กีฬาข่าวทั่วไปข่าวพาดหัว

“เสธ.ยอด” พลตรีอินทรัตน์ ยอดบางเตย ประธานฟอนซ่า เสนอไอเดียพัฒนากีฬาไทย ควรแบ่งระดับการสนับสนุนสมาคมกีฬา ล่าเหรียญโอลิมปิกเกมส์

“เสธ.ยอด” พลตรีอินทรัตน์ ยอดบางเตย ประธานฟอนซ่า เสนอไอเดียพัฒนากีฬาไทย ควรแบ่งระดับการสนับสนุนสมาคมกีฬา ล่าเหรียญโอลิมปิกเกมส์ ไม่ว่าจะเป็นระดับเอ บี ซี และ ดี ต้องชัดเจนเหมือนที่ชาติมหาอำนาจระดับท็อป 10 ของโลกทำกัน โดยเฉพาะระดับเอ กลุ่มได้เหรียญโอลิมปิก กกท. ควรให้งบปีละ 50 ล้านบาท ไปบริหารจัดการ ที่เหลือให้ลดหลั่นกันไป เพื่อสมาคมจะได้วางแผนการพัฒนาได้ล่วงหน้า ไม่ต้องมาลุ้นกันแบบปีต่อปีเหมือนเก่า และจำเป็นต้องมีการประเมินผลงานต่อเนื่อง ถ้าทำได้ดีตามเป้าหมาย ควรต้องให้งบเพิ่ม และเลื่อนระดับ แต่หากไม่ประสบความสำเร็จ ควรต้องตัดลดงบลง ระดับก็ต้องหล่นลงไปด้วย

“เสธ.ยอด” พลตรีอินทรัตน์ ยอดบางเตย ประธานสหพันธ์สมาคมกีฬาชาติ หรือ ฟอนซ่า กล่าวถึงการพัฒนากีฬาของประเทศว่า ทุกวันนี้ การพัฒนากีฬาของไทย ดูเหมือนว่ายังดำเนินการไม่ค่อยถูกทางเท่าไหร่ โดยเฉพาะกับการเตรียมนักกีฬาไปโอลิมปิกเกมส์ ได้งบประมาณมาในแต่ละปี ก็แบ่งกระจายไปให้สมาคมกีฬาต่าง ๆ โดยยังเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ยังกว้าง ๆ อยู่ ซึ่งสิ่งที่คิดว่าควรทำให้ดีกว่าเดิม คือ การจัดลำดับความสำคัญ สนับสนุนงบประมาณสมาคมกีฬาหลัก และสมาคมกีฬารอง ให้ชัดเจน โดยจากการศึกษาข้อมูล พบว่า ชาติมหาอำนาจระดับท็อป 10 ในโอลิมปิก ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐฯ จีน สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และ ญี่ปุ่น เป็นต้น มีการแบ่งระดับการสนับสนุนสมาคมกีฬาของตนเอง เป็นหลายระดับ เป็นการสนับสนุนที่ตรงจุด ทำให้เกิดผลดีในระยะยาว


ประธานฟอนซ่า กล่าวต่อว่า ตัวอย่าง ในระดับเอ จะเป็นสมาคมกีฬาในกลุ่มที่ได้เหรียญโอลิมปิก อย่างสม่ำเสมอ ซึ่ง การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. ควรให้งบปีละ 50 ล้านบาท ไปบริหารจัดการ ที่เหลือให้ลดหล่นกันไป อย่างระดับบี กลุ่มกีฬาที่มีลุ้น เช่น กอล์ฟ ให้ปีละ 30 ล้านบาท ระดับซี กลุ่มกีฬาที่ได้เข้าร่วม ให้ปีละ 15 ล้านบาท และ ระดับดี กลุ่มกีฬาที่เข้าร่วมควอลิฟาย แต่ไม่ผ่านการคัดเลือก ให้ปีละ 10 ล้านบาท แนวทางนี้ ที่กลุ่มชาติมหาอำนาจทำ จะช่วยให้สมาคมกีฬาเข้มแข็ง และสมาคมจะได้วางแผนการพัฒนาได้อย่างถูกต้อง ไม่ต้องมาลุ้นกันแบบปีต่อปีเหมือนเก่า จะทำอะไรก็สามารถวางแผนได้ล่วงหน้ามากกว่าเดิม
“อย่างไรก็ตาม หลังจากให้การสนับสนุนแล้ว จำเป็นต้องมีการประเมินผลงานต่อเนื่อง ควบคู่กันไปด้วย ถ้าทำได้ดีตามเป้าหมายที่วางไว้ ควรต้องให้งบเพิ่ม ประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ และเลื่อนระดับขึ้นไป แต่หากไม่ประสบความสำเร็จ ควรต้องตัดลดงบประมาณลง ประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ เช่นกัน และระดับก็ต้องหล่นลงไปด้วย” พลตรีอินทรัตน์ กล่าว