ข่าวพาดหัวทุกข์ชาวบ้านอุทกภัย

สงขลา – ผลพวงน้ำท่วมใหญ่ในรอบกว่า 14 ปี ทำผู้ประกอบการฟาร์มกุ้งใน ต.จะโหนง อ.จะนะ จ.สงขลา อ่วมแทบหมดตัว หลังกกระแสน้ไหลเชี่ยวเข้ามาในบ่อและฟาร์มสูงกว่า 2 เมตร และน้ำเพิ่งแห้งเมื่อวานนี้ กระทบเครื่องจักร รถบรรทุก จมน้ำเสีบหาย ส่วนกุ้งลอยหายไปกับกระแสน้ำทั้งหมด สูญไปกว่า 10 ล้านบาท

03-12-67 พี่เสือ นักข่าวสงขลา
ผลพวงน้ำท่วมใหญ่ในรอบกว่า 14 ปี ทำผู้ประกอบการฟาร์มกุ้งใน ต.จะโหนง อ.จะนะ จ.สงขลา อ่วมแทบหมดตัว หลังกกระแสน้ไหลเชี่ยวเข้ามาในบ่อและฟาร์มสูงกว่า 2 เมตร และน้ำเพิ่งแห้งเมื่อวานนี้ กระทบเครื่องจักร รถบรรทุก จมน้ำเสีบหาย ส่วนกุ้งลอยหายไปกับกระแสน้ำทั้งหมด สูญไปกว่า 10 ล้านบาท
วันที่ 3 ธ.ค. 67 ที่ จ.สงขลา ผลพวงจากสถานการณ์น้ำท่วม ซึ่งรุนแรงในรอบกว่า 14 ปี ที่ผ่านมา ส่งผลทั้งบ้านเรือน ที่อยู่อาศัย ที่ทำกิน รวมทั้งในด้านการประกอบอาชีพต่างๆ ของประชาชนในพื้นที่
โดยมีภาพความเสียหายจากน้ำที่เข้าท่วมบริเวณฟาร์มกุ้งแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.จะโหนง อ.จะนะ จ.สงขลา ด้วยกระแสน้ำที่มาเร็ว ไหลเชี่ยวกราก และท่วมสูงกว่า 2 เมตร บางจุดอาจลึกกว่านั้น ส่งผลให้อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักร กังหันตีน้ำ เสียหายแทบทั้งหมด รวมถึงกุ้งที่เลี้ยงอยู่ภายในบ่อเลี้ยงก็ลอยหายไปกับกระแสน้ำจนหมดเกลี้ยงด้วย
นายสุรชัย แซ่ว่อง รองผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัด ว่องสหการเกษตร เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า น้ำได้เข้าท่วมประมาณช่วงบ่ายของวันที่ 28 พ.ย. ที่ผ่านมา น้ำมาเร็วไหลเชี่ยวมาก และระดับน้ำก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในพื้นที่ของบ่อกุ้งจากระดับพื้นดินน้ำสูงกว่า 2 เมตร ส่วนของออฟฟิศน้ำท่วมสูงกว่า 1.6 เมตร เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้คลองนาทับ และมีน้ำป่ามาสมทบ รวมทั้งสภาวะน้ำทะเลหนุน
ซึ่งเหตุการณ์น้ำท่วมแถวนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในช่วงกว่า 10 กว่าปี ที่ผ่านมา ที่ได้มาเปิดเป็นฟาร์มกุ้งในเนื้อที่ 350 ไร่ ซึ่งฟาร์มแห่งนี้ มีบ่อกุ้งทั้งหมด 30 บ่อ ลงกุ้งไว้ประมาณ 13 บ่อ โดยในช่วงก่อนน้ำท่วมได้เตรียมการรับมือเอาไว้ก่อนแล้ว รวมทั้งได้กุ้งที่พอจะขายได้ขายก่อนได้เพียง 3 บ่อ เท่านั้น


และเมื่อน้ำเริ่มท่วมเข้ามา ก็ได้เร่งอพยพคนงานที่อยู่ตามบ้านพักให้เข้ามาอยู่ภายในออฟฟิศ เพราะ มี 2 ชั้น พร้อมให้ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง ด้วยเหตุที่ว่าน้ำมาเร็วมาก ส่วนกุ้งที่เหลือนั้น ไม่สามารถนำขึ้นมาขายได้ทัน เพราะ ชีวิตคน ชีวิตของพนักงานสำคัญกว่า
นายสุรชัย บอกว่า บริเวณนี้น้ำได้เริ่มลดลงตั้งแต่ช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ (2 ธ.ค.) ที่ลดช้า เพราะ มีน้ำทะเลหนุน จากนั้นจึงได้เข้ามาช่วยกันทำความสะอาด และสำรวจความเสียหาย ซึ่งเมื่อได้ลองสูบน้ำขึ้นมาจากบ่อ ปรากฏว่า ไม่มีกุ้งหลงเหลืออยู่เลย และดูในภาพรวม กุ้งดำที่เลี้ยงไว้หายไปกว่า 15 ตัน และกุ้งขาวอีกราว 20 ตัน รวมประเมินความเสียหาย ประมาณ 7 ล้านบาท และยังมีกุ้งขนาดเล็กอายุ 7 วัน-40 วัน ที่เริ่มทยอยตาย เพราะ ขาดออกซิเจน เนื่องจากเครื่องทำออกซิเจนถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย


โดยหากประเมินความเสียหายในเบื้องต้น ทั้งเครื่องมือ เครื่องจักร ระบบบ่อกุ้งที่ได้รับความเสียหายทั้งหมด และรถบรรทุกอีก 8 คัน ที่โดนน้ำท่วมจนจมมิด รวมทั้งกุ้งที่เลี้ยงไว้ น่าจะไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท โดยจะต้องเร่งหางบประมาณมาช่วยฟื้นฟู เพื่อให้สามารถกลับมาดำเนินกิจการให้เร็วที่สุด
แต่โชคดีส่วนหนึ่งที่รถมีประกันดูแล ส่วนอื่นๆ หากภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือเยียวยา ก็ถือว่าเป็นเรื่องดี และขอให้ช่วยอย่างเท่าเทียม เพราะ ทุกพื้นที่ได้รับผลกระทบเหมือนกัน โดยเฉพาะผู้ประกอบการฟาร์มกุ้งในละแวกใกล้เคียง
/////