ข่าวทั่วไป

กู้ภัยเร่งช่วยเหลือ สาวพม่าวัย 27 ปี ทนไม่ไหวคลอดลูกกลางทางภายในรถกระบะ ย่านสุขสวัสดิ์

กู้ภัยเร่งช่วยเหลือ สาวพม่าวัย 27 ปี ทนไม่ไหวคลอดลูกกลางทางภายในรถกระบะ ย่านสุขสวัสดิ์

วันที่ 27 มกราคม 2564 เวลา 13.30 น. อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้รับแจ้งจากทางศูนย์วิทยุกู้ชีพบูรณะ รพ.ราษฎร์บูรณะ มีหญิงคลอดบุตรภายในรถ บริเวณหน้าร้านเซียงกง ถนน สุขสวัสดิ์ จึงจัดกำลังพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ชีพ รพ.บางประกอก1 เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที เมื่ออาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุบริเวณหน้าร้านเชียงกงสุขสวัสดิ์ บ้านเลขที่ 176 ถนน สุขสวัสดิ์ แขวง ราษฎร์บูรณะ เขต ราษฎร์บูรณะ จังหวัด กรุงเทพมหานคร พบมีผู้หญิงคลอดบุตรออกมาแล้วทราบชื่อต่อมา ชื่อซองซองยู อายุ 27 ปี เป็นพนักงานของบริษัท 999 รุ่งเรืองเฟอร์นิเจอร์ อยู่ภายในรถกระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า สีบลอนเงิน ทะเบียน ถษ 2653 กรุงเทพมหานคร เหตุเกิดตรงบริเวณห้องโดยสารด้านหน้าตรงบริเวณเบาะนั่งผู้โดยสารข้างคนขับในลักษณะเบาะปรับเอนนอน บริเวณหว่างขาพบเด็กทารกเพศชาย แล้วที่บริเวณช่วงสะดือยังมีสายรกของเด็กติดอยู่ระหว่างเด็กกับแม่ อาสาสมัครจึงจัดอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้นเร่งให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนทันที

เบื้องต้นเด็กทารกที่คลอดออกมานั้นเป็นเพศชาย อ้วนท้วนสมบูรณ์แข็งแรงดี ส่วนหญิงคนดังกล่าวมีอาการปลอดภัยและมีสติถามตอบรู้เรื่องเป็นอย่างดี แล้วเมื่ออาสาสมัครให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้ว จึงนำแม่และลูกรีบส่งโรงพยาบาลบางประกอก1 ทันทีอย่างเร่งด่วน นายต้า อายุ 30 ปี เป็นชาวพม่า ผู้เป็นสามีของ นาง ซองซองยู บอกเล่าว่ากำลังจะพาภรรยาไปหาหมอที่โรงพยาบาลภูมิพลที่ภรรยาฝากท้องไว้ แต่พอมาถึงตรงนี้ภรรยาของตนเกิดทนไม่ไหวก็เลยคลอดลูกออกมาก่อนที่จะถึงโรงพยาบาล แต่กำหนดคลอดจริงๆที่หมอนัดจะเป็นวันที่ 31 มกราคม 2564 แต่ก็มาคลอดก่อน

ส่วนทางด้านผู้ขับขี่รถกระบะคันดังกล่าวชื่อนาย ต่อศักดิ์ แก้วคูณเมือง อายุ 30 ปี เป็นเพื่อนร่วมงานของทั้งคู่ เห็นว่าอาการของภรรยาน้าต้า ไม่ค่อยจะดีมีอาการปวดท้องหนักมากเหมือนคนใกล้จะคลอดก็เลยรีบพาขึ้นรถกระบะคันดังกล่าวเพื่อจะไปส่งที่โรงพยาบาลภูมิพล แต่พอขับมาถึงที่เกิดเหตุ นางซองซองยู บอกว่าทนไม่ไหวแล้ว ก็เลยจอดรถแล้วรีบโทรแจ้งหน่วยกู้ภัยมาช่วยทันที ส่วนรายงานเบื้องต้นตอนนี้ทั้งแม่และเด็กปลอดภัยถึงมือหมอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อาการของเด็กสุขภาพแข็งแรงดี ส่วนผู้เป็นแม่ก็แข็งแรงดีโดยรวมแล้วน่าจะใช้เวลาพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลสักระยะหนึ่งเพื่อรอดูอาการก่อน แล้วถ้าอาการของทั้งคู่ปลอดภัยดีแล้วไม่มีอาการอะไรแทรกซ้อนจะติดต่อให้ทางญาติมารับกลับบ้านทันที

โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.