อุทาหรณ์ สองสาวชาวเมียนมาทำอาหารจุดเตาถ่านไว้ในห้อง สำลักควันหวิดดับสลด ย่านประชาอุทิศ
วันที่ 23 พฤศจิกายน 2567 เวลา 21.33 น.
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งมีหญิงสาวทำร้ายตนเองด้วยการรมควัน ภายในห้องพักตนเอง เหตุเกิดภายในอาคารเพิ่มพูน ซอย ประชาอุทิศ จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู และอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ( อปพร.เขตราษฎร์บูรณะ ) เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาสาสมัครถึงที่เกิดเหตุ พบจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณด้านหน้าของอาคารเเห่งหนึ่ง ซอย ประชาอุทิศ ถนน ประชาอุทิศ แขวง บางมด เขต ทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร เป็นลักษณะอาคารสูง 5 ชั้น เหตุเกิดภายในห้องชั้นล่างสุดของตัวอาคารหลังดังกล่าว พบหญิงสาวชาวเมียนมา 2 ราย บริเวณด้านหน้าทางเข้าอาคาร มีอาการสำลักควันขั้นรุนแรง คนแรกทราบชื่อต่อมาชื่อนางสาว เอ็นตลุยอู อายุ 27 ปี อยู่ในลักษณะนอนหงายหน้าอยู่กับพื้นหายใจรวยริน มีกองอาเจียนอยู่ข้างศรีษะ สวมใส่เสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีขาว กางเกงขาสั้นสีน้ำตาล ไม่สวมรองเท้า อาสาสมัครให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นและได้ประสานกู้ชีพในระบบการแพทย์ฉุกเฉินเอราวัณ ให้มารับตัวนำส่งโรงพยาบาล สมเด็จพระปิ่นเกล้า ( โรงพยาบาลทหารเรือ ) เป็นการเร่งด่วน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย เป็นสาวชาวเมียนมาเช่นกันทราบชื่อต่อมาชื่อ นางสาว โนโน อายุ 29 ปี อยู่ในลักษณะนั่งอยู่บนเก้าอี้ สวมใส่เสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีน้ำตาล กางเกงขาสั้นสีขาว ไม่สวมรองเท้า มีอาการสำลักควันเช่นกัน แต่ยังรู้สึกตัวดีอยู่ในขั้นอาการที่ไม่หนักมาก อาสาสมัครให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วนำส่งโรงพยาบาลเจริญกรุงเป็นการเร่งด่วนทันที
และจากการสอบถาม นางสาว วงศ์เวียน อายุ 59 ปี พักอาศัยอยู่ตึกเดียวกัน บอกเล่าว่า เค้าไม่ได้รมควันตัวเอง เค้าทำกับข้าวส่งอีกที่นึง แต่จุดเตาถ่าน 2 เตา ทำกัน 2 คน ในห้องแล้วปิดประตู ควันเลยอบอยู่ในนั่น พอดี เพื่อนข้างห้องกลับจากทำงานเดินผ่านเลยเห็นควัน เลยช่วยเอาไว้
เบื้องต้นจากการตรวจสอบบริเวณหน้าห้องที่เกิดเหตุพบเตาอั้งโล่ ขนาดใหญ่ 1 ใบ และภายในห้องพบหม้อแสตนเลส มีถาดแสตนเลสอยู่บนหม้อดังกล่าว ข้างหม้อพบมีดกับเขียงไม้ แล้วก็มีผักอยู่ในถุงพลาสติก กะทิ 1 กล่อง คือทั้งหมดวางกองอยู่ใกล้กัน ขณะเกิดเหตุหญิงสาวทั้งสองคนกำลังจะทำกับข้าวเพื่อนำไปส่งให้เพื่อนที่ทำงาน แล้วได้จุดเตาถ่านเอาไว้ภายในห้องโดยที่ปิดประตูหน้าห้อง แล้วก็ปิดประตูหลังห้องเอาไว้ด้วย แล้วพอทั้งคู่ก่อเตาถ่านก็เกิดกลุ่มควันหนาแน่นพวยพุ่งออกมาจากเตาอั้งโล่ แล้วทีนี้ในเมื่อปิดประตูหน้าและประตูหลังทั้งหมด และภายในห้องก็ไม่มีหน้าต่าง ควันจากเตาถ่านก็ไม่มีที่ระบายออก ก็เลยอัดแน่นอยู่ภายในห้อง แล้วหญิงสาวทั้งสองคนก็เกิดสำลักควันอย่างรุนแรงจนนางสาว เอ็นตลุยอู ถึงกับล้มตัวลงนอนกับพื้นแล้วก็หมดสติไป ส่วน นางสาว โนโน ยังไม่หมดสติแต่ก็ทรุดตัวลงนั่งอยู่กับพื้นห้องไปแล้วจนกระทั่งเพื่อนข้างห้องกลับมาจากที่ทำงานแล้วเดินผ่านหน้าห้องดังกล่าวก็เห็นว่ามีควันลอดออกมาจากทางช่องประตูด้านล่างก็เลยเอะใจจึงตามคนภายในอาคารดังกล่าวมาช่วยกันดันประตู จนในที่สุดประตูห้องก็เปิดออก แล้วเห็นหญิงสาวนอนสลบอยู่ภายในห้องก็เลยรีบช่วยเหลือนำหญิงสาวทั้งคู่ออกมาด้านนอกอาคารเพื่อจะได้รับอากาศที่ถ่ายเท ส่วนเตาถ่านดังกล่าวเพื่อนที่อยู่ภายในอาคารก็ช่วยกันดับไฟแล้วนำเตาออกมาไว้ด้านนอก หลังจากนั้นก็เปิดประตูหลังและประตูหน้า นำพัดลมมาเปิดเพื่อเร่งระบายควันภายในห้องดังกล่าวออก แล้วก็แจ้งกู้ภัยให้มาช่วยเหลือ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวถือว่าเป็นอุทาหรณ์ของการทำอาหารด้วยเตาถ่านควรที่จะเปิดประตูหน้าต่างเอาไว้ด้วย เพราะเตาถ่านเมื่อทำการจุดไฟแล้วย่อมมีควันไฟจากถ่านหุงต้มเสมอ ไม่ว่าถ่านจะทำมาจากวัสดุชนิดไหนก็ตามก็ย่อมมีควันไฟที่ก่อให้เกิดอันตรายได้ทั้งนั้น