ข่าวทั่วไป

ชาวบ้านสงสัยรถพ่วงตู้คอนเทนเนอร์ เกี่ยวสายเคเบิลทำให้เสาสื่อสารล้มขวางถนนปิดกั้นทางเดินรถ ย่านทุ่งครุ

ชาวบ้านสงสัยรถพ่วงตู้คอนเทนเนอร์ เกี่ยวสายเคเบิลทำให้เสาสื่อสารล้มขวางถนนปิดกั้นทางเดินรถ ย่านทุ่งครุ

วันที่ 30 มกราคม 2564 เวลา 13.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งครุ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุกู้ชีพบูรณะ ( โรงพยาบาลราษฎร์บูรณะ ) มีเหตุเสาไฟฟ้าล้มปิดกันการจราจร ทำให้เกิดรถติดหนาแน่นภายในซอย ประชาอุทิศ 76 จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรีบรุดจัดกำลังพร้อม เจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวง เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าไปถึงที่เกิดเหตุ พบเหตุเกิดขึ้นบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 125 แขวง ทุ่งครุ เขต ทุ่งครุ จังหวัด กรุงเทพมหานคร เป็นลักษณะล้มพาดขวางถนน ก่อนขึ้นสะพานข้ามคลองรางตัน จนทำให้การจราจรติด เนื่องจากซอยดังกล่าวเป็นเส้นทางลัดออกถนนเลียบด่วนทุ่งครุและเส้นทางดังกล่าวจะเป็นเส้นทางหลักที่ประชาชนใช้สัญจรไปมาเป็นประจำ จากการตรวจสอบเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าพบว่าเสาต้นดังกล่าวเป็นเสาสื่อสาร ( เสาสัญญาณโทรศัพท์ ) ขนาดความยาวของเสา 6 เมตร ขาดออกจากโคนเสาด้วยแรงกระชากอย่างรุนแรง แล้วทำให้ไปเกี่ยวกับกิ่งต้นมะม่วงของบ้านเลขที่ 125 หักเสียหายแล้วหล่นลงมาทั้งกิ่งไม้และเสาสื่อสารต้น แล้วยังส่งผลทำให้เสาไฟฟ้าของการไฟฟ้าซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของคลองรางตัน มีร่องรอยของการแตกร้าวอย่างเห็นได้ชัดเจน เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าจึงเร่งประสานต่อไปยังบริษัท ที่ให้บริการทางด้านอินเตอร์เน็ต และโทรศัพท์ ของค่ายยักษ์ใหญ่ รวมทั้งค่ายอื่นๆที่ใช้เสาต้นดังกล่าวให้รีบเร่งมาแก้ไขอย่างเร่งด่วนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน และผู้ใช้บริการของค่ายอินเตอร์เน็ต แล้วโทรศัพท์ต่อไป คาดว่าจะใช้เวลาแก้ไขและเปิดใช้งานการเดินรถของถนนเสร็จสิ้นดังกล่าวได้ภายใน 3-4 ชั่วโมง

จากการสอบถามจากชาวบ้านบริเวณแถวนี้ และตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดภายในภาพเหตุการณ์ในช่วงเวลาก่อนที่เสาสื่อสารจะล้มนั้นพบว่ามีรถพ่วงตู้คอนเทนเนอร์ วิ่งผ่านมาแล้วข้ามสะพานคลองรางตันไปแล้วสักพักก็จะเห็นว่ามีการกระชากอย่างแรงที่บริเวณสายเคเบิลอย่างเห็นได้ชัดเจนเมื่อดูภาพจากกล้องวงจรปิดและไม่นานเสาต้นดังกล่าวก็ล้มลงทันที ซึ่งสอดคล้องกับ นาง อำพร อายุ 60 ปี ผู้พักอาศัยอยู่ภายในบ้านเลขที่ 125 แล้วเสาต้นดังกล่าวก็ตั้งอยู่บริเวณหน้าบ้านพอดี บอกเล่าว่า ตอนเกิดเหตุนั้นภายในบ้านมีผู้พักอาศัยอยู่ 3 คน ในช่วงเวลาดังกล่าวได้ยินเสียงโครมดังสนั่นแล้วมีฝุ่นควันขึ้น ทุกคนในบ้านต่างตกใจกลัวแล้วรีบวิ่งออกมาจากบ้านพักอาศัยเพื่อมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นก็พบกับเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว แต่ยังถือว่าเคราะห์ดีที่รั้วบ้านของเขา ไม่เป็นอะไร จะมีทรัพย์สินที่เสียหายก็แค่กิ่งของต้นมะม่วงแค่นั้น ก็ไม่ติดใจเอาความกับใคร แต่ก็โล่งใจที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว

ส่วนทางเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเบื้องต้นได้นำรถเครน และอุปกรณ์มาช่วยเร่งเก็บกู้เสาต้นดังกล่าว และกิ่งของต้นมะม่วงให้พ้นจากถนน เพื่อเร่งการเปิดจราจรให้ใช้ได้อย่างปกติโดยเร็ว และสายเคเบิลที่พาดผ่านถนน ทางเจ้าหน้าที่จากค่ายโทรศัพท์หลายค่าย ได้จัดเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ลงพื้นที่เร่งให้การซ่อมแซมต่อไปคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมงจึงจะทำการซ่อมแซมได้ทั้งหมดและจะเปิดการจราจรได้อย่างปกติ ส่วนเรื่องของคดีความต้องรอผลจากการสรุปของเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งและประเมินถึงความเสียหายก่อน ถึงจะรวบรวมหลักฐานดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.