คืบหน้า วัยรุ่นยกพวกตีกันกลางดึก ถูกยิงบาดเจ็บ 4 คน
จากกรณี วัยรุ่นยกพวกตีกันกลางดึก ทำให้มีวัยรุ่นถูกยิงได้รับบาดเจ็บ จำนวน 4 ราย เหตุเกิดภายใน ซอยอยู่สุข 10 ตำบลบางเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อเวลา 02.30 น วันที่ 27 ตุลาคม 2567
ล่าสุดเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ( วันที่ 27 ตุลาคม 2567 ) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุอีกครั้ง พบว่าบรรยากาศทั่วไปเป็นอย่างปกติ ยังพบรอยคราบเลือดหยดเป็นทางตามพื้นถนนเล็กน้อย โดยจากการสอบถาม ทราบว่า กลุ่มเยาวชนที่บาดเจ็บ อาการปลอดภัยแล้วทั้งหมด ยังคงเหลือที่ต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล อยู่ 3 คน ซึ่งทั้งหมดได้รับบาดเจ็บไม่มากนัก
ภาพจากกล้องวงจรปิดของบ้านชาวบ้านในบริเวณจุดเกิดเหตุ สามารถจับภาพ ได้เมื่อเวลาประมาณ 23.12 น. ของวันที่ 26 ตุลาคม 2567 ((กล้องช้า 3 ชั่วโมง เวลาจริง 02.12 น.วันที่ 27 ตุลาคม 2567)) กลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุนับ 10 คน เกาะกลุ่มพากันเดินไปหากลุ่มผู้บาดเจ็บที่อยู่กลางซอย ก่อนมีการตะโกนท้าทาย ด่าทอใส่กลุ่มผู้บาดเจ็บว่า “มาดิๆ ควยอะไร“
ต่อมาเวลา 23.14 น. ((เวลาจริง 02.14 น.)) หนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุ ได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ฝั่งผู้บาดเจ็บ 1-2 นัด เสียงดังสนั่น ก่อนพากันกรูวิ่งหนีมาท้ายซอยตามภาพ
ส่วนทางคดี เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ลงพื้นที่เร่งติดตามตัวกลุ่มเยาวชนทั้งหมดมาสอบสวน ซึ่งเป็นเยาวชนที่อยู่ในซอยดังกล่าว แต่มีเพื่อนจากข้างนอกมานั่งสังสรรค์อยู่ด้วยจึงเกิดการเขม่นกันขึ้น
จากการสอบถาม นางบี (นามสมมุติ ) อายุ 15 ปี ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตอนแรกนั่งกินข้าวกันอยู่ห้าคน พอกินข้าวเสร็จ น้าตนเข้าไปก่อนแต่พวกตนยังนั่งกันอยู่ หลังจากนั้น 5 นาที ตนกินเสร็จก็เดินตามน้าเข้าไปแต่สองพี่น้องเขายังนั่งกันอยู่ แล้วก็มีเพื่อนเขามาหาสองคน สักพักเขาทักมาบอกน้าตนว่าโดนหาเรื่อง น้าตนเลยออกมาดู ก็ได้ยินเสียงโวยวาย ประมาณ 1 นาที ได้แล้วเขาก็วิ่งเข้าหากัน ตนได้ยินเสียงปืน 2 นัด ทางฝั่งตนได้รับบาดเจ็บ 4 คน คือโดนอาวุธปืน ตอนนี้คนเจ็บยังอยู่โรงพยาบาล 3 คน แต่อีกคนกลับบ้านแล้วอาการปลอดภัย สองพี่น้องบอกว่ารู้จักกับอีกฝั่ง เคยเล่นด้วยกันตั้งแต่เด็กเด็กเพราะอยู่ซอยเดียวกัน พอโตมาก็ต่างคนต่างไปเรียนคนละสถาบัน ตัวเค้าเองก็ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรกัน เพราะเขารู้จักอีกฝั่งแค่คนถึงสองคน ไม่ได้รู้จักทั้งหมด เพราะอีกฝั่งมากันเยอะมาก
