หนุ่มวิศวกร เครื่องกล วัย 27 ปี เสียหลักชนท้ายรถพ่วง ก่อนที่ตัวจะกระเด็นไปติดใต้ท้องรถหรู ลากไปไกลถึง 100 เมตร บนสะพานพระราม 3
วันที่ 21 ม.ค.64 เวลา 22.00 น. พันตำรวจโท แดนชัย ทูลอ่อง สว.(สอบสวน) สน.ปากคลองสาน ได้รับรายงานว่ามีอุบัติเหตุรถชนกันและมีผู้เสียชีวิต บนสะพานพระราม 3 มุ่งหน้าถนนรัชดา-ท่าพระ จึงประสานแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูมาที่เกิดเหตุทันที
ที่เกิดเหตุบนสะพานพระราม 3 มุ่งหน้าถนนรัชดา-ท่าพระ อยู่ระหว่างกลางแม่น้ำบนสะพานพระราม 3 แขวงบางคอแหลม เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร พบรถตู้คอนเทนเนอร์ยี่ห้อ มิตซูบิชิ ทะเบียนหน้า 71-2616 นครปฐม ของบริษัทขนส่งเอกชนแห่งหนึ่ง ทะเบียนตู้พ่วง 71-1259 นครปฐม จอดอยู่เลนซ้ายสุด ส่วนบริเวณช่วงกลางตู้คอนเทนเนอร์ พบรถจักรยานยนต์สภาพพังยับเยิน ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ 110i สีน้ำเงินคาดขาว ทะเบียน 2กฒ4074 ชลบุรี ห่างไปอีกประมาณ 100 เมตร พบรถนั่งบุคคล ยี่ห้อ เมอซีเรสเบนซ์ สีดำ รุ่น E350e ทะเบียน 9กอ4303 กทม. ในสภาพกระจกหน้าด้านซ้ายแตกหัก กันชนหน้าและประตูด้านซ้ายมีรอยพังเสียหาย บริเวณใต้ท้องรถช่วงหลังล้อหน้าด้านซ้ายพบร่างผู้เสียชีวิตโผล่ออกมาช่วงบริเวณขา ส่วนของลำตัวติดอยู่ใต้ท้องรถ ทราบชื่อต่อมาชื่อนาย สุทิวัส ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 27 ปี ประกอบอาชีพวิศวกรเครื่องกล สวมใส่เสื้อแจ๊คเก็ทสีเทา ทับด้วยเสื้อโปโลสีเทา กางเกงยีนส์ขายาวสีดำ ถุงเท้าสีดำ มีบาดแผลเปิดบริเวณศีรษะขนาดใหญ่ และบริเวณใบหน้าผิดรูปอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาเบิกโพรง มีเลือดไหลออกทางรูหู เนื้อตัวชุ่มไปด้วยเลือด
สอบถามคนขับรถตู้คอนเทนเนอร์ ชื่อนาย ไมตรี ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 53 ปี บอกเล่าว่า “ผมขับรถมาจากท่าเรือ จะไปส่งของประเภทเครื่องสุขภัณฑ์ ระหว่างทางที่ขับขึ้นสะพานมา รถบรรทุกหนัก ต้องขับชะลอช้าๆ ในเลนซ้ายสุด ก็ได้ยินเสียงดังมากเลย มีผู้หญิงอยู่คนนึงเค้าบอก มอไซค์ขับมาเร็วมาก ผมลงรถมาดูก็ไม่เห็นคน เห็นแต่รถก็เดินหากัน 4-5 คน ก็ไม่เจอ สุดท้ายไปเจอที่ใต้ท้องรถเก๋งลากไป”
ส่วนทางคุณ ปวีณา ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 55 ปี เป็นตัวแทนประกันภัย นั่งโดยสารมากับรถนั่งบุคคล บอกเล่าว่า “ตนเพิ่งกลับจากงานศพที่วัดคลองภูมิ ถนนพระราม 3 จะกลับที่พักที่เพชรเกษม ระหว่างทางขึ้นสะพานพระราม 3 มา ถึงที่เกิดเหตุเนี่ย ตนอยู่เลนที่ 2 จากซ้าย ก็มาตามทางปกติ พอตนถึงช่วงรถตู้คอนเทนเนอร์ ก็มีมอไซค์ขับมาเร็วมาก ชนกับตู้คอนเทนเนอร์แล้วก็เหมือนกับกระเด็นมาโดนรถตน ซึ่งตนก็บอกเพื่อนที่ขับมาด้วยกันให้จอดๆก่อน เหมือนโดนชนมอไซค์นะ ตอนนั้นตนตกใจและนั่งอยู่บนรถค้นหาเอกสารอยู่ สักพักตนก็ลงมาดู ก็ไม่เห็นอะไรนะ พอมองไปรอบๆ ก็เห็นรอยเลือด ตนจึงดูที่ใต้ท้องรถ เห็นขาคนยื่นออกมาที่หลังล้อหน้าด้านซ้าย ตนยิ่งตกใจใหญ่ว่า มายังไงเพราะตนไม่รู้สึกว่าทับหรือลากอะไรมาเลย รู้สึกแค่ว่ามีรถมอไซค์มากระเด็นโดนรถตนเท่านั้น”
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุบันทึกภาพเก็บรวบรวมหลักฐานจากจุดเกิดเหตุ และยกรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตนำเข้า สน.เพื่อเก็บรักษาไว้ ส่วนทางแพทย์นิติเวช สันนิษฐานการเสียชีวิตจากการถูกชนกระแทกอย่างแรง ทำให้มีบาดแผลฉกรรจ์บริเวณใบหน้าและศีรษะ เสียเลือดมาก ทำให้ทนพิษบาดแผลไม่ไหวจึงเสียชีวิตทันที แต่อย่างไรแล้วต้องส่งมอบให้กู้ภัยนำส่งสถาบันนิติเวช รพ.ศิริราช เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงก่อนจะติดต่อญาติมารับร่างกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.