หนุ่มป่วยซึมเศร้าปาดคอตนเอง แม่ร่ำไห้ขอร้องลูกอย่าทำแบบนี้อีก “เห็นลูกเจ็บแม่ยิ่งเจ็บกว่า” ย่านราษฎร์บูรณะ
วันที่ 22 มกราคม 2564 เวลา 12.00 น. อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง รับแจ้งจากศูนย์วิทยุกู้ชีพบูรณะ ( โรงพยาบาลราษฎร์บูรณะ ) มีเหตุขอความช่วยเหลือมีผู้บาดเจ็บจากการทำร้ายตนเอง ภายในซอยราษฎร์บูรณะ 22 จึงเร่งรุดจัดกำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่ออาสาสมัครไปถึงที่เกิดเหตุภายในซอยราษฎร์บูรณะ 22 พบเหตุอยู่ภายในบ้านลักษณะเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ปลูกติดกันหลายหลัง เหตุเกิดภายในบ้านเลขที่ 8/2 ซอยราษฎร์บูรณะ 22 แยกย่อยซอยที่ 1 เเขวงราษฎร์บูรณะ เขตราษฎร์บูรณะ จังหวัดกรุงเทพมหานคร จากการตรวจสอบภายในบ้านหลังดังกล่าว พบผู้บาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย ลักษณะนอนหงายหน้าหายใจรวยริน และมีบาดแผลถูกของมีคมบาดเข้าที่คอ เป็นแผลลึกประมาณ ครึ่งเซนติเมตร ความยาวของบาดแผลประมาณ 4 เซนติเมตร และที่ข้อมือมีบาดแผลจากของมีคมอีก 1 แผล ยาวประมาณ 4 เซนติเมตรมีเลือดไหลออกจนเลอะเสื้ออย่างเห็นได้ชัด นอนอยู่กับพื้นบ้านหลังดังกล่าว การแต่งกายสวมใส่เสื้อโปโลสีเหลือง กางเกงขายาวสีดำ ทราบชื่อผู้บาดเจ็บต่อมาชื่อนาย อนิวัฒน์ ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 21 ปี มีอาชีพเป็นพนักงานขายของอยู่ภายในห้างดังแห่งหนึ่งย่านราษฎร์บูรณะ อาสาสมัครจึงเร่งจัดอุปกรณ์ปฐมพยาบาลให้การช่วยเหลือเบื้องต้นอย่างเร่งด่วน แล้วนำส่งไปรักษาต่อที่ โรงพยาบาลราษฎร์บูรณะตามสิทธิ์การรักษา
สอบถามจากพ่อ ชื่อนาย ชัยยะ ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 70 ปี อดีตพนักงานโยธา สำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ เล่าว่า “เค้าเดินมาหาแล้วยกมือไหว้ พูดว่า ‘พ่อครับ หนูขอขมาลาโทษพ่อด้วยนะ ฝากบอกแม่ด้วย’ เราก็ถามว่าจะไปไหน เรามองไปก็เห็นรอยเลือดแล้ว ก็ตกใจ เค้าทำงานที่บิ๊กซีราษฎร์บูรณะ ขายของอยู่ชั้นล่าง มีอาการป่วยด้วยโรคซึมเศร้าเป็นมานานแล้ว ใช้มีดโกนปาดคอตัวเองแต่มีดโกนดังกล่าวไม่รู้เขาเอาไปไหนแล้ว เคยคิดฆ่าตัวตายแบบนี้หลายรอบแล้วแต่นานๆจะเป็นครั้งนึง เขาเป็นโรคซึมเศร้าถ้าใครมาพูดสะกิดใจเขาหน่อยเขาก็ทำแล้ว ”
