ลุงวัย 71 ปั่นจักรยานกลับจากเล่นเปตอง ถูกสองชายปริศนาถีบจักรยานล้มก่อนรุมทำร้าย เจ็บ
จากกรณี เพจดังจังหวัดสมุทรปราการ ลงโพสต์ข้อความ / ขอเบาะแส ผู้ก่อเหตุที่ทำร้าย คุณลุง วัย 71 ปี หลังจากกลับจากเล่นเปตองที่สวนสาธารณะ โดยที่เกิดเหตุอยู่ภายใน ซอยแบริ่ง 48/1 ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อช่วง 21.00 น ของวันที่ 27 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา พร้อมรูปภาพ คุณลุงที่บาดเจ็บที่บริเวณใบหน้าจนปูดเขียวชำไปทั้งหน้า / ซึ่งหลังจากเกิดเหตุทาง ลูกสาว ( นางสาววรญา สุนทรารักษ์ อายุ 46 ปี ) ของ คุณลุง ( นายปรีชา สว่างศรี อายุ 71 ปี ) ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ เพื่อให้ติดตามผู้ที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
เมื่อช่วงบ่าย วันที่ 29 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ ซอยดังกล่าว / ซอยแบริ่ง 48/1 ซึ่งจะทะลุออก ซอยแบริ่ง 58/6 แยก 2 ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งภายในซอยถึงจะมีบ้านเรือนทั้งซอยแต่ตอนช่วงกลางคืนก็ค่อนข้างเปลี่ยว ซึ่ง ภาพจากกล้องวงจรปิด ที่ บริเวณปากซอยแบริ่ง 58/6 แยก2 ตัดกับ ซอยแบริ่ง 58 จับภาพของ คุณลุง วัย 71 ปี ขี่รถจักรยานออกจาก ซอยแบริ่ง 58/6 แยก 2 ก่อน เลี้ยวเข้า ซอยแบริ่ง 58 ในสภาพไม่สวมเสื้อ ขี่ส่ายไปส่ายมา ในเวลา 21.14 น วันที่ 27 ตุลาคม 2567
โดยที่เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา เวลา 16.00 น. ทางพนักงานสอบสวน ได้เชิญตัว คุณลุง นายปรีชา สว่างศรี อายุ 71 ปี พร้อม ลูกสาว นางสาววรญา สุนทรารักษ์ อายุ 46 ปี พร้อม นายวรเมศฐ์ วรชาติรัฐศักดิ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 ตำบลสำโรงเหนือ มาให้ปากคำเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมประสานชุดสืบสวนลงพื้นที่อีกครั้ง เพื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในจุดที่ผู้ก่อเหตุใช้หลบหนี
จากการสอบถาม นายปรีชา สว่างศรี อายุ 71 ปี ผู้บาดเจ็บ เล่าว่า ตนพึ่งเลิกจากเล่นเปตองประมาณ 3 ทุ่ม วันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม ก็ขี่จักรยานกลับบ้าน ก็เจอคนก่อเหตุเขาขี่มอไซค์ซ้อนกันมา เขาถีบจักรยานตนล้ม แล้วเขาก็ต่อยตนเข้าที่เป้าตา และก็มาคว้ากระเป๋าสตางค์ตน พอดีมีรถมาเขาก็ขึ้นรถมอไซค์แล้วก็ขี่ไปเลย ตนจำหน้าเขาไม่ได้เลย แถวที่เกิดเหตุไฟค่อนข้างสลัว ๆ ไม่สว่างเท่าไร หลังจากเกิดเหตุตนก็ขี่จักรยานกลับบ้าน แล้วก็บอกลูก แล้วลูกก็มาแจ้งความในคืนนั้นเลย ในคืนนั้นก็มีรถมูลนิธิเข้าไปที่บ้านจะพาตนไปส่งโรงพยาบาลแต่ตนไม่ไป จนเช้าตนก็ไปโรงพยาบาลกับผู้ใหญ่
