ข่าวพาดหัว

หนุ่มเมียนมาร์แค้นถูกทำร้ายร่างกาย-ตบทรัพย์ควักกรรไกรแทงคอเพื่อนดับคาตลาด หลังทวงเงิน 500 ไม่มีคืน

หนุ่มเมียนมาร์แค้นถูกทำร้ายร่างกาย-ตบทรัพย์ควักกรรไกรแทงคอเพื่อนดับคาตลาด หลังทวงเงิน 500 ไม่มีคืน

เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 24 ต.ค. ร.ต.อ.พิสัย ทองมี รอง สว.(สอบสวน) สน.บางขุนเทียน รับแจ้งเหตุคนต่างด้าวถูกกรรไกรแทงเสียชีวิต บริเวณซอยเอกชัย 64/7 ถนนเอกชัย แขวงคลองบางพราน เขตบางบอน กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.กฤติเดช จันทร์เพชร ผกก.สน.บางขุนเทียน พ.ต.ท.จารุกิตติ์พัฒน์ สุขยิ่ง รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.กิตติพัฎฐ์ แก้วสำอางค์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.ขจร ธูปประกายศรี สว.สส.สน.บางขุนเทียน พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู


ที่เกิดเหตุอยู่ด้านหลังตลาด ใกล้กับห้องน้ำบนโต๊ะลักษณะเป็นซุ้มไม้ไผ่ พบร่างนายโบโบ อู อายุ 27 ปี สัญชาติเมียนมาร์ สภาพนอนหงายหายใจรวยริน สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว นุ่งกางเกงคาร์โก้ขายาวสีดำ มีบาดแผลถูกของมีคมแทงที่ลำคอฝั่งซ้าย 1 แผล ใต้โต๊ะพบกองเลือดจำนวนมาก เจ้าหน้าที่พยายามทำ CPR แต่ไม่เป็นผลเสียชีวิตในเวลาต่อมา ใกล้กันพบกรรไกรตัดผ้า สำน้ำเงิน 1 ด้าม และกระเป๋าสะพายสีน้ำเงิน 1 ใบ วางอยู่บนโต๊ะ ห่างไปประมาณ 10 เมตรพบกรรไกรตัดผ้าสีดำ อีก 1 ด้ามมีคราบเลือด ตกอยู่ คาดผู้ก่อเหตุวิ่งหนีนำไปทิ้งไว้


สอบสวนพยานเบื้องต้น ให้ข้อมูลว่า ก่อนเกิดผู้ตายกับผู้ก่อเหตุและเพื่อน รวม 4 คน ได้ไปดื่มสุรากันมาจากที่อื่น จากนั้นทั้ง 4 คนมาได้มานั่งคุยกันบริเวณหลังตลาดจุดเกิดเหตุ กระทั่งทางฝั่งผู้ก่อเหตุมีการทวงถามเรื่องเงินจำนวน 500 บาทที่ผู้ตายยืมไป โดยฝั่งผู้ตายบอกว่าไม่มี จนเริ่มมีปากเสียงและเกิดการชุลมุน ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะใช้กรรไกรแทงคอผู้ตายจนแน่นิ่ง หลังก่อเหตุผู้ก่อเหตุได้ยืนตั้งสติ และวิ่งหลบหนีไปนำกรรไกร ไปโยนทิ้งหน้าตลาด ส่วนเพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตกใจและพากันหลบหนี

มีรายงานข่าวแจ้งว่าสำหรับผู้ก่อเหตุ เป็นชายชาวเมียนมาร์ ทำงานเป็นลูกจ้างอยู่ภายในตลาดแห่งนี้ ทราบชื่อคือ นายไคลวิน อายุ 54 ปี ยังหลบหนี นอกจากนี้มีข้อมูลว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา ทางผู้ตายได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายชกต่อย ผู้ก่อเหตุ 2-3 ทีจนใบหน้าช้ำ ก่อนตบทรัพย์ผู้ก่อเหตุไป จึงมีการทวงเงินกัน

เบื้องต้นฝ่ายสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และติดตามพยานผู้อยู่ในเหตุการณ์ เป็นชาวเมียนมาร์ได้แล้ว 1 ราย ก่อนเชิญตัวไปสอบปากคำที่โรงพัก ส่วนผู้ก่อเหตุอยู่ระหว่างเร่งรัดติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป