ข่าวทั่วไป

หนุ่มวัย 40 ปี กอดกรอบรูปครอบครัว รมควันตนเองดับภายในรถยนต์ ย่านตลาดพลู

หนุ่มวัย 40 ปี กอดกรอบรูปครอบครัว รมควันตนเองดับภายในรถยนต์ ย่านตลาดพลู

วันที่ 26 ม.ค.64 เวลา 8.30 น. ร้อยตำรวจเอก อภิวัฒน์ พวกอินแสง รอง สว.(สอบสวน) สน.ตลาดพลู ได้รับรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจากการรมควันในรถยนต์ บริเวณใต้บีทีเอสตลาดพลู จึงรีบประสานต่อไปยังแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มาสนับสนุนที่เกิดเหตุทันที จุดเกิดเหตุเป็นบริเวณใต้บีทีเอสตลาดพลู ถนนราชพฤกษ์ แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร พบรถยนต์ฮอนด้า BRIO สีขาว ทะเบียน ญส 7109 กทม.จอดอยู่บนทางเท้า มองเข้าไปภายในรถ พบเตาถ่าน จุดแล้วเหลือแต่ขี้เถ้าอยู่บริเวณเบาะข้างคนขับ ส่วนฝั่งคนขับพบร่างชาย 1 ราย ลักษณะนอนเอนเบาะไปข้างหลังบนตักมีกรอบรูปวางอยู่ สวมใส่เสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์ขาสามส่วน ทราบชื่อต่อมา นายกฤติกร ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 40 ปี

พนักงานทำความสะอาด ของ กทม. ชื่อนาง สิทธิสา ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 54 ปี เป็นคนมาเห็นคนแรก บอกว่า ตนมากวาดพื้นอยู่บริเวณ ก็เห็นรถคันนี้มาจอดอยู่ แต่ส่องดูแล้วตอนนั้นฟ้ายังมืดเลยมองไม่เห็นอะไร พอซัก 8 โมง มาดูอีกรอบ เพราะว่าเดี๋ยวตำรวจจะมาไล่ เป็นที่ห้ามจอด เลยมาดูก็เห็นว่ามีเตาถ่ายจุดไฟแล้ว ในใจก็คิดว่า คงใช่แหละ เลยเรียกลูกชายมาช่วยกันเคาะเรียกก็ไม่ตอบเลยโทรแจ้งตำรวจกัน ส่วนทางนาง องุ่น อายุ 45 ปี อาชีพขายพวงมาลัยอยู่บริเวณนี้ก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เมื่อช่วงเช้ามืด ตนมาเดินขายพวงมาลัย ก็เห็นรถคันนี้มาจอดแล้ว ก็มีคนกวาดพื้นมามองดู ก็ช่วยกันดูแต่มันมืดอยู่มองอะไรไม่เห็น พอฟ้าเริ่มสว่างก็มาดูกันอีกรอบ ส่องมองเข้าไปก็เห็นเตาถ่าน ก็ว่าใช่รมควันตัวเองแน่ๆ และก็ที่ตักเค้ามีกรอบรูปถ่ายอยู่ด้วย เลยรีบแจ้งตำรวจมาดูตรวจสอบดู

 

เมื่อเจ้าหน้าที่ให้อาสาสมัครเปิดประตูรถเข้าไปตรวจสอบดูและค้นหาเอกสารเพื่อติดต่อญาติมาที่เกิดเหตุเพื่อสอบถามสาเหตุของการเกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้ว่ามีสาเหตุมาจากเรื่องไร จน น.ส.ทาริดา ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 27 ปี เป็นภรรยาของผู้เสียชีวิตมาถึงที่เกิดเหตุและได้บอกกับเจ้าหน้าที่ว่า ก่อนหน้านี้เค้าเคยมีแฟนและถ้าเกิดทะเลาะกันเค้าจะมีพฤติกรรมแบบนี้ แม่เค้าเคยเล่าให้ฟังอ่ะนะ คือจะทำร้ายตัวเอง ครั้งแรก กระโดดตึกลงมา ครั้งที่ 2 ก็กินยาล้างห้องน้ำ แต่ก็พาไปล้างท้องทัน ทุกครั้งก็จะช่วยกันทัน แต่ครั้งนี้ก็น่าจะหมดเวรหมดกรรมกันจริงๆ เค้าทำงานในผับแห่งนึง อยู่ด้วยกันมาประมาณ 5 ปี มีลูกชายด้วยกันอายุ 3 ขวบ มีเรื่องทะเลาะกันมาเรื่อยจนต้องแยกห้องกันอยู่แต่ก็อยู่ในคอนโดเดียวกัน เค้าก็จะมาหาลูกตลอดๆ เราก็ไม่ว่าไร พอนานเข้าก็อยู่เลย เราก็บอกไปหาที่อยู่อื่นเถอะ เค้าก็ไม่ยอมไป เบื้องต้นแพทย์นิติเวช ส่งมอบให้กู้ภัยนำส่งสถาบันนิติเวชเพื่อชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้งก่อนจะให้ญาติมาติดต่อขอรับร่างกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.