้มอบเงิน 500,000 บาท มอบชุดดูแลสุขภาพประชาชนเบื้องต้นจำนวน 200 ชุดแก่ อสม. 8 อำเภอ แล้วปล่อยขบวน อสม. ผู้พิทักษ์ปราบหวาน-ลดเค็ม ทั้งนี้ก่อนเดินทางกลับได้รับหนังสือขอรับการสนับสนุนการก่อสร้างอาคารจอดรถของ โรงพยาบาลแพร่ งบประมาณ 76 ล้านบาท จาก นพ.นิยม วิวรรธนดิษฐกุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย เขต 2

ญาณัจฉรา โชติถนอมกิจ
แพร่…รายงาน