ส่วน นาย พสิษฐ์ ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 54 ปี พนักงานฝ่ายรักษา กล่าวว่า ” ตนพักอาศัยอยู่ข้างบ้านเขา ก็เห็นว่าเขาเป็นบ่อยแล้วนะแบบนี้ คราวที่แล้วก็ผูกคอมาทีนึงแล้วแต่มีคนมาเห็นก่อนก็เลยมาช่วยไว้ทันเวลา แล้วมาคราวนี้ก็มาทำแบบที่เห็นกันอีก เห็นเขาว่ากันนะว่าเป็นโรคซึมเศร้าเหมือนกับแบบว่าถ้าเขาไม่ได้ในสิ่งที่คิดแล้วก็จะทำ พ่อ แม่ เขาเคยพาไปโรงพยาบาลโรคประสาทมาครั้งนึง แต่เขาไม่ไปเขาบอกเขาไม่ได้เป็นอะไร แต่สุดท้ายก็ไปส่วนหมอจะรับตัวไว้แต่เขาก็ไม่อยู่หมอก็เลยต้องให้กลับมาแล้วให้ยามากินแทน ”
ส่วนนาง บรรทม ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 53 ปี เป็นแม่ ทำงานเป็นพนักงานสวนสาธารณะ สำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ บอกว่า ” เค้าเป็นโรคซึมเศร้าตั้งแต่เด็ก เคยรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช พอเค้าได้ทำงานมีประกันสังคม ก็ไม่ได้ไปรักษาต่อ เพราะแม่เบิกค่ารักษาไม่ได้แล้ว เค้าก็ไปรักษาที่โรงพยาบาลราษฎร์บูรณะต่อ แต่เค้าไม่ยอมกินยา บางวันก็กินยาไม่ตรงเวลา ไม่ได้กินต่อเนื่อง เคยทำร้ายตัวเอง ด้วยการผูกคอมาแล้ว ตอนนั้น แม่จะไปหาหมอ เค้าจะไปด้วย เลยบอกไปว่า ไม่ต้องไปหรอก พ่อไปแล้ว แม่ไม่ค่อยมีเงิน เค้าก็คงน้อยใจ เลยผูกคอ แต่พ่อเค้าลืมบัตรเลยกลับบ้านมาก็เห็นเค้าผูกคอ หลังจากนั้นอีก เมื่ออาทิตย์ก่อน ก็กรีดข้อมือตัวเอง กลางดึกแม่ลุกมาเข้าห้องน้ำ เห็นเค้ายังไม่นอน ก็เข้าไปหา ทีนี่เห็นรอยเลือดหยดที่พื้น ก็ถามเค้า เลือดอะไร เค้าบอกว่า ใครไม่รู้ทำแก้วแตก แล้วเดินไปเหยียบ แม่ก็บอกกูไม่เชื่อมึงหรอก เค้าก็ย้อนแม่ ไม่เชื่อก็ไม่ต้องเชื่อ ไอ้เราก็ด้วยความโมโห เลยบอกไปว่า ไม่ต้องกรีดหรอกแขนขาอ่ะ กรีดคอไปเลย แต่ก็ไม่คิดว่าเค้าจะทำจริงๆ แม่พูดไปด้วยความประชด แม่อ่ะรักเค้ามาก ไม่อยากให้ทำแบบนี้เลย เห็นเค้าเจ็บแม่ก็เจ็บเหมือนกัน แล้วอยากจะให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือลูกของตนในเรื่องของบัตรผู้พิการทางระบบประสาท เพื่อที่จะได้ส่งลูกไปเข้ารับการรักษากับแพทย์เฉพาะทางได้ เพราะว่าตนเองทำงานโดยลำพัง จึงไม่มีเงินมากพอที่จะส่งให้ลูกของตนได้รับการรักษาอาการทางประสาทได้ ”
เบื้องต้นทางอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้นำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลราษฎร์บูรณะ เพื่อรักษาจากอาการบาดเจ็บจากบาดแผลที่โดนของมีคมบาดเข้าที่ลำคอและแขน ส่วนอาการล่าสุดตอนนี้ผู้ได้รับบาดเจ็บปลอดภัยแล้วทางแพทย์ผู้ให้การรักษาได้ให้ผู้บาดเจ็บนอนพักที่โรงพยาบาล เพื่อรอดูอาการก่อน เมื่อผู้บาดเจ็บอาการดีขึ้นแล้วถึงจะติดต่อให้ญาติมารับตัวกลับไป
โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.