ส่วน นางสาววรญา สุนทรารักษ์ อายุ 46 ปี ลูกสาว เล่าว่า พ่อเขาจะชอบไปช่วยผู้ใหญ่ ซึ่งผู้ใหญ่เขาจะจัดกีฬากันช่วงเสาร์-อาทิตย์ พวกเปตอง หมากลุก ของผู้สูงวัย แล้วปกติพ่อจะกลับบ้านไม่เกิน 2 ทุ่ม และถ้าวันเสาร์-อาทิตย์ แกต้องรอเก็บสนามเก็บโต๊ะช่วยผู้ใหญ่ พ่อกลับมาประมาณสัก 3 ทุ่มนิด ๆ ซึ่งวันเกิดเหตุกลับช้ากว่าปกติ พ่อเขาเปิดประตูเข้ามา เขาก็บ่นพึมพำ ประมาณว่า / ทำไมมาทำกูอะไรแบบนี้ / เขาก็พูดอย่างนี้วกไปวนมา ตนก็เลยเปิดไฟดูเขา และก็ถามพ่อเขาว่าไปโดนอะไรมา ใครทำ เขาก็ไม่ตอบ เขากลัวว่าตนจะว่าเขาเรื่องกลับดึก พ่อเขาจะเป็นคนที่แบบว่าไม่ชอบให้ใครบ่นใครด่า พอเข้าห้องไปแกก็จะปิดประตู ตนก็เลยให้ลูกชายมาถาม แต่เขาก็ยังไม่พูด แต่เขาก็เหมือนพูดกับตัวเอง ว่าทำไมต้องทำกู นู้นี้นั้น ตนก็เลยให้ลูกชายโทรหากู้ภัยพาพ่อไปหาหมอ เพราะตนจะพาพ่อหาหมอ ตนพูดก็แล้วแต่เขาก็ไม่ยอมไป จึงให้กู้ภัยมาช่วยพูดตอนแรกแกก็ยังไม่ยอมไป อ้างว่ารถล้มเฉย ๆ เหมือนแกตัดบทไม่ให้ใครเข้ามาวุ่นวายกับแก กู้ภัยก็ให้ตนออกมาและพูดคุยกับทางพ่ออยู่สักพัก / พ่อก็บอกกับกู้ภัยว่า เขาขี่จักรยานมาเรื่อย ๆ แล้วเหมือนกับมีวัยรุ่น แต่เขาจำไม่ได้ว่ารูปร่างเป็นยังไง ถีบรถพ่อเขาจนล้ม พอพ่อล้มลงก็มีการยื้อแย้ง เหมือนมันจะค้นตังเขา เขาก็ไม่ยอม ก็เลยโดนต่อยหรือเตะ / กู้ภัยเขาก็มาเล่าให้ตนฟัง แต่พ่อเขาก็ยังไม่ยอมไปล้างแผลและไปโรงพยาบาล กู้ภัยเขาก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะเจ้าตัวเขาไม่ไป ทีนี้ลูกชายตนก็จะพาแจ้งความ จึงเดินทางมาที่โรงพักในคืนนั้นเลย แต่ตัวพ่อของตนไม่ได้มา จึงให้บัตรประชาชนยืนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและตนก็แจ้งความแทนพ่อ พอเสร็จตนก็กลับบ้าน พอมาตอนเช้าพ่อเขาก็ขอไปสนาม พวกเพื่อนเขาก็ได้มีการถามกัน แกก็เล่าให้ฟังหมด ตนก็เลยไปตามผู้ใหญ่มาพาพ่อไปหาหมอ ตนคิดว่าคนที่ก่อเหตุน่าจะมาดูพ่ออยู่แล้วเหมือนว่าเขารู้เวลากลับของพ่อ เพราะว่าวันเสาร์ เขากลับประมาณ 3 ทุ่มกว่า ประมาณ 3 ทุ่ม 5 นาที แต่วันอาทิตย์ ก็ 3 ทุ่ม เกือบจะครึ่งแล้ว ตนก็เป็นห่วง แต่คนที่บ้านบอกไม่เป็นไรหลอก เมื่อวานยังกลับดึกได้เลย