อ่างทอง หลอนยาชายวัย52ปีคิดว่าเมียคบชู้ทำร้ายเมียวัย52ปีได้รับบาดเจ็บสาหัสตัวเองขึ้นไปนอนบ้านอีกหลังเช้ากลายเป็นศพ สำนึกบาปบอกแม่พาไปมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 20 ต.ค. 67 ร.ต.อ.กรเทพ จันทรานภาภรณ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอ่างทอง จังหัวดอ่างทอง ได้รับแจ้งจาก นาย อดุลย์ ปานนาค อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/2 หมู่ที่ 4 ตำบลตลาดกรวด อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง ว่าได้ทำร้าย นางสาว สำเนียง มลิศรี อายุ 52 ปี ภรรยาเสียชีวิตอยู่ภายในห้องนอนที่บ้าน
เบื้องต้น นาย อดุลย์ รับสารภาพว่าได้เสพยาเสพติด โดยอ้างว่าจับได้ว่าเมียคบชู้และได้ทะเลาะกันในห้องนอนที่บ้าน แล้วใช้สันมีดดาบฟันไปที่ศรีษะ 1 ที และมีเลือดไหลออกมาแล้ว ได้บอกเลิกกับเมีย แล้วขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านไปกับลูกสาว วัย 13 ปี จนถึงจังหวัดชัยนาท แล้วน้ำมันรถจักรยานยนต์หมด จะเอาบัตรเอทีเอ็มกดเงินพบว่าไม่มี คาดว่าเมียเก็บไปด้วยไม่ได้นำเอกสารรถจักรยานยนต์ติดมาด้วย ซึ่งในตัวมีเงินอยู่ 60 บาท จึงเติมน้ำมันแล้วกลับมาบ้านที่อ่างทอง
เมื่อกลับมาบ้านจึงถาม นางสาว สำเนียง ภรรยา ว่าเอาบัตรเอทีเอ็มไว้ไหน พูดกันไม่รู้เรื่องจึงมีการทำร้ายร่างกายกันอีก และดึงตัวเมียมาทุบตีกันนอกบ้านก่อนเหวี่ยงเมียออกไป แล้วหัวของเมียไปโดนกับแท่งปูนบ่อโยก แล้วแน่นิ่งไปได้แต่ลืมตา จึงให้ลูกสาวพาแม่เข้าไปนอนในบ้าน แล้วนางสาว สำเนียง ก็ร้องครวญครางตลอดเวลา ตนเองรำคาญจึงได้ชวนลูกขึ้นไปนอนที่บ้านอีกหลังชั้นบน ปล่อยให้ นางสาว สำเนียง นอนอยู่ในบ้านชั้นล่างเพียงคนเดียว แล้วตอนเช้าลงมาดู พบว่าเมียเสียชีวิตแล้ว จึงไปบอกกับแม่ให้พาเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอ่างทอง
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองอ่างทอง ได้พาตัว นาย อดุลย์ ไปที่บ้านหลังดังกล่าว พบว่าเป็นบ้าน 2 หลัง ปลูกอยู่ติดกับหลังที่เกิดเหตุ เป็นบ้านปูนชั้นเดียว ภายในห้องพบศพ นางสาว สำเนียง มลิศรี อายุ 52 ปี นอนห่อมผ้านอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องนอนข้างเตียง จึงได้เก็บหลักฐานที่เป็นมีดดาบที่ทำร้ายเมียไปตรวจสอบ พร้อมให้ชี้จุดถ่ายภาพจุดต่างๆ ที่ทำร้ายเมีย และได้สอบถามว่าขณะเกิดเหตุ รับสารภาพว่าเสพยาบ้าแล้วนำหลักฐานไปทิ้งแล้ว จึงได้นำตัวไปสอบสวนขยายผลที่ สภ.เมืองอ่างทอง เบื้องต้นเตรียมแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ส่วนศพ นางสาว สำเนียง ทางแพทย์ได้เข้าชัณสูตรเบื้องต้น พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ก่อนนำศพส่งสถาบันนิติเวช กระทรวงยุติธรรม เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงตามขึ้นตอนของกฏหมายต่อไป
ทางด้าน นาง สนุ่น ทองแท่ง อายุ 75 ปี เสื้อลายสก๊อตสีน้ำเงิน ผู้เป็นแม่นายอดุลย์ เล่าให้ฟังว่า นาย อดุลย ทะเลาะกับเมียทุกวันเรื่องหึงหวง ส่วนวันเกิดเหตุนั้นตนเองไม่ได้อยู่ที่บ้าน แต่ไปนอนที่บ้านอีกหลังที่อยุธยา ตอนเช้า นาย อดุลย์ ได้เข้าไปหาและบอกว่าทำร้ายเมียตาย ขอให้พาเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้านเด็กหญิง เอ นามสมติ ลูกสาว วัย 13 ปี เล่าให้ฟังว่า เห็นพ่อทำร้ายแม่ แล้วเอาน้ำบริเวณบ่อโยคฉีด แล้วให้เอาตัวเข้าไปนอนในห้อง แล้วพ่อได้ให้ตนเองขึ้นไปนอนในบ้านชั้นบนที่อยู่ข้างกัน
ส่วนทางด้าน ยายข้างบ้านที่เกิดเหตุ วัย 72 ปี เสื้อคอกระเช้า เล่าให้ฟังว่า ตนเองได้ยินเสียงสองผัวเมียด่าทอและทะเลาะกันดังลั่น แต่ไม่ได้เดินออกมาดู ได้แต่บอกน้องชาย วัย 52 ปี ให้ระวังตัว เนื่องจาก นาย อดุลย์ จะมาทำร้ายและก็เงียบไป เช้าก็ทราบข่าวว่า นาย อดุลย์ ทำร้ายเมียจนเสียชีวิต
ด้าน นาย สมภพ ฤทธิเอนก กำนันตำบลตลาดกรวด เล่าให้ฟังว่า นาย อดุลย์ มีพฤติการณ์เสพยาบ้าจนหลอน และจะทำร้ายเมียเป็นประจำ เคยหาว่ามีคนเข้าไปข่มขืนเมียอีก ซึ่งได้พาเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเข้าตรวจสอบ เมื่อฟัง นาย อดุลย์ เล่าให้ฟังคาดว่าน่าจะหลอนยา