ส่วน นางไก่ ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง เล่าว่า ตนนอนอยู่แล้วได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน เหมือนกับท้ากัน ตอนแรกเหมือนกับจะวิ่งไปคนเดียว แล้วซักแป๊บก็วิ่งกันไปอีก 3 คน สักพักก็ได้ยินเสียงปืนทีแรก 2 นัด แต่นัดที่สามได้ยินเหมือนเสียงมันแตก แถวนี้ไม่ค่อยมีเรื่อง จะมีก็ทะเลาะกันบ้างนิดหน่อย ครั้งนี้หนักสุด เมื่อคืนมีคนเจ็บประมาณ4-5 คนตนไม่แน่ใจ เพราะตนนั่งอยู่ข้างบน ตอนนั้นตนก็หลบเพราะกลัวอยู่เหมือนกัน หลังจากนั้นคนเจ็บที่โดนยิงก็เดินมาขึ้นรถปิ๊กอัพ ได้ยินเสียงเค้าคุยกันว่าโดนเต็มหน้าเต็มตัวเลย หลังจากนั้นเจ้าของรถปิ๊กอัพก็พาคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล ปกติตนเห็นกลุ่มคนเจ็บชอบมานั่งกินกันอยู่ แต่ไม่เคยมีหาเรื่องพอกินกันเสร็จก็เข้าบ้าน แต่ข้างนอกตนไม่รู้ ตนกลัวกับเหตุการณ์ครั้งนี้เพราะมีการยิงปืนแล้วเป็นลูกกระจาย เมื่อคืนหลังเกิดเหตุก็มีตำรวจมา ตนไม่รู้ว่าคนเก็บอาการเป็นยังไงแต่คนที่ขับรถไปส่งบอกว่าโดนเต็มตัวเต็มหน้าแต่คนที่หนักสุดคือโดนตรงลูกตา
ด้าน นายกุลพงษ์ พิมแมน ซึ่งเป็นพ่อของหนึ่งในฝ่ายผู้ก่อเหตุ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ลูกชายจัดงานวันเกิด แล้วชวนเพื่อนเพื่อนมากินที่บ้าน แล้วลูกชายให้เพื่อนไปซื้อน้ำแข็งที่เซเว่น แล้วต้องขี่รถผ่านที่กลุ่มวัยรุ่นนั่งอยู่ ตอนแรกก็ตะโกนด่าท้าทายกัน พอรอบสองลูกชายเดินไปคุยว่าเป็นเพื่อนมากินงานวันเกิด หลังจากนั้นเพื่อนของลูกชายต้องขี่รถออกไปทำธุระอีกฝั่งเหมือนชักมีดออกมาเหมือนวิ่งไล่กวด เพื่อนลูกชายเลยเดินมาบอก จากนั้นทางฝั่งลูกตนก็ยุติการกินเลี้ยง แล้วเดินไปเคลียร์ พอเดินไปถึงกลางซอยเกือบถึงบ้านเขา เขาก็ใช้อาวุธปืนยิงก่อน 2 นัด แต่ลูกชายไม่รู้ว่าเพื่อนก็มีปืนแล้วยิงสวนกลับไป จากนั้นก็วิ่งกันกระเจิง ลูกชายตอนเล่าให้ฟังแบบนี้ ฝั่งเพื่อนลูกตนมีคนเจ็บเหมือนโดนถากๆ ไม่ได้ไปแจ้งความและไม่ได้ไปหาหมอ ในกลุ่มฝั่งลูกชายประมาณ 10 คน แต่อีกฝั่งประมาณ 5-6 คน ลูกชายรู้จักกับอีกกลุ่ม เพราะบ้านอยู่ซอยเดียวกัน ต้นคิดว่าเรื่องสถาบันไม่เกี่ยว เหมือนจะข่มกันมากกว่าเหมือนแก๊งค์วัยรุ่นกับแก๊งค์วัยรุ่น ลูกชายกับอีกกลุ่มไม่เคยทะเลาะกันมาก่อน ตนไม่ทราบว่าเพื่อนของลูกชายคนไหนเป็นคนยิง ลูกชายกับอีกฝั่งรู้จักกันแต่คิดว่าที่มีปัญหาเพราะพาคนนอกเข้ามา แต่เมื่อวานลูกตอนกินกันอยู่ข้างบนดาดฟ้าไม่ได้ลงมายุ่งกับข้างล่างเลย ตนเลี้ยงหมูกระทะ ลูกชายก็พาเพื่อนมากิน ตนไม่คิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้ และไม่ได้กำชับ กับลูกชายว่าเวลาออกไปซื้อของต้องให้ลูกชายออกไปเองไม่ให้เพื่อนออกไปเพราะเพื่อนเป็นคนนอก ลูกตนเรียนแถวเอกมัย ตอนนั้นก็กระเจิงกันหมดต่างคนต่างกลัว ตนก็กลัวว่าเขาจะมาทำอะไรลูกตนเพราะเขารู้จักบ้านตนเลยจะพาลูกออกข้างนอกก่อนแต่พอตำรวจมา ก็เลยพามามอบตัวมาคุยกันผิดถูกก็ว่ากันไป ฝากถึงเพื่อนลูกว่าเหตุการณ์มันเกิดขึ้นแล้วเรามาช่วยกันแก้ไข ยังเด็กกันทุกคนวัยวุฒิ ยังไม่โตพอส่วนตนก็เข้าใจว่าเป็นยังไงอยากให้มาคุยกัน ฝากขอโทษไปยังผู้เสียหายทุกคน ถ้าไม่มีอีกกลุ่มเหตุก็ไม่เกิด จะมาโทษฝั่งลูกชายอย่างเดียวไม่ได้ คำว่าทะเลาะกันมันต้องมีสองคนขึ้นไป แต่ในเมื่อมันเกิดแล้วก็ต้องช่วยกันแก้ไขกันต่อไป
********************
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