ข่าวพาดหัวช่วยชาวบ้าน

วัยว้าวุ่นลุ้นกันทั้งซอย กู้ภัยเร่งช่วยเหลือเด็ก 6 ขวบ โดนเหล็กเสียบแขน ย่านสุขสวัสดิ์

วัยว้าวุ่นลุ้นกันทั้งซอย กู้ภัยเร่งช่วยเหลือเด็ก 6 ขวบ โดนเหล็กเสียบแขน ย่านสุขสวัสดิ์

วันที่ 23 ตุลาคม 2567
เวลา 18.00 น.

อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง รับแจ้งมีเหตุเด็กชายวัย 6 ขวบ ได้รับบาดเจ็บจากการถูกเหล็กรั้วเสียบที่แขน แล้วยังติดคารั้วอยู่ เหตุเกิดภายในซอยสุขสวัสดิ์ 35 จึงรีบรุดจัดอุปกรณ์เครื่องมือตัดเหล็ก พร้อมจัดเตรียมกำลังเร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่ออาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุพบเหตุเกิดบริเวณหลังบ้านเลขที่ 125 /10 ชุมชนบุญมาก ซอย สุขสวัสดิ์ 35 ถนน สุขสวัสดิ์ แขวง ราษฎร์บูรณะ เขต ราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร ภายในที่เกิดเหตุพบประชาชนยืนมุงดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก อาสาสมัครต้องแหวกวงล้อมของผู้คนที่มายืนมุงดูเหตุการณ์เพื่อเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ จึงพบกับเด็กชาย เอ อายุ 6 ปี ( นามสมมุติ ) เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 3 ของโรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งย่านถนนประชาอุทิศ ยืนอยู่บริเวณข้างรั้วบ้านหลังดังกล่าวโดยที่แขนข้างขวาบริเวณข้อศอกถูกเหล็กรั้วเสียบติดคาอยู่ และเด็กชายคนดังกล่าวมีอาการตื่นตกใจกลัว หน้าซีดปากสั่น ร้องไห้เพราะความเจ็บปวดอยู่ตรงบริเวณดังกล่าว อาสาจึงรีบรุดนำอุปกรณ์เครื่องตัดเหล็กเร่งทำการตัดเหล็กรั้วดังกล่าวออกมาทันที และเมื่อตัดเหล็กรั้วออกมาได้แล้วจึงให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนที่จะนำตัวเด็กส่งโรงพยาบาลเจริญกรุงอย่างเร่งด่วนทันที

และจากการสอบถาม น.ส.ลำพอง ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 48 ปี เป็นแม่บ้านโรงงานชิ้นแต่งรถยนต์ บอกเล่าว่า ที่เกิดเหตุอยู่ทางด้านหลังโรงงาน มีลุงยามวิ่งมาบอกทางหน้าโรงงานว่ามีเด็กแขนติดเหล็กอยู่ด้านหลัง ช่วยมาเปิดประตูรั้วด้านหลังให้หน่อย ตนจึงวิ่งมาดูและหากุญแจมาเปิดให้กู้ภัยมาตัดเหล็กออก ตนมาเห็นก็เด็กแขนติดอยู่กับเหล็กรั้วแล้ว เป็นเด็กแถวนี้แหละ มาวิ่งเล่นอยู่ประจำ ถามจากเด็กอีกคนบอกว่า เค้าปีนขึ้นไปนี่แหละแล้วตกลงมา เหตุเกิดประมาณ ก่อน 5 โมงครึ่ง

และ น้อง บี อายุ 7 ปี ( นามสมมุติ ) ที่ยืนอยู่บริเวณนั้นและเห็นเหตุการณ์ บอกเล่าว่า ตนยืนอยู่ แต่น้องเค้าปีนขึ้นแล้วลงปีนขึ้นแล้วลง แล้วก็ตกลงมา แต่แขนโดนเหล็กรั้วเสียบตรงข้อศอก

เบื้องต้นในช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่เด็กปิดเทอมกันเป็นส่วนใหญ่แล้วเด็กเล็กๆช่วงอายุประมาณนี้ก็กำลังอยู่ในวัยกำลังซน ผู้ปกครองจึงควรที่จะดูแลบุตรหลานของตนอย่างใกล้ชิด จากเหตุการณ์ดังกล่าวยังถือว่าเคราะห์ดีที่เด็กชายคนดังกล่าวไม่ได้เป็นอันตรายถึงชีวิต จึงถือว่าเรื่องนี้ขอให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ปกครองทุกท่านให้ดูแลบุตรหลานของท่านให้ดีๆเพราะอุบัติเหตุมักจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา