20-10-67 พี่เสือ นักข่าวสงขลา
เดือดคุณป้าใช้มีดปาดตาล ปาดคอหญิงรุ่นลูกคางานศพในวัดสาหัส จากปัญหาหนี้สิน ล่าสุดผู้นำท้องถิ่นพาเข้ามอบตัวแล้ว ญาติคนเจ็บร้องขอความเป็นธรรมให้ดำเนินคดีถึงที่สุด
ที่ จ.สงขลา ได้เกิดเหตุการณ์ผู้หญิงใช้มีดปาดคอกันภายในวัดได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยคนก่อเหตุเป็นคุณป้าใช้มีดปาดคอหญิงสาวรุ่นลูก เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ
เวลา 00.15 น.คืนวานนี้(19ต.ค.67)
ภายในอาคารจัดเลี้ยงฌาปนสถานวัดจะทิ้งพระ ม.4 ต.จะทิ้งพระ อ.สทิงพระ จ.สงขลา ซึ่งกำลังมีการจัดพิธีบำเพ็ญกุศลศพชาวบ้าน
ผู้บาดเจ็บคือ น.ส.วิไลพร อุดมดี อายุ 36 ปี บ้านอยู่ที่หมู่ 4 ต.จะทิ้งพระ มีบาดแผลฉกรรจ์ถูกเชือดด้วยมีดปาดตาลเข้าที่คอขณะนี้อาการยังสาหัสรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสงขลา
ส่วนคนก่อเหตุ คือ นางไสว สงวารี อายุ 58 ปี บ้านอยู่ที่หมู่ 6 ต.จะทิ้งพระ หลังก่อเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีออกจากวัดไป แต่ทำมีดปาดตาลตกอยู่ในที่เกิดเหตุ
และล่าสุดเมื่อช่วงเย็นเมื่อวานนี้มีรายงานว่า นางไสว ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.สทิงพระ แล้วโดยมีผู้นำท้องถิ่นคนหนึ่งพาเข้ามอบเบื้องต้นถูกแจ้งข้อหาพยายามฆ่า โดยจะนำตัวฝากขังในวันจันทร์นี้
และจากการสอบสวนทราบว่าสาเหตุมาจากปัญหาเรื่องหนี้สิน โดย นางไสว มือมีด เป็นเจ้าหนี้ ส่วน น.ส.วิไลพร คนเจ็บเป็นลูกหนี้ ซึ่งมีการหยิบยืมเงินกันมาจำนวนหนึ่ง แต่ว่าพักหลังเริ่มมีปัญหากันประมาณว่าอีกฝ่ายไปทวงแต่อีกฝ่ายไม่จ่าย ล่าสุดเมื่อ 3 วันก่อนถึงกันลงไม้ลงมือตบตีกันมาแล้วครั้งหนึ่ง
ล่าสุดทีมข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุภายในฌาปนสถานวัดจะทิ้งพระ และสอบถามชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์และนั่งร่วมโต๊ะเดียวกันกับคนเจ็บ เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า
ตอนนั้นมีชาวบ้านอยู่ในงานศพประมาณ 10 คน โดยตนนั่งอยู่โต๊ะเดียวกับ น.ส.วิไลพร คนเจ็บ และเห็น นางไสว เดินวนเวียนไปมารอบโต๊ะม้าหินอ่อนแล้ว 2-3 รอบ แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร ก็นั่งคุยกันตามปกติ
แต่ปรากฏว่า นางไสว ได้เดินมาจากด้านหลังและกระชากหัว น.ส.วิไลพร และใช้มีดปาดตาลที่พกมาปาดไปที่คอต่อหน้าต่อหน้าเพื่อนร่วมโต๊ะ จนเป็นแผลฉกรรจ์ แต่ว่ามีดหลุดมือ และรีบวิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์ขับออกจากวัดไปทันที แม้ว่าจะพยายามวิ่งตามไปแต่ก็ไม่ทัน
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์นี้ทางญาติของ น.ส.วิไลพร ที่ได้รับบาดเจ็บได้ติดต่อผ่านผู้สื่อข่าวบอกว่าต้องการให้ตำรวจดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุอย่างถึงที่สุดเพราะกลัวว่าเรื่องจะเงียบและได้รับการประกันตัวออกมา เนื่องจากตอนเข้ามอบตัวมีผู้นำท้องถิ่นไปด้วย กลัวว่าอาจมีนอกมีในและไม่ได้รับความเป็นธรรม