ตนก็เลยคิดว่าคงไม่เป็นไร แต่พอแกกลับมาเปิดประตูเข้ามาแล้วก็บ่นพึมพำว่า ทำไมต้องทำกู อะไรอย่างนี้ ปกติพ่อเขาจะพกเงินเป็นพันในกระเป๋า พอได้เล่นเปตองตนก็ไม่รู้ว่าเขาพกเงินไปด้วยหรือเปล่า ทางตำรวจเขาน่าจะดูกล้องแล้วหรือเปล่าตนก็ไม่รู้ เขาก็พูดประมาณว่า คุณพ่อน่าจะล้มเองหรืออะไรไม่รู้ตนก็ไม่รู้จะทำยังไง แต่คุณพ่อเขาก็ยืนยันว่าเขาโดนทำร้ายจริง ๆ ไม่ได้รถล้ม เขาโดนเหมือนแบบว่าทำเขาแล้วก็กระโดดขึ้นรถมอไซค์ไปเลย ตัวคุณพ่อเองก็จะไม่ยอมเรื่องนี้จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด และตรงนั้นมันเป็นซอยเปลี่ยวด้วย ตนก็อยากให้มีมาตรการ แบบ มีกล้อง มีไฟที่มันสว่างกว่านี้ เพราะว่ามันเป็นจุดที่คนเดินทางผ่านเพื่อที่จะไปหมู่บ้าน มันดูแบบอันตราย บางจุดกล้องก็ใช้ไม่ได้ และไฟก็ไม่ติด โดยเฉพาะตรงซอก ก็ขอฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย และก็ต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ด้วย ที่ช่วยเดินเรื่องแบบเต็มที่เลย ถ้าตนไม่ได้เขาตนก็แย่เลย ถ้าแค่ลำพังตนก็ไม่รู้จะทำอะไรยังไงเลย
ด้าน นายวรเมศฐ์ วรชาติรัฐศักดิ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 ตำบลสำโรงเหนือ เผยว่า ลูกสาวของลุงได้มาแจ้งกับตน ว่าพ่อโดนทำร้าย ในเขตพื้นที่ผู้ใหญ่ ลุงแกเป็นคนดูแลพื้นที่เล่นเปตองตรงสวนสาธารณะปิ่นแก้ว แกก็เดินทางเดินด้วยจักรยาน ช่วงเย็นทุกวัน หลังจากดูแลสนามเปตองเสร็จ แกก็กลับโดยจักรยานของแก ผ่านเส้นทางพื้นที่หมู่ 2 ตำบลสำโรงเหนือ คือพื้นที่ที่ตนรับผิดชอบอยู่ ซึ่งพื้นที่ตรงนี้ (พื้นที่เกิดเหตุ) มันก็มีไฟสลัว ๆ มีกล้องวงจรปิดอยู่ด้วย ตอนนี้ตนก็ได้ไปสอบถามพื้นที่แถวนั้นแล้ว เขากำลังดูกล้องให้ เบื้องต้นที่ตนพาลุงไปหาหมอ ลุงแก ตาบวมกว่าวันนี้ ช้ำ แล้วก็หัวโนมาก และก็มีถลอกตามร่างกายหลายแห่ง / แกแจ้งตนว่า โดนถีบโดยผู้ชายสองคนที่ขี่รถจักรยานยนต์มา พอถีบลุงแกล้มแล้วก็ลงไปชกลุงแก และพยายามที่จะเอากระเป๋าสตางค์ แต่ว่ามีรถผ่านมาพอดี ชายสองคนดังกล่าวก็เลยขึ้นรถหนีไป / ตนก็เลยตรวจสอบกล้องที่อยู่บริเวณด้านหน้า ซึ่งเป็นกล้องของโรงงานอยู่แถวนั้น สามารถจับภาพ ลุงได้ในสภาพ ถอดเสื้อ เลือดไหลเต็มตัว ปั่นจักรยานไปจนถึงบริเวณนั้นประมาณ 3 ทุ่ม 13 นาที แต่ว่าตรงที่เกิดเหตุอยู่ระหว่างตรวจสอบจากกล้อง 2-3 ตัวอยู่
*******************
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